TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2567/06/02

Granada and The Generalife - Alhambra (เที่ยวกรานาดา ชมสวนสวยของพระราชวังอัลฮัมบรา)

 วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567

เวลา 6:00 น.ตื่นมาตอนเช้าพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แต่เริ่มมีแสงจากด้านหลังเทือกเขา

เวลา 7:00 น. ลงมาทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารชั้นล่าง

เบคอน ไส้กรอก ไข่ ขนมปัง

เครื่องดื่ม ผลไม้ คุกกี้วีแกน

โกโก้ขวดนี้อร่อยมากๆค่ะ เขย่าให้เข้ากันก่อนดื่มเข้มข้นมาก


ผักย่างอร่อยค่ะ

ทานอาหารเสร็จก็ออกมาเดินเล่นด้านหน้านอก

ด้านหน้าโรงแรมเป็นวงเวียนมีประติมากรรมอยู่ตรงกลาง

Mediterranean Sea sculpture


อากาศตอนเช้าค่อนข้างเย็น เดินเล่นสักพักก็กลับขึ้นห้องไปเก็บของเพื่อเช็คเอ้าท์ค่ะ

The Region of Murcia is located in the southeastern part of Spain, on the Mediterranean coast.

มูร์เซีย เป็นเมืองหลวงของแคว้นมูร์เซีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศสเปน

เวลา 8:30 น.ออกเดินทางไปยังเมืองกรานาด้า ระยะทางประมาณ 300 กม.

เดินทางไปตามถนน Rda. de Levante ทางขวามือคืออาคารราชการ



ด้านหน้าคือจตุรัส La Redonda (The Circular Square of Murcia)

จตุรัสนี้เป็นวงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในวงเวียนกลางถนน เป็นสถานที่พักผ่อนเดินเล่นมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง

It is one of the most important squares in Murcia. The vehicles circulate around the square.

เดินทางออกนอกเมืองมูร์เซียไปทางทิศใต้

ภูมิประเทศบริเวณนี้เต็มไปด้วยเทือกเขา ถนนคดเคี้ยวไประหว่างช่องเขา

เวลา 10:30 น.แวะพักครึ่งทางที่เมือง Chirivel, Almería ดอกอัลมอนด์กำลังบานเลยค่ะ

Almond blossoms is a welcome sign that spring was on the way in Spain.

ดอกอัลมอนด์บานในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม เป็นสัญลักษณ์ว่าจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว

 The almond blossom season is spanning from late January to early March.

ตอนแรกดูไกลๆเหมือนซากุระ แต่กลีบดอกและลำต้นไม่เหมือน

The White Blossoms
They are the Sweet Almond trees. It is revered for its delicious almonds used in Spanish cuisine. 

อัลมอนด์ดอกสีขาว เป็นพันธุ์ที่ใช้มาทำอาหารและขนม มีรสชาติหวานอร่อย

สเปนเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตอัลมอนด์รายใหญ่ที่สุดในโลก มีต้นอัลมอนด์ปลูกอยู่ตลอดเส้นทาง 

Spain is the world's biggest exporters of almonds.

The Pink Blossoms
They are the Bitter Almond trees. It is used in cosmetic and medicinal products from oil extracted.

อัลมอนด์พันธุ์ดอกสีชมพู มีรสขมไม่นิยมนำมาทาน 
แต่ใช้เมล็ดสกัดน้ำมันมาทำผลิดภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องสำอางค์และยา


Hotel Restaurante Casa Lorenzo


ไปเข้าห้องน้ำด้านในร้านอาหารค่ะ

ด้านในร้านอาหารจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหมูไอเบอริโก้


เข้าห้องน้ำ ทานขนมเสร็จก็ออกเดินทางต่อค่ะ อากาศที่เมืองนี้หนาวมาก

เข้าสู่เขตเมืองกรานาด้า มองเห็นเทือกเขา Sierra Nevada ด้านบนมีหิมะปกคลุมเหมือนหิมาลัย

เซียร์ราเนวาดา เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ในเมืองกรานาด้า แคว้นอันดาลูเซีย 
มียอดเขา  Mulhacén เป็นจุดสูงสุดของสเปน สูง 3,479 เมตรจากระดับน้ำทะเล

Sierra Nevada  is a mountain range in the Andalusian province of Granada in Spain.
It contains the highest point of continental Spain "Mulhacén", at 3,479 metres above sea level.

