วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2566
เวลา 16:30 น.เดินทางมาถึงเมือง Freiburg im Breisgau
คุณป๋าจองที่พักไว้ใกล้สถานีรถไฟเลยค่ะ โรงแรมอยู่ทางขวามือติดกับ Freiburg Concert Hall
Novotel Freiburg am Konzerthaus
เช็คอินแล้วนอนพักผ่อน ตอนนี้อากาศร้อนมากค่อยออกไปเดินเล่นช่วงเย็นค่ะ
ห้องกว้างและสะอาด น้ำดื่มฟรี 1 ขวด ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
เวลา 18:00 น.ออกไปเดินเล่นและทานอาหารเย็นค่ะ
CinemaxX Freiburg
เดินเข้าเมืองไปตามถนน Bertoldstraße ทางขวามือคือ โรงละครไฟร์บูร์ก
โรงละครที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองนี้ สร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี 1498
Theater Freiburg is the oldest and biggest theatre in Freiburg im Breisgau.
Originally built in 1498 as a dance venue.The municipal theater was then founded in 1866.
University Library Freiburg
อาคารกระจกทันสมัยที่อยู่ด้านข้างโรงละครคือห้องสมุดของมหาวิทยาลัยไฟรบูร์ก
บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเลยเห็นนักศึกษาจำนวนมาก
University Library Freiburg is one of the largest academic libraries in Europe.
The dark, glass building looks like a cut diamond, with the facade reflecting the historic buildings
and creating a strong symbiosis between the modern library and its surroundings.
Square of the Old Synagogue
The square was given name in 1996 after the synagogue that was destroyed in the November 1938.
The memorial fountain in the shape of the floor plan of the synagogue
จตุรัสเก่าขนาด 130 x 130 เมตร ล้อมรอบด้วยโรงละคร ห้องสมุดและอาคารมหาวิทยาลัยไฟร์บูร์ก
มีน้ำพุบนพื้นตรงตำแหน่งที่เคยเป็นโบสถ์ของชาวยิว
เดินต่อไปตามถนน Bertoldstraße ซึ่งเป็นถนนหลักเข้าสู่ย่านเมืองเก่า
ทางซ้ายมือคือโบสถ์คาทอลิกประจำมหาวิทยาลัยไฟร์บูร์ก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1683-1701
The University Church (Universitätskirche)
It is a Catholic church among the university buildings. The church was built between 1683 and 1701.
It has been part of the university since the 18th Century.
The statues to the left and right of the main portal depict St.Aloysius Gonzaga and St.Stanislaus Kostka.
ระหว่างเดินเล่นในเมืองเราจะเห็นลำธารหรือคูน้ำกว้างประมาณ 1 ฟุต อยู่ริมถนนยาวเข้าไปถึงย่านเมืองเก่า ลำธารนี้รับน้ำมาจากแม่น้ำ Dreisam คำว่า Bächle มาจากภาษาเยอรมันว่า Bach ซึ่งหมายถึงลำธาร
ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองไฟร์บูร์กเลยค่ะ
The Freiburg Bächle
They are small water-filled runnels or formalised rills in the city of Freiburg.
The Freiburg Bächle being one of the city's most famous landmarks.
The first documented mention of the Bächle dates back to 1220. The man-made watercourses fed with water from the Dreisam can be found in most of the streets and alleys of the old town .
University College Freiburg
Uniseum Freiburg
ถนนหลักเส้นนี้มีรถรางวิ่งไปและกลับตลอดเวลา
สองข้างทางมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
เดินมาถึงสี่แยกกลางเมืองซึ่งเป็นจุดตัดของถนนสามเส้นคือ Bertoldstraße,Salzstraße และ Kaiser-Joseph-Straße shopping street ตรงกลางมีอนุสาวรีย์และน้ำพุ
Bertoldsbrunnen
The limestone base about four meters high, crowned with an abstract bronze equestrian statue.
It was inaugurated in 1965 and replaces the fish fountain that was destroyed in World War II.
This monument, dedicated to the Dukes of Zähringen and named after the city's founder, Duke Bertold.
