TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2567/08/12

Madrid day 2 "Historical Center and Old Town" (เดินชมเมืองเก่ามาดริด-ทานชูโรสร้านดัง)

 วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2567

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปสเปนแล้วค่ะ ตื่นมาเช้านี้อากาศหนาวมาก 

อาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปทานอาหารเช้าค่ะ



เวลา 08:30 น.เดินทางออกจากที่พัก พวกเรามีเวลาครึ่งวันเข้าไปเที่ยวย่านเมืองเก่าต่อค่ะ

Torrespaña (Towerspain) 
It is a 232 m high reinforced concrete freestanding broadcasting tower. 

หอคอยสเปนเป็นหอสื่อสารโทรคมนาคมสูง 232 เมตร อยู่ทางทิศใต้ของสะพาน Ventas Bridge

Plaza de Toros de Las Ventas is the largest bullfighting ring in Spain.

 It was inaugurated on June 17, 1931. 
Its seating capacity of 23,798 that makes it the third largest bullfighting in the world.

Las Ventas เป็นสนามสู้วัวกระทิงที่ใหญ่ที่สุดในสเปน
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1931 มีความจุผู้ชมมากเป็นอันดับสามของโลก

Plaza de Mariano de Cavia

ด้านหน้าคือสถานีรถไฟอาโตชา เป็นสถานีหลักของเมืองมาดริด

Estación de Atocha (Atocha Station)
It is the first major railway station in Madrid and the largest station in Spain.

The original façade faces Plaza del Emperador Carlos V.

The Monument to the Lawyers of Atocha (The hug)

เดินทางมาถึงย่านกลางเมืองเก่าบริเวณนี้คือจตุรัส Plaza de la Provincia

Memorial to the Accession of Spain to the European Economic Community
It is an old cemetery in the city center.

ทางเข้าไปยังจตุรัส Plaza Mayor มีหลายประตู พวกเราเดินเข้าทางประตูทิศตะวันออก

Gerona Gate

Plaza Mayor (Town square)
Madrid’s grand central square is found in the heart and the oldest part of Madrid.

Plaza Mayor แปลว่าจตุรัสหลักของเมือง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าเป็นศูนย์รวมในการทำกิจกรรมต่างๆ
เช่นการจัดงานพิธี ตลาด สนามสู้วัวกระทิง และลานประหารชีวิต

The equestrian statue of King Philip III
 It was found in the centre of the square. It was started built in 1616. It originally stood at the entrance to the Casa de Campo Park, but Queen Isabella II had it moved to the Plaza Mayor in 1848 .

ตรงกลางจตุรัสมีพระบรมรูปทรงม้าพระเจ้าฟิลิปที่ 3 สร้างขึ้นในปี 1616 และนำมาไว้ที่จตุรัสนี้ในปี 1848

In the center of the north side of the square stands the Casa de la Panadería.

The Casa de la Panadería (Bakery House)
It  was erected during the construction of the Plaza Mayor in 1619.

In the beginning, it has served as the town’s main bakery, Royal Academy of Fine Arts and 
the Academy of History. Today it houses the Plaza Mayor Tourist Information Centre 
and the Tienda Casa de la Panadería, souvenirs shop.

อาคารที่โดดเด่นที่สุดของจตุรัสทางทิศเหนือคือ Casa de la Panadería โดดเด่นด้วยหอนาฬิกาสองยอด 
เริ่มแรกเป็นร้านเบเกอรี่ เคยเป็นที่ตั้งของสถาบันศิลปะ สถาบันประวัติศาสตร์ 
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวมาดริด

The façade is covered by exquisite frescoes painted in 1992, and which feature mythological figures that are linked to the history of Madrid, such as Cybele, Proserpine, Bacchus, and Cupid.

ผนังด้านหน้าอาคารประดับด้วยภาพวาดเฟรสโก เป็นรูปเหล่าเทพในตำนานหลายองค์เช่น กาพเทพ

The Casa de la Carnicería (Butcher's House)
It is a building located on the south side of the Plaza Mayor. It has been used as the Third Town Hall.

อาคารสีแดงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทางทิศใต้คือ Casa de la Carnicería เคยเป็นศาลาว่าการเมืองหลังที่สาม

Plaza Mayor is a rectangular porticoed plaza, 120.9 meters long and 93.06 meters wide.
It was completed in 1619 and has undergone many transformations due to successive fires.

It is completely enclosed by three-story residential buildings with the ground floor porticoed 
with a total of 237 balconies overlooking the plaza.

จตุรัสนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 1619 เป็นลานกว้างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 93 เมตร ยาว 120 เมตร
ทั้งสี่ด้านล้อมรอบด้วยอาคารเก่าแก่ทาสีแดง มีระเบียง 237 อันหันหน้าเข้าสู่จตุรัส

There are ten entrances to enter or exit the Plaza Mayor.

ทางเข้าจตุรัสมีสิบทางตั้งอยู่ทั้งสี่ด้าน อันนี้คือ Felipe III Gate อยู่ทางทิศเหนือ

เดินออกทางประตู 7 de Julio Gate ที่อยู่ทางทิศเหนือเพื่อไปยังถนน C. Mayor

7 de Julio Gate (Streets of Madrid: July 7) connects Calle Mayor with Plaza Mayor.

Mercado de San Miguel (San Miguel Market)

ตลาตซานมิเกลสร้างเสร็จในปี 1916 ตัวอาคารเป็นโครงเหล็กประดับกระจก ใช้เป็นตลาดสดประจำเมือง
ตลาดเปิดเวลา 10:00-24:00 น. พวกเราเลยไม่ได้เข้าไปชม

Plaza de la Villa was one of the main centres of the medieval capital. 
Enclosed on three sides by preserved examples of 17th-century Madrid-style baroque architecture. 

จตุรัสลาบียาอยู่ห่างจากตลาดมาประมาณ 200 เมตร
ตรงกลางมีรูปปั้นของ Álvaro de Bazán ทหารเรือสเปนซึ่งเป็นผู้นำรบในการบุกอังกฤษ

Statue of Álvaro de Bazán

The Casa Cisneros (Cisneros House)
It is a palace built in Plateresque style in 1537. It stands at the southern part of the plaza.

อาคารที่อยู่ทางทิศใต้ของจตุรัสคือ Casa de Cisneros สร้างขึ้นในปี 1537 ด้วยสถาปัตยกรรม Plateresque 
เดิมเป็นเรือนจำ ปัจจุบันเป็นที่พักของนายกเทศมนตรีมาดริด

 Casa de la Villa 
It served as Madrid’s Town Hall from 1692 until 2007. It is situated on the western side of the square.


อาคารหลังใหญ่ที่สุดอยุ่ทางทิศตะวันตกของจตุรัส สร้างขึ้นในปี 1645
เคยเป็นศาลาว่าการเมืองแมดริดนานนับร้อยปี ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปี 2007

It is the 17th-century, in Habsburg-style baroque with Herrerian slate-tile spires. 

The building has two facades: one facing Plaza de la Villa and another facing Calle Mayor. 

อาคารเก่าแก่ที่สุดอยู่ทางทิศตะวันออกของจตุรัส

Torre De Los Lujanes (Lujanes house and tower)
It is one of Madrid’s oldest buildings dating back from late 15th-century with Gothic-Mudéjar style. 
It is the headquarters of the Royal Academy of Moral and Political Sciences.

ชมจตุรัสลาบียาเสร็จก็เดินย้อนกลับไปตามถนน C. Mayor

 C. Mayor is a centric street in Madrid. It starts in the Puerta del Sol and ends at the cuesta de la Vega.

ทางซ้ายมือคือถนน C. de Bordadores เป็นทางไปโบสถ์ Saint Genesius (Church of San Ginés)

Belfry of the Saint Genesius Church

เดินเข้าไปยังถนน C. de los Coloreros ประมาณ 50 เมตรเพื่อไปยังร้านชูโรสชื่อดัง

Chocolatería San Ginés
Chocolate and Churros since 1894 : Open 24 hours a day, every day of the year

Plazuela de San Ginés (San Gines square)
It is a small and charming square in the historic center of Madrid.

San Ginés passageway

ร้านชูโรสนี้ตั้งอยู่ในจตุรัส San Gines square ซึ่งอยู่ด้านหลังโบสถ์ชื่อเดียวกัน

ร้านนี้ชื่อดังที่สุดในมาดริดเป็นร้านเก่าแก่เปิดมาตั้งแต่ปี 1894 ร้านเปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน

The sign "Posting of posters is prohibited" remains firmly on the wall.

Pasadizo de San Ginés (San Gines Passageway)

ราคาชูโรสแบบซื้อกลับบ้าน

เช้านี้คนค่อนข้างเยอะ แทบไม่มีที่นั่งทานในร้าน พวกเราเลยซื้อแบบกลับบ้านค่ะ

ชูโรส 1 ถุง และช็อกโกแลตร้อน 1 แก้ว  (a traditional chocolate with churros)

ชูโรสมีน้ำมันเยอะมาก แต่ทานตอนร้อนๆจิ้มช็อกโกแลตก็อร่อยดีค่ะ

The Chocolatería de San Ginés is one of the oldest chocolate shops in the capital. 

