วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567
เวลา 06:30 น.ตื่นเช้ามองออกไปด้านนอกยังมืดมาก เพราะช่วงหน้าหนาวพระอาทิตย์ขึ้นช้า
เวลา 07:00 น. อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร
เมนูคล้ายเมื่อวาน อร่อยเหมือนเดิม
ทานอาหารเสร็จก็กลับมาห้องพัก แม่ตุ๊กจะรอชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
เริ่มเห็นแสงสีแดงๆหลังภูเขา
คนไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมชายหาด
เวลา 07:50 น. พระอาทิตย์ก็เริ่มโผล่มาจากหลังเขาแล้วค่ะ
แสงแรกของปี 2024 ที่ชายหาดแฮอุนแด
เวลา 08:30 น. ออกเดินทางไปเที่ยวกันค่ะ
Haeundae Tourist Information Center
SEALIFE Busan Aquarium
คนมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดเยอะมากๆค่ะ
White and Red Light House
ข้ามสะพานควังอัน
Diamond Bay Yacht Cruise
ตรงเชิงสะพานควังอัน เป็นท่าสำหรับล่องเรือยอร์ชและท่าเรียบเรือขนาดใหญ่
เดินทางต่อไปยังหมู่บ้าน Nam-gu
เวลา 10:00 น.เดินทางมาถึง Oryukdo เดินจากลานจอดรถเข้าไปชมสกายวอร์คด้านในค่ะ
Oryukdo Skywalk
ทางซ้ายมือคือ Oryukdo Park
ทางขวามือมีทางแยกลงไปที่ชายทะเลด้านล่าง
พวกเราจะไปสกายวอร์คต้องเดินขึ้นเนินไปด้านบน
오륙도 스카이워크 (Oryukdo Skywalk)
แท่นหินสลักชื่อโอรยุกโดสกายวอร์คเป็นภาษาเกาหลี
เดินขึ้นมาถึงด้านบนแล้วลมแรงมากค่ะ
วิวสวยๆ
จุดชมวิวทะเลและเกาะโดยรอบ มีกล้องส่องทางไกลให้บริการด้วยค่ะ
ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสสามารถมองเห็นได้ไกลถึง Daemado Island หรือ Tsushima Island ในประเทศญี่ปุ่น
ต่อคิวเข้าชมสกายวอร์ค
เปิดทุกวันเวลา 09:00-18:00 น. เข้าชมฟรี
ทุกคนต้องสวมถุงหุ้มรองเท้าที่ทางจนท.จัดเตรียมไว้ให้ แล้วก็เข้าไปบนทางเดินกระจกได้เลยค่ะ
Oryukdo Skywalk is located at Seungdumal, meaning a saddle, due to the shape of the point.
It was also called Jallokgae by residents and female divers in the area.
โอรยุกโดสกายวอร์ค ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า "ซึงดูมัล" ซึ่งเป็นจุดแบ่งระหว่างทะเลตะวันออกและทะเลใต้ คนท้องถิ่นและนักดำน้ำหญิง Haenyeo จะเรียกที่แห่งนี้ว่า "ชัลลกแก"
The Seungdumal area is regarded as the dividing point between the East Sea and the South Sea.
The skywalk opened on October 18, 2013, with the theme of "walking over the sky".
สะพานนี้ก่อสร้างเสร็จวันที่ 12 กันยายน 2012 และเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2013
The glass flooring was made by four layers of 12-millimeter glass panels coated with a bulletproof film for a total thickness of 55.49 millimeters, making the structure quite safe.
พื้นกระจกจำนวน 24 แผ่นถูกเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มกันกระสุน ที่มีความหนา 55.49 มิลลิเมตร
ทำให้โครงสร้างของสะพาน มีความแข็งแรงและปลอดภัยมาก
วันนี้เป็นวันปีใหม่คนค่อนข้างเยอะเลยหามุมถ่ายรูปยาก ถ่ายเสร็จก็ต้องรีบออกเพื่อให้คนอื่นเข้ามาบ้าง
We can see the view of the waves while looking down through the transparent floor.
The sea stretches out ahead of the skywalk is perfect for a photo.
Iron columns were set up over a 35-meter-high coastal cliff, and a 15-meter glass bridge comprised of 24 glass plates and shaped like a horse’s hoof connect the iron columns.
สะพานนี้โค้งเป็นรูปเกือกม้า ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเล ด้านล่างเป็นเสาเหล็กที่มีความสูง 35 เมตร
มีความยาว 15 เมตร พื้นเป็นกระจกใส 24 แผ่นต่อกัน
Oryukdo Islets are composed of Bangpaeseom Island, Solseom Island, Suriseom Island, Songgotseom Island, Gulseom Island, and Deungdaeseom Island, in order of proximity to the land.