อนุสาวรีย์รูปคนขี่ม้าตั้งอยู่บนแท่นสูง 4 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ Dukes of Zähringen
สี่แยกนี้เป็นป้ายจอดรถราง Verkehrs AG tram lines สี่สาย จึงมักเป็นจุดนัดพบประจำเมือง
Kaiser-Joseph-Straße เป็นถนนสายช็อปปิ้งมีห้างและร้านค้าทั้งสองข้าง
ทางทิศใต้ของอนุสาวรีย์มีประตูเมืองเก่า ตั้งอยู่บนถนน Kaiser-Joseph-Straße
Martinstor (Martin’s gate)
It is one of the two well-preserved city gates of Freiburg im Breisgau.
Located on the southwest side of the Old Town
This gate has a rich history dating back to the 13th century.
It played a vital role as part of the city's Medieval fortifications to the defense and security of Freiburg.
Martin’s gate เคยเป็นป้อมปราการมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ใช้ป้องกันศัตรูมารุกรานเมือง
อาคารสวยๆข้างประตูเมือง
ด้านล่างประตูเมืองมีซุ้มโค้งสองอัน เป็นทางผ่านของรถราง
A plaque in memorial of the victims of the witch hunt is located on the inner side of Martinstor. Three widows of city councilors, Anna Wohlffartin, Catharina Stadelmennin and Margaretha Mößmerin, were beheaded and burnt during the first wave of persecutions from 1599
ด้านบนของซุ้มฝั่งตะวันออกมีป้ายจารึกถึงเหตุการณ์ล่าแม่มดในปี 1599 ทำให้มีผู้หญิงถูกเผา 3 คน
Inside the western part of the arch is the entrance to a McDonald’s , which was built in 1901.
ซุ้มโค้งฝั่งตะวันตกสร้างในปี 1901 ปัจจุบันเป็นทางเข้าร้าน McDonald’s
เดินผ่านซุ้มประตูมาชมด้านนอกประตูเมือง
ด้านบนซุ้มมีรูปปั้นรูปนกอินทรีสองหัว เป็นสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์
The double-headed eagle relief on Martinstor
Symbol of the Holy Roman Empire (Deutscher Nation) and the Habsburg dynasty
Martinsgässle คือถนนเล็กๆด้านข้างประตูเมืองเป็นทางเข้าตลาดและร้านอาหาร Martinsbräu
The Freiburger Markthalle and the Martinsbräu are all located in the Martinsgässle
Martinsbräu Freiburg has been brewing delicious Freiburg beer since 1989.
มปเลือกทานอาหารเย็นที่ร้านนี้เพราะชื่อดังที่สุดในเมือง ตอนเย็นคนนิยมมานั่งดื่มเบียร์กัน
เมนูเป็นภาษาเยอรมันต้องใช้กูเกิ้ลแปลภาษา พวกเราเลือกเป็นอาหารแนะนำค่ะ
There are regional dishes and home-style dishes. We can watch the chefs cooking in the open kitchen.
ตอนนี้ในร้านยังไม่มีลูกค้า รออาหารไม่นานค่ะ
เมนูมื้อนี้คือ ขาหมูเยอรมัน สเต็กหมูทอด สลัดผัก น้ำเปล่า เป็ปซี่
อาหารรสชาติใช้ได้ จานใหญ่ ทานสามคนไม่หมดค่ะ
ทานอาหารเสร็จก็ไปเดินกันต่อค่ะตรงนี้คือถนน Gerberau
อากาศเย็นสบาย เดินชมอาคารสวยๆ
เมืองค่อนข้างเงียบ และสะอาดมาก
ตอนนี้เวลาทุ่มกว่า ร้านค้าส่วนมากเริ่มปิดกันแล้วค่ะ
ด้านข้างมีคูน้ำ Bächle ยาวตลอดแนวถนน
The total length of the Bächle is 15.9 kilometers, of which 6.4 kilometers are underground.
Locals tell that if you accidently step into this waterways, you are bound to marry a person from Freiburg.