Sierra Nevada is Spanish meaning "snow-covered mountain range"

มองเห็นตัวเมืองกรานาด้า

เวลา 12:00 น. ทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารท้องถิ่นใกล้ตัวเมืองกรานาด้า

Restaurante Camaura

ร้านค่อนข้างใหญ่มีสองส่วน indoor and outdoor ด้านนอกเป็นสวน 

ตอนนี้ร้านเพิ่งเปิดยังไม่มีลูกค้า ด้านในตกแต่งสวยดีค่ะ


นั่งรอพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟ

ขนมปัง ซุป สเต็กหมู ปิดท้ายด้วยไอศกรีม

ทานอาหารเสร็จก็เดินทางต่อค่ะ

ตอนบ่ายนี้พวกเราจะไปชมพระราชวังอัลฮัมบรากันค่ะ ระยะทางประมาณ 10 กม.

Nevada Shopping Mall


เทือกเขา Sierra Nevada มองเห็นได้จากทุกมุมของเมืองกรานาด้า

เส้นทางจะค่อยๆขึ้นไปตามเขา

ตัวเมืองกรานาด้าอยู่บริเวณเชิงเขาด้านล่าง

อัลฮัมบราขับขึ้นเขาตรงไปอีกประมาณ 2 กม.


วิวตัวเมืองกรานาด้า



ทางแยกซ้ายมือไปยังสุสาน San Jose Cemetery 

รถมินิบัสวิ่งจากย่านเมืองเก่าขึ้นมายังพระราชวัง

เวลา 13:30 น. เดินทางมาถึงที่ขายตั๋วเข้าชมด้านใน (Alhambra Ticket Office)

พวกเรามาถึงตอนบ่าย ตั๋วเข้าชมพระราชวังเต็มหมดแล้ว 

พวกเราเลยเข้าชมสวนที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของพระราชวังกันค่ะ ค่าเข้าคนละ 10 Euro

ร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึกอยู่ตรงทางเข้า

The Entrance to Generalife gardens 

"Alhambra" by Jorge Luis Borges in 1976

ตรงทางเข้ามีโมเดลเหล็กขนาดใหญ่เป็นรูปที่ตั้งของพระราชวังอัลฮัมบราบนเขา

Alhambra in phyical environment

The Alhambra was built on the Sabika hill, an outcrop of the Sierra Nevada.

อัลฮัมบราตั้งอยู่เหนือตัวเมืองกรานาด้าบนเนินเขา Al-Sabika ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา Sierra Nevada

เดินเข้าไปชมสวนของพระราชวังกันค่ะ

การตกแต่งผนังของอัลฮัมบราใช้ปูนปลาสเตอร์เป็นหลัก


The Generalife gardens are located directly east of and uphill from the Alhambra complex.

ทางเดินร่มรื่นด้วยเงาของต้นไซเปรสสูงใหญ่

น้ำดื่มฟรี


ทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าไปชมด้านในพระราชวังอัลฮัมบรา ชมสวนเดินตรงไปค่ะ

The Generalife was summer palace with gardens, east and uphill from the Alhambra palace complex. 
 It was the rest of the Muslim kings of Granada.

Entrance to Nasrid Palaces


ทางซ้ายมือคือกำแพงและป้อมปราการของพระราชวัง

The fortress and towers of Alhambra


The fortress is a citadel of high walls and defensive towers.

บนกำแพงเมืองมีหอคอยอยู่เป็นช่วงๆหลายอัน


ทางไปสวนขนานไปกับกำแพงพระราชวัง


เนินเขาทางทิศเหนือของอัลฮัมบราคือย่านอัลไบย์ซิน

 The Albaicín (Albayzín) located  on the hill of San Cristóbal, opposite the Alhambra hill.