ด้านหน้าคือหมู่เกาะโอรยุกโดประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 5-6 เกาะ ตามการขึ้นลงของน้ำทะเล
The name comes from the five ("O") islands seen at low tide and the six ("Rryuk") islands at high tide.
บางช่วงที่น้ำทะเลลง จะมีทางเดินไปยังเกาะเล็กๆได้ ลักษณะเหมือนทะเลแหวก
เดินชมวิวรอบๆสกายวอร์ค
ภาพมุมสูงจากเวป https://www.visitbusan.net
จุดชมวิวเส้นทางเดินบนเขา ระยะทางยาว 17 กม.
Haeparang Trail
เดินย้อนกลับมาทางเดิม
ด้านหน้าตรงทางเข้าคือ The Oryukdo Public Information Center
มุมถ่ายรูป
Deungdaeseom Island, the farthest island, has the Oryukdo Lighthouse.
The Lighthouse serves as a gateway to Busanhang Port, which ships entering Busan must pass by.
เวลา 12:00 น.เดินทางกลับเข้ามาในเมืองปูซานเพื่อทานอาหารเที่ยงค่ะ
มื้อนี้มปเลือกร้าน Egg Drop
สามคนสามเมนู อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
ทานอาหารเสร็จ ก็ไปเดินเล่นย่าน Seomyeon
แผ่นหินสลักบทกวีเกี่ยวกับจริยธรรม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2008
Seomyeon Shopping District in Busan.
ซอมยอนเป็นย่านยอดนิยมแห่งหนึ่งของปูซาน ตอนเย็นจะมีคนมาเดินเล่นมากกว่าตอนนี้
There are many shops, cafes and restaurants.
ที่นี่เป็นศูนย์รวมของร้านค้า ร้านกาแฟและร้านอาหาร ช่วงนี้มีการจัดงานแสงสีตอนกลางคืน
Seomyeon Lighting Festival
The theme of the festival is "Walk with Light".
It is running from October 13, 2023 to January 20, 2024.
ขนมไข่หอมมาก
Seomyeon Underground Shopping Center
ลงมาเดินเล่นที่ถนนช็อปปิ้งใต้ดิน มีร้านค้าตลอดสองข้างทางยาวหลายร้อยเมตร
ข้ามถนนไปเดินเล่นอีกฝั่ง
Seomyeon Young Street Heart
ประติมากรรมรูปหัวใจสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางถนนเหมือนเป็นแลนด์มาร์กเลยค่ะ
ช็อปเครื่องสำอางค์และร้านค้ามากมาย
Cafe Street
มปขอแวะทานไอศกรีมที่ร้านนี้ค่ะ
Ducobi Diner : A 1950’s style American diner
เป็นร้านคาเฟ่สไตล์อเมริกัน ด้านในตกแต่งสีแดงสดใส
มปขอเก็บภาพกับเสือน้อยก่อนค่ะ
มุมถ่ายรูปสวยๆ
แผนที่แสดงพิกัดที่เที่ยวที่กินในย่านนี้
ประติมากรรมรูปแหวน ตรงกลางมีรูปมือเกี่ยวก้อยกัน
Pinky swear and promise statue
เดินย้อนกลับทางเดิม
ข้ามถนนตรงทางใต้ดินไปเดินเล่นที่ตลาดซอมยอนกันค่ะ
Seomyeon Market
ที่ตลาดซอมยอนมีร้านอาหารและร้านขนมเยอะมากทั้งสองข้างทาง
โฮต็อกน่าทานมากๆ
เวลา 14:00 น. นั่งรถบัสไปเดินเล่นต่อที่ย่าน Nampo dong
BIFF Square
Gwangbok-ro Fashion Street
Film Memorial Street
Corner Theater
ด้านหน้าโรงภาพยนตร์มีรอยประทับฝ่ามือของนักแสดงที่มาร่วมงาน BIFF ตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปัจจุบัน
มองเห็นยอดหอคอยปูซานอยู่บนเขา
เดินขึ้นเหนือไปตามถนน Gwangbokjungung-ro
เดินต่อไปจนถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวขวา
เปิดแมพนำทางต่อไปยังหอคอยปูซาน
เดินขึ้นเนินตรงไปด้านหน้าคือสวนยงดูซาน
มาถึงทางเดินขึ้นเขาไปยังหอคอยปูซานแล้วค่ะ
Yongdusan park guide map
ทางเดินเป็นบันไดไม้ร่มรื่น มองเห็นหอคอยอยู่ไม่ไกล
เลี้ยวซ้ายเดินไปตามป้ายอีก 200 เมตร
แวะชมวิวเมืองปูซาน มุมนี้มีต้นไม้บังเยอะหน่อยค่ะ
Yongdu mountain
The most significant structure at Yongdusan Park is the Busan Diamond Tower.