ทานชูโรสเสร็จก็เดินออกมายังถนน C.del Arenal

C.del Arenal (Arenal Street) is a popular historic street in Madrid.

ถนนอารีนอลเป็นถนนเก่าแก่ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและโรงแรม

Arenal Street runs between Puerta del Sol and Plaza de Isabel II (Opera).

ถนนนี้ตั้งต้นจากจตุรัส Puerta del Sol ไปสิ้นสุดที่จตุรัส Plaza de Isabel II 

ซากุระกำลังบานเลยค่ะ


Barça Store Madrid

The FC Barcelona team has an official store in the heart of Madrid, located in Calle Arenal.
 It is the first one outside Catalonia and managed 100% by the Club.

There is a mosaic created from traditional Madrid tiles at the entrance, with an image that pays tribute to the city of Barcelona and some of the most unique monuments of Catalan culture. 

ช็อปบาร์ซาร์ตั้งอยู่บนถนน C.Arenal มีสองชั้นของเยอะมากค่ะ

ทีมโปรดของมป ต้องซื้อของที่ระลึกค่ะ

Museo del Jamón

เดินมาถึงจตุรัส Puerta del Sol

The Puerta del Sol (Sun Gate)
It was originally one of the entrances to the wall that surrounded Madrid in the 15th century. 

จตุรัสนี้มีชื่อเรียกว่าประตูพระอาทิตย์ เพราะในศตวรรษที่ 15 มีการสร้างประตูเมืองขึ้นที่นี่
ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมือง เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจะมองเห็นผ่านทางประตู (Sol แปลว่าพระอาทิตย์)

ทางทิศใต้ของจตุรัสมีอาคารหลังใหญ่สีแดงขาวด้านบนมีหอนาฬิกาและหอระฆังชื่อดังของเมือง

The Real Casa de Correos (Royal Post Office)
 It was built in 1760, the oldest building in the Puerta del Sol. There is the famous clock on the tower.
The centuries-old clock takes center stage on the night of December 31 due to the chimes that mark the ritual of the twelve grapes.

อาคารหลังนี้เดิมเป็นที่ทำการไปรษณีย์และสำนักงานตำรวจ ปัจจุบันเป็นสภาชุมชนมาดริด
ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ชาวมาดริดจะมารวมตัวกันเพื่อกินองุ่น 1 ลูกในแต่ละครั้งที่ระฆังตีจนครบ 12 ลูก
ด้านหน้าประตูตรงที่คนหนาแน่น มีป้ายจารึกกิโลเมตรที่ 0 อยู่บนพื้น เป็นจุดเริ่มต้นของถนนทั้งหกสาย

 The historical plaque on kilometer zero is  In front of the main door of the building.
Origin of the radial roads and the numbering of the streets of Madrid

Equestrian statue of Charles III

อนุสาวรีย์ของกษัตริย์คาร์ลอสที่ 3

 The old Hotel Paris (where the Tío Pepe sign was located )
"Tío Pepe" is a famous advertisement sign for dry wine brand that located in the square since 1936. 

ทางทิศตะวันออกของจตุรัสคือทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน Sol

Sol station

ใกล้ๆสถานี Sol มีรูปปั้นชื่อดังของมาดริดคือ "รูปปั้นหมีเกาะต้นสตรอเบอรี่"

The statue of the Bear and the Strawberry Tree (El oso y el madroño)
It represents the heraldic arms of the town. 

It was inaugurated on January 10, 1967 on the eastern side of the Puerta del Sol.
It is made of stone and bronze, weight 20 tons and 4 m high.

รูปปั้นนี้ทำมาจากหินและสัมฤทธิ์ หนักประมาณ 20 ตัน สูง 5 เมตร นำมาติดตั้งที่จตุรัสในปี 1967

รูปปั้นนี้อยู่บนตราสัญลักษณ์ประจำเมืองมาดริด

This statue is the icon of Madrid and many people are touching the bear for good luck.

มีความเชื่อว่าถ้าสัมผัสที่ตัวหมีแล้วจะโชคดี

คุณป๋ากับมปแตะได้ถึงหางหมี ส่วนแม่ตุ๊กแตะได้ถึงแค่เท้าค่ะ

รูปปั้นโดนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกันมากจนก้นหมีแววเลยค่ะ




เดินออกจากจตุรัสไปตามถนน Carrera de San Jerónimo

 It is a street in the centre of Madrid parallel to Calle Alcalá.