The Albaicín is the oldest Moorish quarter in Granada.

ย่านอัลไบย์ซินเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นแห่งแรกที่ชาวมัวร์มาตั้งป้อมปราการ
มีอาคารบ้านเรือนฉาบปูนสีขาวปลูกเรียงกันตามเนินเขา


เดินมาถึงสวนเจเนราลิเฟแล้วค่ะ

Generalife Theatre (Teatro del Generalife)
The large open-air theatre with natural walls of cypresses, characteristic backdrop. 
The theatre inspired by the layout of the classical Nasrid Riyadh. It was opened in 1954.

โรงละครกลางแจ้งขนาดใหญ่ ด้านหลังเป็นผนังธรรมชาติจากต้นไซเปรส
เปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1954 ใช้สำหรับจัดงานแสดงและงานเทศกาลต่างๆ

 The garden orchards lined with orange trees.

ต้นส้มกำลังมีลูกเต็มต้นเลยค่ะ

Promenade of the Cypress Trees

The Generalife is located on the hill called Cerro del Sol, adjacent to the Alhambra.

จุดชมวิวพระราชวัง

The two lower terraces on the southwest hillside are occupied by market gardens and orchards. 

สวนตรงเนินเขาด้านล่างปลูกผักและผลไม้เรียกว่า market gardens

มองเห็นยอดโบสถ์ซานต้า มาเรีย (Church of Santa Maria of the Alhambra)

ย่าน Albayzin ที่อยู่บนเนินเขาตรงข้ามเป็นจุดชมวิวพระราชวังได้ชัดเจน

The lower terraces are known as "Las Huertas"

ตัวพระราชวังล้อมรอบด้วยป้อมปราการและต้นไม้สูงใหญ่

เก็บภาพวิวด้านนอกแล้วก็เข้ามาเดินเล่นด้านในสวนค่ะ


The highest terrace is occupied by the Jardines Nuevos ("New Gardens")
The 20th-century gardens that form the main approach to the historic palaces today.

สวนด้านบนนี้เรียกว่า New Garden สร้างเสร็จเมื่อปี 1951

กำแพงต้นไซเปรสตัดแต่งเป็นซุ้มโค้ง

ไซเปรสเป็นต้นไม้ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีลำต้นสูงยาว กิ่งก้านและใบหนาแน่นสีเขียวเข้ม 

This garden decorated with walls formed by trimmed cypress trees and a large cruciform pool.
It inspired by Islamic/Moorish gardens, along with other decorative plants.

สวนนี้ตกแต่งสไตล์ชาวมัวร์มีบ่อน้ำและน้ำพุ ล้อมรอบด้วยต้นไซเปรส

The gardens have beautiful stone fountains, cypresses hedges and water channels. 

น้ำพุในอ่างหินทำให้สวนนี้เย็นมาก

 The origin of its name comes from the Arabic "Yannat al-Arif" 
that translated into Spanish means "Gardens of the Alarife" or Generalife.

ซุ้มกุหลาบ ตอนนี้เพิ่งแตกใบอ่อนยังไม่มีดอก


ด้านในกำแพงหินเป็นพระราชวัง อาคารหลักของสวน


ในช่วงหน้าร้อนในสวนนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้มากมาย

สวนมีขนาดใหญ่มาก มีที่นั่งพักอยู่รอบๆ


ทางเข้าชมพระราชวังฤดูร้อน

The Palace of the Generalife Entrance


ด้านในเป็นกำแพงสองชั้น โถงด้านหน้าคือที่อยู่ของทหารยาม ข้างกำแพงมีอ่างน้ำสำหรับม้า

Courtyard of the Guard and The security guard benches

 เดินผ่านประตูเข้าไปที่โถงด้านใน ซึ่งเป็นทางเข้าพระราชวัง

The exterior part of Palace is rural, befitting a country house more than a palace.
The entrance is a tiny door, embedded in traces of marble with a tiled lintel. 