It is an iconic observation tower situated in Busan's Yongdusan Park, standing at 120 meters tall.
This tower offers visitors panoramic views of Busan Port and Yeongdo Island.
หอคอยปูซานเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองปูซาน มีความสูง 69 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 120 เมตร
ด้านบนเป็นหอสังเกตุการณ์เปิดให้ขึ้นไปชมวิวค่าเข้าในหอคอยคนละ 12,000 วอน
It was originally named as Busan Tower when it first opened in 1973.
It reopened and renamed as Busan Diamond Tower after the development project in 2021.
The Octagonal Pavilion
Busan Tower comprises 5 Floors (1F to 3F are located at the Octagonal Pavilion with the 1st and 2nd floor also connected to the tower itself, then the remaining 4F and 5F within the tower structure.
ศาลาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ด้านข้างหอคอย ชั้น 1-2 มีทางเชื่อมไปยังหอคอยได้
ลานชมวิวด้านหน้าหอคอยมีมุมถ่ายรูปกับนกนางนวลมาสคอตประจำเมืองปูซาน
ด้านหลังเป็นป้ายคำทักทายหลายภาษา มีภาษาไทยด้วยค่ะ
ลานด้านล่างมีรูปปั้นของนายพลอีซุนชินตั้งอยู่ตรงกลางหันหน้าออกสู่ทะเล
ด้านหลังมีรูปปั้นมังกร (Dragon Statue)
The Statue of Admiral Yi Sunsin at Yongdusan Park.
มองเห็นทะเลอยู่ไม่ไกล
หลังจากปรับปรุงหอคอยเสร็จในปี 2021 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Diamond Tower
เก็บภาพเป็นที่ระลึกก่อนกลับ
ทางเดินลงไปที่สวน Yongdusan Park
ทางไปชมนาฬิกาดอกไม้ (Flower Clock)
พวกเรามีเวลาไม่มาก เลยเดินลงเขาย้อนกลับทางเดิม
เดินกลับมายังย่าน Gwangbok-ro
ข้ามถนนไปเดินเล่นที่ตลาดปลา "Jagalchi Market"
Jagalchi Market is located on the edge of Nampo Port.
It is Korea's largest seafood market, selling both live and dried fish.
ตลาดปลาจากัลชิเป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี
Most of the people who sell fish are women, so the vendors here are called Jagalchi Ajumeoni. "Ajumeoni" meaning middle-aged or married woman in Korean.
คนขายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่เรียกกันว่า คุณป้าจากัลชิ
ด้านหน้าร้านจะมีตู้ปลาหลากหลายชนิดให้เราเลือกซื้อแบบสดๆเลยค่ะ
ที่ตลาดปลามีอาหารทะเลสดใหม่ให้เราเลือกซื้อ เช่น ปลา หอย กุ้ง ปู หรือเนื้อปลาวาฬก็มีขายด้วยค่ะ
There are many seafoods on boxes along the road outside of the market and along the shore.
คุณป้าขายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
Various good are found in this market, which spans 3 kilometers.
ตลาดนี้มีความยาวประมาณ 3 กม. สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและรถเข็นขายของ
Because of the Korean War, numerous refugees came to Busan. They built many shanty houses around the area.The fish street stalls were formed to become a large fish market and now the Jagalchi Market.
ตลาดปลาจากัลชิเป็นตลาดปลาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี
ข้ามถนนกลับไปที่ BIFF Square
แวะซื้อปลาหมึกย่างทาน กลิ่นหอมแต่เหนียวมากค่ะ
ขนมปลามีไส้หลายอย่าง
เวลา 17:00 น. ได้เวลาเดินทางไปสนามบินกิมแฮ
เวลา 18:00 น.หลังจากเช็คอินและโหลดกระเป๋าเสร็จก็ทานอาหารเย็นที่ร้านในสนามบิน
มื้อนี้ทานอาหารเกาหลีคนละเซ็ต
Tonkatsu Bibimbap and Kimchi soup
เวลา 19:00 น.ทานอาหารเสร็จก็ไปผ่าน ตม.แล้วไปนั่งรอขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยค่ะ
เครื่องออกตรงเวลาใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง
เวลา 23:30 น.เดินทางถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น