วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566
ตอนเย็นวันนี้พวกเราจะนั่งรถไฟชมวิว Golden Pass Line จากเมืองลูเซิร์นไปถึงเมืองอินเตอร์ลาเคน
รอขึ้นรถไฟที่สถานีลูเซิร์น ชานชลา 13 มีรถไฟออกทุกชั่วโมง
Eurail Passes are valid on the entire Golden Pass journey.
เวลา 15:05 น.ออกเดินทางกันค่ะ ช่วงบ่ายๆคนไม่มาก เลือกที่นั่งได้ตามสบาย
ใช้ยูเรลพาสโดยไม่ต้องจ่ายค่าจองที่นั่งเพิ่ม
Golden Pass Scenic Train travel all the way from historic Lucerne to Montreaux
and enjoy tall mountains, green valleys and endless vineyards.
ตู้โดยสารโปร่งโล่ง หน้าต่างเป็นกระจกสูงถึงเพดาน
บนหลังคาเป็นกระจกบางส่วน
วิวด้านนอกสวยทั้งสองฝั่ง แม่ตุ๊กเปลี่ยนที่นั่งเพื่อถ่ายรูปได้ตลอดทาง
ทางซ้ายมือเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบลูเซิร์น
The GoldenPass line is a 5.5-hour train
route through lush green scenery between Lucerne, Interlaken and Montreux.
รถไฟ The GoldenPass line วิ่งจากสถานีลูเซิร์นไปยังสถานีอินเตอร์ลาเคน
และเปลี่ยนขบวนต่อไปยังเมืองมงเทรอซ์ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5.5 ชั่วโมง
พวกเราจะนั่งชมวิวถึงเมืองอินเตอร์ลาเคนพอค่ะ
Panoramic trip on board the Lucerne-Interlaken Express from Lucerne to Interlaken Ost
Lucerne – Interlaken Ost: Every hour from 06.06am to 09.06pm
Interlaken Ost – Lucerne: Every hour from 07.04am to 08.04pm
Journey time: 1h 50 minutes
Lucerne-Interlaken Express ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
This two-hour ride will take you along the shores of crystal-clear lakes (about 5 lakes),
past romantic waterfalls and over the magnificent Brünig mountain pass.
รถไฟแล่นผ่านทะเลสาบหลายแห่ง
The most spectacular views of the Swiss Alps through large panoramic windows.
วิวเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ
วิวสวยมากจนมปต้องตื่นมาเก็บภาพเลยค่ะ
รถไฟเส้นนี้วิ่งผ่านหลากหลายภูมิประเทศของสวิตเซอร์แลนด์
นั่งรถไฟชมวิวมาชั่วโมงกว่าๆสองพ่อลูกเริ่มเบื่อ เลยนั่งเล่นโซเชียลกันแล้ว
เวลา 16:15 น.เดินทางมาถึงสถานี Meiringen SBB
คุณป๋าพาลงไปเดินเล่นที่เมืองนี้ก่อนค่ะ
Bahnhofplatz
จตุรัสด้านหน้าสถานี
น้องวัวตัวโตยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้าสถานี
เดินออกจากสถานีไปทางทิศตะวันออก
เดินตรงไปตามถนนด้านหน้าสถานีประมาณ 200 เมตร
มาถึงจุดหมายแล้วค่ะ ด้านหน้าคือพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อค โฮล์มส์
Sherlock Holmes Museum
This building was originally the English Church in Meiringen, consecrated in 1891 for the use of the many English visitors.
The Museum was opened on 4th May 1991 on the 100th death anniversary of Sherlock Holmes
in the basement of the old English church.
แต่เดิมที่นี่เคยเป็นโบสถ์เก่า และได้สร้างใหม่ในปี 1991 เป็นพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าชมคนละ 5CHF
ด้านในมีการตกแต่งจำลองเป็นห้องนั่งเล่นในบ้านของเชอร์ล็อกโฮล์มส์
พวกเราไม่ได้เข้าไปชมด้านในพิพิธภัณฑ์เพราะมีเวลาเดินเล่น 1 ชั่วโมงก่อนที่รถไฟขบวนต่อไปจะมาถึง
The museum took on a new role under the patronage of The Sherlock Holmes Society of London,
and the late Dame Jean Conan Doyle, daughter of Sir Arthur Conan Doyle.
สวนด้านข้างพิพิธภัณฑ์มีรูปปั้นอยู่สองอัน
รูปปั้นสำริดของเชอร์ล็อคโฮล์มส์ท่านั่งสูบไปป์
A life-size bronze statue of Sherlock Holmes
Sir Arthur Conan Doyle เป็นผู้เขียนนิยายนักสืบเชอร์ล็อคโฮล์มส์ ซึ่งโด่งดังทั่วโลก
Sir Arthur Conan Doyle is the creator of Sherlock Holmes, the world‘s first Consulting detective.