The Court decorated with bitter orange trees which provide a pleasant shade.
 It has a low white marble cup fountain which has a vertical central spout.

This doorway has two floors above the it which were used for the defense and as a lookout.

Court of the Main Canal (Patio de la Acequia)
The patio is closed by northern and southern pavilions. 

The other side of the patio is formed by a thick wall with 18 ogival arches, made around the year 1670.

ด้านในคือเขตพระราชวังฤดูร้อนเป็นอาคารหลักของสวนเจเนราลิเฟ ซ้ายมือเป็นทางเดินซุ้มโค้ง 18 อัน

 The North Pavilion (the Main Hall) 

The Pavilion is painted white and has two floors with the Ismail Tower and the Royal Chamber. 
The side facing the Patio de la Acequia has a portico with five arches.

พลับพลาเหนือมีสองชั้น ด้านบนเป็นหอคอยและห้องราชวงศ์ ด้านหน้าตกแต่งด้วยซุ้มโค้ง 5 อัน

During the Nasrid period this was the harem or the living quarters of the Sultans family 
and offers pleasant views of the gardens and he watercourse below.

The South Pavilion is next to the main entrance of the patio.

 The four outer arches rest on brick pillars, and the center three have two columns with cubic capitals.


พลับพลาใต้เป็นทางเข้าหลัก ด้านล่างมีซุ้มโค้ง 7 อัน ชั้นบนเป็นหอระฆัง


The upper part of the pavilion has another three-centred arch located above the lower triple arch 
and housed a bell used as a ring-bell during the Christian period.



 The Generalife was built in the 13th century. It was redecorated by the king Abu I-Walid Isma'il
 (1313-1324), as it is explained by an inscription that dates from 1319.

นักโบราณคดีค้นพบบันทึกเกี่ยวกับการตกแต่งสวนเจเนราลิเฟ ในสมัยสุลต่าน Abu I-Walid Isma'il
ซึ่งปกครองกรานาด้าในศตวรรษที่ 13 จึงสันนิษฐานว่าสวนนี้สร้างในยุคเดียวกับพระราชวังอัลฮัมบรา

พระราชวังและสวนนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนของสุลต่านเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว

The Patio of the Irrigation Ditch (Patio de la Acequia)
The most important part of the Generalife. 

The irrigation ditch crosses its entire rectangular plant. It is 48.70 meters long and 12.80 wide
 The channel carries the water from the irrigation ditch of the Alhambra divides it lengthways. 

It is surrounded by several little jets and has a stone basin at each of its ends. 

ลานนี้มีขนาดประมาณ 50x13 เมตร ตรงกลางเป็นสวนดอกไม้ คูน้ำและน้ำพุ
น้ำในสวนนี้ต่อตรงมาจากพระราชวังอัลฮัมบรา เสียงน้ำพุจะป้องกันการแอบฟังจากคนภายนอกได้ดี

The sound of the water is preventing strangers from eavesdropping on conversations.

ชมวิวที่ซุ้มระเบียงด้านข้าง

Generalife occupied the slopes of the Hill of the Sun (Cerro del Sol). 

Alhambra palace and fortress of the Moorish monarchs of Granada.

View of Alhambra


These gardens are terraced structures built on the slopes of the Sol hill, were supported by rampart walls and supplied with an abundant source of water from the main water channel.

สวนตรงทางลาดเนินเขาจนถึงกำแพงป้อมปราการประดับด้วยต้นไม้หลากชนิด

The Alhambra is a UNESCO World Heritage Site in 1984.
 It is considered one of the most important examples of Islamic art in Spain.

The view over the city and the valleys of the rivers Genil and Darro.

The North Pavilion is preceded by a portico of five arches with a larger central arch. The arches feature richly-carved stucco decoration with a sebka motif and bands of cursive Arabic inscriptions.

A small remaining section of the old Nasrid-era western wall.