มีความเชื่อในยุคโบราณว่าถ้าคนต่างถิ่นเกิดพลัดตกลงในคูน้ำนี้จะได้แต่งงานกับคนในเมืองไฟร์บูร์ก
Bächleเป็นการนำน้ำจากแม่น้ำ Dreisam มาใช้ในเมืองเพื่อการชลประทาน,ปศุสัตว์,ดับไฟไหม้ในเมือง
และยังทำหน้าที่เป็นทางน้ำที่พัดพาสิ่งสกปรกออกจากท้องถนน
เดินมาถึงคลองกลางเมืองเก่า เป็นจุดที่คนนิยมมาเดินเล่น
Gewerbekanal
The clear water flowing through the Gerberau and Fischerau streets
น้ำในคลองไหลรวมมาจากคูน้ำของถนน Gerberau และ Fischerau
จุดเด่นในคลองนี้คือ จระเข้ ที่โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ
The crocodile sculpture made by Ole Meinecke as part of a semester project in 2001.
It is one of the most popular postcard motifs in Freiburg.
"Please do not feed" is written on a sign on the railing of the industrial canal in the Gerberau.
รูปปั้นจระเข้หินเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป สร้างขึ้นเมื่อปี 2001
มีป้ายเขียน "ห้ามให้อาหาร"
The picturesque facades of the old houses and their flower-covered windows.
Freiburg locals fondly call these idyllic narrow cobblestone streets between Martinstor and Schwabentor "Klein Venedig" or "Little Venice".
บ้านสวยๆสองฝั่งคลอง มีต้นไม้เลื้อยและดอกไม้ประดับตามผนังบ้าน
สองฝั่งคลองเป็นร้านค้า ร้านอาหารและคาเฟ่
ชาวเมืองเรียกย่านนี้ว่า เวนิสน้อย เพราะมีคลองไหลผ่านบ้านเรือนและพื้นที่ตรงกลางเหมือนเป็นเกาะเล็กๆ
เดินต่อไปจนสุดถนน Gerberau
ด้านหน้าคือประตูเมืองอันที่สอง
Schwabentor (Swabian gate)
It was built in the middle of the 13th century as a city gate, part of Freiburg’s defense system for protecting its citizens.
ประวัติความเป็นมาของประตู (ภาษาเยอรมัน)
The Schwabentor (called Obertor in the Middle Ages) is the more recent of the two remaining city gates of the medieval defensive wall of Freiburg im Breisgau.
It was suggested to become world heritage in 2022.
Schwabentor เป็นประตูเมืองที่คงเหลือเป็นอันที่สองของกำแพงป้องกันในยุคกลางของเมืองไฟร์บูร์ก
ได้รับการเสนอให้เป็นมรดกโลกเมื่อปีที่แล้ว (ค.ศ.2022)
Painting of St. George the dragon slayer (the patron saint of Freiburg) is added on the gate’s exterior wall by Fritz Geiges in 1903.
ที่ผนังด้านนอกของประตูเมืองมีรูปภาพเซนต์จอร์จปราบมังกรขนาดใหญ่ประดับอยู่ตั้งแต่ปี 1903
Schwabentorbrunnen
Stepped gable
Matthias Schwäri painted a picture of a merchant with a cart on the inner wall in 1572.
ด้านล่างประตูเมืองมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆชื่อ Zinnfigurenklause ด้านในจัดแสดง Tin figure
เดินเข้าเมืองไปโบสถ์กันค่ะ
เดินขึ้นเหนือไปตามถนน Oberlinden
Inn "Zum Roten Bären" Freiburg on Oberlinden 12
The building of this inn is one of the oldest architectural structures in Freiburg. The foundations date back to the city’s establishment in 1120. It has a claim to be the oldest hotel in Germany and Europe.
Zum Roten Bären แปลว่าหมีสีแดง เป็นโรงแรมและร้านอาหาร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1120
เชื่อว่าเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันและในยุโรป
ขณะเดินเล่นบนถนนเส้นนี้เราจะเห็นรูปภาพอยู่บนพื้นถนนด้านหน้าอาคารแต่ละหลัง
ดูภาพที่พื้นถนนและทายว่าแต่ละหลังเป็นร้านอะไร เหมือนเป็นป้ายโฆษณาร้านแบบยุคเก่า
บนถนนไม่มีคนเลยเดินเล่นกันเพลิดเพลินมากๆค่ะ
The Augustinian Museum presents its renowned collection of art from the Middle Ages to the Baroque as well as paintings from the 19th century.
Karlsruhe Higher Regional Court (Oberlandesgericht Karlsruhe : OLG Karlsruhe)
It is one of two higher regional courts in the state of Baden-Württemberg.