Plaza de Canalejas (Canalejas Square) 
The urban space is nestled between buildings of unique architecture.

The two of the most emblematic buildings in the Plaza de Canalejas: 
the Allende house and the Meneses building

จตุรัส Canalejas Square เป็นที่บรรจบของถนนห้าสาย ล้อมรอบด้วยอาคารสวยงามตกแต่งหรูหรา
อาคารสองหลังที่อยู่ทางทิศตะวันออกสวยโดดเด่นที่สุดคือ Allende house และ Meneses building

เดินขึ้นเหนือไปตามถนน C.de Seville

เลี้ยวขวาเดินต่อไปตามถนน C.de Alcalá

Petit Palace Alcalá boutique hotel

Church of the Calatravas
The church originally belonged to a convent, built between 1670 and 1678.

The external façade was revamped in 1866. It was built in neo-Renaissance with red terracotta colour to the whole façade. The rose window in the central section reproducing the cross of Calatrava.

โบสถ์ Calatravas สร้างในปี 1670-1678 เพื่อเป็นโรงเรียนสอนศาสนา ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นโบสถ์
ผนังด้านหน้าได้รับการตกแต่งใหม่ในปี 1866 ประดับด้วยหินสีแดง ตรงกลางเป็นกระจกลายกุหลาบ 

The church was declared Bien de Interés Cultural in 1995. 

 Ibercaja Banco is a Spanish financial services company.


Metropolis Building (Edificio Metrópolis)
It is an office building at the corner of the Calle de Alcalá and Gran Vía, inaugurated in 1911.

อาคารสำนักงานเมโทรโพลิส ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน C. Alcalá และ Gran Vía เปิดใช้งานในปี 1911

It was built in neo-renaissance with Corinthian columns and a slate dome with golden incrustations. 
Victoria Alada is a bronze statue depicting a winged victory (Nike) topping the dome.

อาคารเมโทรโพลิสเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองมาดริด 
อาคารสีขาวตอนนี้กำลังซ่อม หลังคาเป็นโดมสีดำและทอง ด้านบนมีรูปปั้นของเทพธิดาแห่งชัยชนะ

The Metrópolis Building is one of the main icons of the Gran Vía Madrid.

เดินต่อไปตามถนน C. Alcalá อาคารสีส้มที่อยู่ตรงข้ามคือโบสถ์เซนต์โยเซฟ

Church of Saint Joseph


ข้างหน้าคือจตุรัส Plaza de Cibeles

เดินย้อนกลับทางเดิม

เดินชมอาคารเก่าแก่สองข้างทาง


Palace of Equitative
The most iconic building that makes up the multi-use project includes Four Seasons Hotel Madrid. 
It was originally known as El Palacio de la Equitativa.

 It was built in 1887, located on a trapezoidal plot of C. Alcalá and C.Sevilla.

The rotunda has a clock and bell, flanked by two statues symbolising life and death. 
"Life" holds an hourglass and "Death" hold a wheel of fortune, and clock symbolising "Time"

อาคาร Palacio de la Equitativa สร้างขึ้นในปี 1887 ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน C. Alcalá และ C.Sevilla
ด้านบนเป็นหอระฆัง ด้านล่างเป็นนาฬิกา ด้านข้างมีรูปปั้นสีทองที่แสดงถึงการมีชีวิตและความตาย


อาคารด้านหน้าคือ Royal Casino of Madrid

It was a social club in 1836.The most distinguished social events in Madrid are held at the Club.
 It was declared Bien de Interés Cultural in 1993.

อาคารสีขาวหลังใหญ่นี้คือสโมสรของเมืองมาดริด เป็นที่จัดงานหลายอย่าง สร้างขึ้นในปี 1836


San Fernando Fine Art Royal Academy (พิพิธภัณฑ์ศิลปะ)


เวลา 11:00 น. ออกเดินทางไปสนามบินนานาชาติมาดริดบาราคัส

Fountain of Neptune




สนามบินนานาชาติมาดริดบาราคัสอยู่ห่างจากตัวเมืองมาดริดประมาณ 15 กม.

เวลา 12:00 น. มาถึงสนามบินเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จก็ไปทานอาหารเที่ยงด้านใน

มื้อนี้ทานอาหารญี่ปุ่นกันค่ะ

นั่งรถไฟต่อไปยังเกท



เวลา 14:00 น.ออกเดินทางกลับเมืองไทยด้วยสายการบินเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ


Adiós España 

วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 
เวลา 13:00 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น