The Royal Chamber (Sala Regia)

The chamber is covered by another wooden ceiling. The arches and upper walls in the chamber are covered with more stucco decoration including an upper frieze of muqarnas sculpting. 

ด้านในตกแต่งด้วยศิลปะแบบชาวมัวร์ผนังและเพดานประดับด้วยลวดลายการแกะสลักจากปูนปลาสเตอร์ 

It is decorated with plasterwork, niches, stalactite capitals  and Islamic calligraphy. 

 The small belvedere or mirador chamber that projects outward from the western wall of the garden. 

The square chamber measures 3.98 metres per side and its interior is decorated with carved stucco.

 The decorative motifs of plasterwork are fine and tasteful.

ศิลปะแบบชาวมัวร์ที่เน้นความสมมาตรของรูปทรงเรขาคณิตและตัวอักษรอิสลาม
ลวดลายตามผนังละเอียด แต่อาจไม่หรูหราเหมือนในพระราชวังอัลฮัมบรา

ผนังบางส่วนก็เสียหายเนื่องจากวังนี้เคยถูกทิ้งร้างมานาน

 This is the earliest known mirador in Nasrid architecture, that appeared in many subsequent palaces.

The Sala Regia has three archways on its northern wall.
 Two are windows with views over the valley, the third is an entrance to the Torre de Ismail.

ซุ้มโค้งที่อยู่ตรงผนังทางทิศเหนือเป็นจุดชมวิวบ้านเรือนและเนินเขาย่านอัลไบย์ซิน

Beneath the North Pavilion lies a small closed garden that dates back to the period of Arabic rule. 

The district of Albaicín with the white walls, from the viewpoint.

บนเนินเขาด้านหน้าเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์นิโคลัส เป็นจุดชมพระราชวังที่คนนิยมมาก

Saint Michael Viewpoint (Mirador de San Miguel Alto)

เดินออกมาเก็บภาพในสวนอีกครั้ง ตอนไม่มีคนบรรยากาศเงียบสงบมีแต่เสียงน้ำ



สวนนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของสวน Court of the Main Canal มีทางเดินต่อมาจากพลับพลาเหนือ


Court of the Sultana (Patio del ciprés de la Sultana)

It has a central pond surrounded by a myrtle hedge and little pond with a stone fountain in the middle.

สวนสุลต่าน มีบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลาง รอบๆประดับด้วยพุ่มเมอร์เทิลและน้ำพุ

It is also known as the "Court of the Sultana’s Cypress Tree"
According to the legend of a 700-year-old cypress tree. Boabdil's wife used to meet a knight of the Abencerrajes family. This triggered the death of the people of this noble tribe.

สวนนี้มีตำนานเกี่ยวข้องกับต้นไซเปรสเลยเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบันไซเปรสตายแล้วเหลือแต่ลำต้นแห้ง

The stone staircase with a portico and two lions made of glazed pottery of Granada.
 It leads to the high part of the gardens, which go from the Hill of the Sun to the street Rey Chico.

 เดินผ่านซุ้มบันไดหินไปยังสวนด้านบนค่ะ

 ด้านบนซุ้มประตูประดับด้วยสิงโตที่ทำจากกระเบื้องเคลือบ 2 ตัว เป็นบันไดที่เก่าแก่ที่สุดในสวนนี้

The Stairway of the Lions (Escalera de los Leones)
It is supposed to be the oldest staircase in these gardens ะhat existed in the Muslim period.


The High Gardens (Jardines Altos)
There are tiny fountains with jets, magnolia trees, orange trees and scented shrubs.

สวนด้านบนร่มรื่นมีน้ำพุและสวนผลไม้หลายชนิด


The Romantic Pavilion (Pabellón Romántico).
The small 19th century pavilion is at the top of the stairway. 


The top of the Generalife High Gardens.

The High Gardens arranged across several terraces in the palatial area of the Generalife
 and protecting the palace at its highest point, offer a marvellous view of the entire site.