เดินเข้าถนนเล็กๆด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ Augustiner
Augustinergasse
ทางลัดไปมหาวิหารไฟร์บูร์ก
Freiburg Minster (Freiburger Münster) is the cathedral of Freiburg im Breisgau.
It is both the parish church of the cathedral parish and the cathedral of the Archdiocese of Freiburg.
อาสนวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นบนฐานของโบสถ์เดิมตั้งแต่ก่อตั้งเมืองไฟรบูร์กในปี 1120
ดยุคองค์สุดท้ายแห่ง Zähringen ได้เริ่มสร้างอาคารในสไตล์โรมาเนสก์ช่วงปี 1200
และมีการก่อสร้างต่อในสไตล์โกธิคช่วงปี 1230 ทำให้วิหารนี้มีรูปแบบผสมผสาน
The Cathedral was partly built on the foundations of an original church that had been there from the beginning of Freiburg, in 1120. The last duke of Zähringen had started the building around 1200 in romanesque style. The construction continued in 1230 in Gothic style.
South side with sundial man and Hahnen tower
บนผนังทางทิศใต้ของวิหารมีรูปปั้น Sundial man
Münsterplatz is the largest square in the city.
จตุรัสรอบๆวิหารมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง ล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญหลายหลัง
อาคารสีเหลืองด้านข้างวิหารเคยเป็นป้อมปราการเก่าสร้างในปี 1733 ปัจจุบันเป็นร้านไวน์
Alte Wache Freiburg
It was built as a bastion in 1733 as part of the militarization. Today, it is The House of Baden Wines.
ฝั่งตรงข้ามวิหารที่อยู่ทางทิศใต้ของจตุรัสมีอาคารสีแดงสวยโดดเด่น
Historisches Kaufhaus Freiburg (The historic department store)
It stands out with red facade and the colorful roof tiles on the towers.
It was the city's first municipal department store and dates back to 1532.
The ground floor is divided into an arched arcade with four arcades.
The ribbed vault of the arbor is decorated with keystones with coats of arms.
The canopy-crowned sculptures between the windows of the front depict Emperor Maximilian I , his son King Philip the Handsome and his sons, the Roman Emperor Charles V and the Roman King and later Emperor Ferdinand I.
อาคารหลังนี้เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของเมืองสร้างมาตั้งแต่ปี 1532
ชั้นล่างเป็นซุ้มโค้ง 4 อัน ชั้นบนมีรูปปั้นกษัตริย์ 4 องค์ ด้านข้างเป็นหอคอยมีหลังคาแหลมหลากสี
อาคารด้านข้างเป็นร้านอาหารและคาเฟ่
อาคารสีเหลืองทางขวามือ สร้างในปี 1756 เคยเป็นที่นัดพบสังสรรค์ของเหล่าอัศวินและชนชั้นสูง
ปัจจุบันเป็นโรงเรียนสอนร้องเพลงของวิหาร
(House of the Knight) was built in 1756
It has become the cathedral singing school after renovation in 1995.
Georgsbrunnen
It is a reconstruction of the medieval fountain that has stood at this location since the 14th century and has been restored several times. It has carried the statue of St. George since the late 15th century.
St. George as a knight on the defeated dragon
น้ำพุเซนต์จอร์จ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจตุรัส สร้างในศตวรรษที่ 14
และนำรูปปั้นเซนต์จอร์จสีทองมาประดับเพิ่มในช่วงปลายศตวรรษที่ 15
Haus Kuhnle
เดินต่อไปทางทิศตะวันตกของจตุรัส จะเห็นหอคอยของวิหารที่สูงมาก
The Gothic tower of Freiburg Minster
The filigree spire of the 116-m-high west tower was completed around 1330 AD
It is an architectural monument of the highest rank.
"The most beautiful spire on earth".
Described by art historian Jacob Burckhardt in 1869.
หอคอยของวิหารมีความสูง 116 เมตร ก่อสร้างเสร็จในปี 1330 ถือว่าสูงที่สุดในยุคนั้น
มีนักประวัติศาสตร์บรรยายว่า เป็นหอคอยยอดแหลมที่สวยที่สุดบนโลกนี้
The massive walls and magnificent pillars in the lower section symbolize the connection to the ground. In counterpoint, the spire opens to the sky.
It is one of the few large Gothic church buildings that were completed in the Middle Ages and survived the numerous wars almost unscathed.