He was a frequent visitor to Switzerland.
เรื่องสั้นตอน "The final Problem" ได้มีการดำเนินเรื่องที่เมืองไมริงเงนจนจบ
He visited Meiringen and the Reichenbach Falls in 1893. He had grown tired of writing Sherlock Holmes stories, and in the story entitled "The final Problem" published in December 1893.
There are 60 mystery clues come from a Sherlock Holmes novel.
We can learn more about the novel "The Final Problem" at "Conan Doyle Square".
ในสวนมีเนื้อเรื่องและภาพประกอบของเรื่องสั้นตอน "The Final Problem" ให้อ่านด้วยค่ะ
Meiringen was once a top destination in the emerging mountaineering and tourist trade popular with wealthy Englishmen.
Another statue by the museum honors Meiringen resident Melchior Anderegg (1827-1914),
who was called "König der Bergführer", or "King Alpine Guides".
ด้านข้างมีรูปปั้นของนักปีนเขาชื่อ Melchior Anderegg
Conan Doyle Square
Holmes and Watson spend their last night (3rd May 1891) at Hotel Englischer Hof.
(now the Park Hotel du Sauvage)
ด้านข้างพิพิธภัณฑ์คือโรงแรม Park Hotel du Sauvage เป็นโรงแรมสุดท้ายที่โฮล์มส์และหมอวัตสันมาพัก
เดินต่อไปทางทิศตะวันออกตามถนน Rudenz
เมืองนี้ค่อนข้างเล็กไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว
Gemeindeverwaltung Meiringen (ส่วนราชการเมืองไมริงเงน)
Sherlock Lounge
เลี้ยวขวาไปตามถนน Alpbachstrasse
ป้ายบอกมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ทางทิศเหนือของเมือง
เดินขึ้นสะพานมองเห็นน้ำตกอยู่ที่เทือกเขาทางทิศเหนือ มีลำธารเล็กๆไหลต่อลงมา
The Alpbachfall is a 80 meter high waterfall.
ถ้าเดินต่อไปประมาณ 300 เมตร จะถึงทางขึ้นน้ำตก มีสถานีกระเช้าไฟฟ้าอยู่บริเวณทางขึ้น
น้ำตก Alpbach มีความสูง 80 เมตร
ทางทิศใต้คือเทือกเขาแอลป์
อาคารทางซ้ายมือคือลานสเก็ตน้ำแข็ง (Skatepark)
Tennis center
เดินต่อไปจนถึงแม่น้ำอาเร่ (Aare river)
แม่ตุ๊กอยากลงไปเดินเล่นริมแม่น้ำอาเร่ แต่ต้นไม้มันรกมากไม่มีทางเดินเลยค่ะ
เดินย้อนกลับทางเดิม
กลับมารอขึ้นรถไฟที่สถานี
เวลา 17:20 น. นั่งรถไฟสาย GoldenPass Line ไปยังเมืองต่อไป
เวลา 17:35 น. เดินทางมาถึงเมืองเบรียนซ์ ลงไปเดินเล่นกันมีเวลาหนึ่งชั่วโมงค่ะ
Hauptstrasse
ด้านหลังสถานีมีร้านอาหาร ร้านค้าและที่พัก
ข้ามทางรถไฟไปเดินเล่นริมทะเลสาบ
ด้านหน้าคือท่าเรือล่องทะเลสาบ
BLS Schiffstation
ตารางเวลาล่องเรือในทะเลสาบ Thunersee and Brienzersee
Wooden statue
เดินเล่นริมทะเลสาบเบรียนซ์
Lake Brienz (Brienzersee) is a lake just north of the Alps, in the canton of Bern in Switzerland.
ทะเลสาบเบรียนซ์ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาแอลป์
It has a length of about 14 km., a width of 2.8 km. and a maximum depth of 260 m.
ทะเลสาบมีความยาว 14 กม. กว้าง 2.8 กม. ส่วนลึกที่สุด 260 เมตร
Its area is 29.8 square km., the surface is 564 m. above the sea-level.
ด้านหน้าคือเรือล่องชมวิวทะเลสาบ เป็นที่นิยมนักท่องเที่ยว
น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าใส
Walk along the traffic-free lake promenade.
ด้านหน้าโรงแรมตกแต่งด้วยรูปปั้นหมีและแพะภูเขา
รูปปั้นวัวนมสวิส
เดินไปตามทางเลียบทะเลสาบ
มีบันไดเดินลงไปในทะเลสาาบ
ตอนนี้แดดค่อนข้างร้อน เลยยังไม่ค่อยมีคนมานั่งเล่นริมน้ำ
มีโรงแรมและที่พักริมทะเลสาบมากมาย
สวนดอกไม้ริมทาง
Stone stairs allow direct access to the water.