 High Garden มองเห็นวิวมุมกว้างของสวนและพระราชวัง



The Paseo de las Adelfas (Walk of the Oleanders)

ด้านล่างคือโรงละครกลางแจ้ง

เดินกลับมาถึงทางแยกเข้าพระราชวัง

นั่งพักก่อนเข้าไปชมในเขตพระราชวัง


Map of Alhambra complex

พวกเราไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชมด้านในพระราชวัง Nasrid Palaces (Palacios Nazaríes)
ต้องเดินไปตามเส้นสีฟ้าที่อยู่ทางซ้ายมือ

ข้ามสะพานผ่านกำแพงเมืองเพื่อยังด้านใน


Water Tower (Torre del agua)
Aqueduct of the Acequia Real, which brings water into the Alhambra's walled enclosure.

เดินต่อไปทางทิศตะวันตกตามถนน C.Real de la Alhambra


ทางขวามือคือพระราชวังคอนแวนต์แห่งซานฟรานซิสโก

Torre de Juan de Arce

The dungeons of the Alhambra (Entorno de la Mazmorra)

Palace of the Convent of San Francisco (Convento de San Francisco)

เดินผ่านแนวกำแพงรั้วไซเปรส

Tower in Granada (Torre del Capitán)

พระราชวัง Nasrid ยุคกลางของอัลฮัมบรา และเปลี่ยนเป็นคอนแวนต์หลังจากสเปนพิชิตกรานาดา
ปัจจุบันเป็นโรงแรม

The Convent of Saint Francis was built over the remains of a former Nasrid palace. 
The building is now a Parador (state-owned hotel).



Tower of the Abencerrajes (Torre de los Abencerrajes)

Palace of the Abencerrajes

This was one of the largest palaces in the Alhambra. It was blown up by Napoleon's troops in 1812
 and became part of an area of abandoned ruins known as the Secano. 

พระราชวัง Abencerrajes เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอัลฮัมบรา และถูกทำลายลงในปี 1812


ทางเข้าโรงแรม Parador de Turismo San Francisco

โรงแรมที่เคยเป็นพระราชวังเก่า

Hotel América 

อาคารทางซ้ายมือคือโบสถ์ซานต้ามาเรียและพระราชวังพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5

Palace of Charles V (Palacio de Carlos V)
It is a Spanish Renaissance architecture, located within Alhambra complex.

พระราชวังของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 สร้างในสไตล์เรอเนสซองส์ ตั้งอยู่ติดกับพระราชวังนาสริด

 The palace has two floors. 
 The upper storey uses the Ionic order, with pedimented lower windows below round windows. 

พระราชวังมีสองชั้น ชั้นบนตกแต่งด้วยเสาโรมัน หน้าต่างด้านล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ด้านบนเป็นรูปวงกลม

The lower floor is in the Tuscan order.
Decorated with the pilasters "blocked" by continuing the heavy rustication across them.

ชั้นล่างตกแต่งด้วยหินก้อนสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มีรูเล็กๆกระจายทั่วทั้งก้อน

Both main façades emphasize the portals, made of stone from the Sierra Elvira.

The name Alhambra has its origins in an Arabic word meaning "The red one", 
due to the red color of the towers and walls.

 The palace is square and its main façade is 63 meters wide and 17 meters high.

พระราชวังเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้าง 63 เมตร สูง 17 เมตร

The building has never been a home to a monarch. 

ด้านหน้าคือประตูทางเข้าไปยังป้อม Alcazaba ที่อยู่ทางทิศตะวันตก

Wine Gate (Puerta del Vino) and the Alcazaba

เดินไปประตูทางเข้าพระราชวังที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก

The south and west façades are completely decorated.
 The north and south only partly because the building is attached to the Palaces of the Alhambra.

ผนังด้านหน้าพระราชวังทางทิศตะวันตกและทิศใต้ตกแต่งสวยงามเหมือนกัน

The main entrance of the Palace
It is Doric with four sets of double fluted columns, bases and capitals are beautifully decorated.