หอคอยของวิหารนี้เป็นหอคอยสไตล์โกธิคเพียงแห่งเดียวในเยอรมนีที่ไม่ได้รับความเสียหายจากสงครามโลกเลย ในขณะที่อาคารรอบๆพังทลายเสียหายอย่างรุนแรง
Kornhaus and Fischbrunnen located on the northwest side of Münsterplatz
อาคารสีขาวหลังคาหน้าจั่วแบบขั้นบันไดคือ Kornhaus (Grain house) สร้างตั้งแต่ปี 1498
ปัจจุบันเป็นร้านค้าและคาเฟ่ ด้านหน้ามีน้ำพุที่เก่าแก่และสวยที่สุดในเมือง สร้างในปี 1486
Fischbrunnen (Fish fountain) is the oldest and most magnificent fountain in the city was built in 1486.
ภาพจาก Wikipedia
เดินออกจากจตุรัสไปตามถนน Rathausgasse ประมาณ 150 เมตร ด้านหน้าคือจตุรัสศาลาว่าการเมือง
New town hall with bell tower and Old Town Hall
Old Town Hall (1559) : Offices of the city government since its completion.
New Town Hall (1539–1545) : Has been used as an additional town hall since 1891.
The New Town Hall comprises two sumptuous Renaissance buildings joined together by a stately, gabled column entryway.
ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า(อาคารสีแดง)อยู่ทางขวามือสร้างเสร็จในปี 1559 และถูกทำลายในช่วงสงครามจนเหลือแต่โครง ต่อมาได้มีการสร้างใหม่และใช้หินทรายแดงมาตกแต่งผนังด้านหน้า
ศาลาว่าการเมืองหลังใหม่สไตล์เรอเนสซองส์อยู่ด้านข้างเชื่อมกันด้วยอาคารหน้าจั่ว มีหอนาฬิกาตรงกลาง
Freiburg has several town halls. The New Town Hall is older than the Old Town Hall.
The city’s oldest town hall is called the Gerichtslaube (Old Court House) built in 1303.
เมืองไฟร์บูร์กมีศาลาว่าการเมืองมากถึงสามหลัง หลังเก่าสุดอยู่ด้านหลัง
ศาลาว่าการหลังใหม่มีอายุเก่าแก่กว่าหลังเก่า
Rathausplatz เป็นจตุรัสด้านหน้าศาลาว่าการเมือง รอบๆเป็นร้านอาหารและร้านค้า
Berthold-Schwarz-Brunnen
The fountain with a monument to the monk Berthold Schwarz in the middle of shady chestnut trees.
น้ำพุรูปนักบวช Berthold Schwarz ตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัส
เดินต่อไปตามถนน Rathausgasse ตอนนี้ร้านค้าปิดหมดทุกร้านแล้วค่ะ
ภาพอาคารและเมืองในสมัยก่อน
เดินมาจนสุดถนน ด้านหน้าคือสวนสาธารณะกลางเมือง
Colombi Park (Municipal Park) and the Schlossberg
เดินตรงไปตามถนน Eisenbahnstrasse ด้านข้างสวนสาธารณะ
สุดถนนด้านหน้าคือสถานีรถไฟ Freiburg(Breisgau) Hbf เข้าไปซื้อน้ำดื่มเพราะร้านสะดวกซื้อปิดหมดแล้ว
เวลา 20:00 น.คุณป๋าหมดแรงขอกลับไปนอนพักที่โรงแรม สองแม่ลูกขอเดินเล่นต่อค่ะ
กลับไปเดินเล่นถ่ายรูปอาคารสวยๆในย่านเมืองเก่า
Heinrich-Rombach-Platz
Löwenstraße
อาคารสวยอยู่ติดกับ Martin's Gate
เดินผ่านประตูเมืองเข้าสู่ถนน Kaiser-Joseph-Straße
สี่แยกกลางเมืองเงียบสงบ ไม่มีรถรางวิ่งแล้วค่ะ
เดินกลับโรงแรม
แวะทานเจลาโต้อิตาลีเจ้าดังของเมือง มีหลายรสจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ
Eiscafe Portofino
คนเยอะมากไม่มีที่นั่งทาน เลยเดินทาน กลับโรงแรมพักผ่อนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น