มีคนพายเรือเล่นในทะะเลสาบ
Small boat harbors and playgrounds
มปขอนั่งเล่นชมวิวทะเลสาบ
The view of the lake is a unique experience.
Quai lake promenade & Brienz beach path
Figure in memory of Albert Streich from 1969 by Arnold Huggler on the lake promenade in Brienz
รูปปั้นหญิงสาวริมทะเลสาบ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Albert Streich นักเขียนของเมืองเบรียนซ์
ด้านข้างมีเรือประดับด้วยดอกไม้หลายลำ
Holzbildhauerei Museum
พิพิธภัณฑ์งานไม้แกะสลักปิดค่ะ
ด้านหน้ามีเนินเล็กๆสำหรับขึ้นไปชมวิว
Brienz Lake Observation Deck
สะพานทางเดินชมวิวริมทะเลสาบ
ประติมากรรมงานไม้แกะสลัก พบเห็นได้หลายอันในเมืองนี้
เดินย้อนกลับทางเดิม
Stone blocks were piled up along the quay wall as breakwaters and the new Brienz lake promenade was soon created. The wide walls are often used as places to sit and lie down.
ยังไม่ถึงเวลารถไฟมา เลยนั่งเล่นบริเวณสันหินริมทะเสาบ
นั่งดูคนเล่น Sup Board
ตัวเมืองเบรียนซ์ทางทิศตะวันตกของทะเลสาบ
ท่าเรือยอร์ช
ท่าเรือล่องทะเลสาบปิดแล้วค่ะ
เวลา 18:30 น. ไปรอรถไฟที่สถานีเพื่อเดินทางต่อค่ะ
เวลา 18:35 น. รถไฟ Golden Pass Line มาถึงตรงเวลา ออกเดินทางไปยังสถานีสุดท้ายค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็เดินทางมาถึงสถานี Interlaken ost.
GoldenPass Express Connects Interlaken and Montreux
คนที่จะนั่งรถไฟชมวิวต่อไปยังเมืองมงเทรอซ์ต้องมาเปลี่ยนขบวนที่สถานีนี้
ทานอาหารเย็นที่ Asia Restaurant ด้านข้างสถานีรถไฟ ด้านในเป็นเหมือนร้านอาหารจีน
อาหารจานค่อนข้างใหญ่พวกเราเลยสั่งแค่สองอย่าง คือ เป็ดย่างและผัดผักรวมใส่กุ้ง รสชาติอร่อยดีค่ะ
Crispy roast duck and Vegetable with shrimp
ทานอาหารเสร็จก็ออกมาเดินเล่นรอบๆสถานี พวกเราเคยมาเที่ยวและพักที่เมืองนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
เวลา 20:00 น.นั่งรถไฟกลับที่พักเมืองเบิร์น ผ่านทะเลสาบทูน
Thunersee
เวลา 21:00 น.เดินทางมาถึงเมืองเบิร์น พระอาทิตย์ยังไม่ตก แม่ตุ๊กกับมปเลยขอคุณป๋าเดินเล่นก่อน
วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566
วันนี้พวกเราต้องเดินทางกลับเมืองไทยแล้วค่ะ แม่ตุ๊กกับคุณป๋าเลยออกมาซื้ออาหารเที่ยงไว้ทานที่สนามบิน
บรรยากาศยามเช้าหน้าโรงแรมที่พัก
ตอนนี้เป็นเช้าวันหยุด คนเลยบางตา
เวลา 8:00 น.เช็คเอ้าท์จากโรงแรม ลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟเพื่อเดินทางไปสนามบิน
นั่งรถไฟไปลงสถานี Flughafen Zürich ที่อยู่ในสนามบินได้เลยค่ะ
เวลา 10:00 น.มาต่อแถวเช็คอิน พวกเราเช็คทรูแล้วไปรับกระเป๋าที่หาดใหญ่ได้เลยค่ะสะดวกมาก
เหลือเวลาอีกสามชั่วโมงกว่าเครื่องจะออกเลยเดินเล่นด้านในสนามบินกันก่อน
เวลา 13:00 น.ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ
บินตรงกันยาวๆกลับเมืองไทย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10.5 ชั่วโมง
ทานอาหารบนเครื่องบินสองมื้อ
เดินทางมาถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ ผ่านตม.แล้วไปนั่งรอขึ้นเครื่องกลับบ้าน
กระเป๋า 3 ใบ ของพวกเราก็ตามมาด้วยเช่นกัน☺☺☺