The central door is large, supports the statue of a woman holding a symbolic Granada in one hand 
and extending the other in a gesture of pointing, as making the Emperor the offering of palace.
 The other two doors are smaller and adorned with fruit groups corbels and medals in his eardrums. 

ประตูทางเข้าหลักประกอบด้วยเสาโดริค 4 ต้น 3 ประตู ด้านบนประตูประดับด้วยรูปปั้นสวยงาม

ด้านในพระราชวังเข้าชมฟรี

Patio of the Palace of Charles V

พระราชวังสร้างสไตล์เรอเนสซองส์ ลานตรงกลางเป็นวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร 

Its circular patio is unique and it is the most important building of Renaissance style in Spain.

The circular patio has two levels, 30 meters in diameter around with 32 Doric columns. 

 The lower floor consists of a Doric colonnade of conglomerate stone. 
The upper floor is formed by a stylized Ionic colonnade. 

พระราชวังมี 2 ชั้น ชั้นล่างล้อมรอบด้วยเสาโดริค 32 ต้น ชั้นบนเป็นเสาไอโอนิค 32 ต้น

The palace was designed by Pedro Machuca. Construction began in 1527 and completed after 1923.
The roof of the building was finally completed in 1967.

พระราชวังนี้ออกแบบโดย Pedro Machuca เริ่มก่อสร้างอาคารในปี 1527 และถูกทิ้งร้างโดยไม่มีหลังคา
จนในปี 1967 ก็สร้างหลังคาเสร็จสมบูรณ์

A small "Arab museum" was first installed in the building in 1928 on the ground floor. 

 It became the Archeological Museum of the Alhambra in 1942
 and  became the current "Alhambra Museum" in 1995.

พิพิธภัณฑ์อัลฮัมบราตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของพระราชวัง ต้องเสียค่าเข้าชมค่ะ

Museo de Bellas Artes de Granada
 The Fine Arts Museum of Granada was installed on the upper floor in 1958.


ชั้นสองของพระราชวังเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ


This palace was commanded to be built by Charles V (1500–1558).
 He wanted to to establish his residence close to the Alhambra palaces.

เดินชมด้านในพระราชวังเสร็จก็เดินย้อนกลับทางเดิม

Southern facade of the Palace of Charles V

Plaza de Carlos V 

The Cannons of The Alhambra (Los Cañones de la Alhambra )
These cannons were placed around various parts of the fortress to protect Granada from invasions. 
They served for defensive purposes and as symbols representing Granada’s tumultuous past.

มีปืนใหญ่ตั้งอยู่บนกำแพงเมืองหลายจุดเพื่อป้องกันการรุกรานของศัตรูจากภายนอก

โบสถ์ซานต้ามาเรียตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวัง

Church of Santa Maria and the Alhambra Mosque

เดินกลับลงเนินไปตามถนนข้างกำแพงเมือง

Gate of the Carts (Puerta De Los Carros)

This gate was built between 1526 and 1536, not original from the Nasrid period. 
 It served as a pedestrian access and used for the carts that accessed the palace complex.

ประตูนี้สร้างขึ้นภายหลังในปี 1526 เพื่อใช้เป็นทางคนเดินและทางรถเพื่อขึ้นไปยังพระราชวัง

เดินต่อไปตามนอกกำแพงเมือง


ด้านนอกกำแพงจัดแต่งด้วยสวนดอกไม้สวยงาม

รถมินิบัสรับส่งระหว่างพระราชวังและตัวเมืองกรานาด้า

 The Alhambra’s new educational area (Las Casas de la Mimbre)

ด้านหน้าคือทางออกค่ะ เป็นทางเดียวกับทางเข้า

บริเวณทางออกมีโรงแรมและร้านอาหารหลายหลัง

ร้านขายของที่ระลึกและบริษัททัวร์

เวลา 16:00 น. เดินทางลงเขา ชมวิวสวยๆของตัวเมืองกรานาด้า

จุดหมายที่พักคืนนี้คือเมืองเซบีย่าระยะทาง 250 กม.

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น