TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2566/07/02

Trier "Germany's oldest city" (เที่ยวเทรียร์ เมืองเก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี)

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566
วันนี้พวกเราก็ออกเดินทางแต่เช้าเหมือนเดิมค่ะ พระอาทิตย์ขึ้นเร็วแดดเริ่มออกแล้ว

ถนนด้านหน้าโรงแรมเงียบมาก

รถไฟขบวนที่เราจะใช้เดินทาง มาจอดรอที่ชานชลา 22 แล้วค่ะ

เช้าๆไม่มีคนเดินไปขึ้นรถไฟเลือกที่นั่งว่างได้เลยค่ะ 

เวลา 7:00 น. รถไฟออกเดินทางตรงเวลา วันนี้แม่ตุ๊กตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหารกล่องเพื่อทานบนรถไฟค่ะ
พวกเราจะเดินทางไปเมืองเทรียร์สุดชายแดนของเยอรมัน ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชม.

ข้าวเหนียว หมูทอด คนละกล่อง อิ่มไปจนเที่ยงเลยค่ะ

เวลา 7:30 น.เดินทางมาถึงเมืองเมืองไมนซ์ รถไฟข้ามสะพาน Südbrücke, Mainz

Theodor Heuss Bridge and Mainz Cathedral

มองเห็นโบสถ์และอาคารในย่านเมืองเก่าไมนซ์

เวลา 8:00 น.เดินทางถึงเมือง Bingen am Rhein

Bingen am Rhein เมืองเล็กริมแม่น้ำไรน์ ที่นี่จะมีท่าเรือเพื่อล่องเรือชมแม่น้ำไรน์ (Rhine River Cruise)

https://www.k-d.com  Köln-Düsseldorfer rhine river cruise

ตอนแรกแม่ตุ๊กก็มีแพลนจะนั่งเรือ KD Cruises ลำนี้ แต่ใช้เวลาล่องนานและเดือนนี้ก็มีรอบเรือไม่มาก

การเดินทางด้วยรถไฟระหว่างเมือง Bingen - Koblenz จะวิ่งเลียบแม่น้ำไรน์ระยะทางประมาณ 60 กม.

ล่องเรือแม่น้ำไรน์เพื่อชมทัศนียภาพและปราสาทที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำ ระยะเวลาล่อง 1-3 ชม.

นั่งรถไฟทางฝั่งขวาเพื่อชมวิวแม่น้ำไรน์

ทางรถไฟโค้งไปตามแม่น้ำผ่านหน้าผา Lorelei

Rock of the Lorelei

มีรถบ้านจอดอยู่เต็มลานริมแม่น้ำ

เมือง St.Goar

Sankt Goar เป็นเมืองบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์

มีปราสาทเก่าแก่และป้อมปราการตั้งอยู่บนเขา บางหลังก็เปิดให้เข้าชม

บางหลังมีการปรับปรุงเป็นร้านอาหารและโรงแรม

ไร่องุ่นปลูกตามไหล่เขา



เมือง Boppard

เวลา 8:40 น.เดินทางมาถึงเมือง Koblenz เปลี่ยนขบวนรถไฟเพื่อต่อไปยังเมือง Trier

เวลา 9:00 น.นั่งรถไฟต่อไปอีก 1.5 ชม.

Gülser Eisenbahnbrücke and Moselle river

รถไฟวิ่งไปทางทิศตะวันตกเลียบแม่น้ำโมเซล

นั่งทางฝั่งซ้ายเพื่อชมวิวแม่น้ำโมเซลล์


เวลา 10:30 น.เดินทางมาถึง Trier Hbf

เดินออกจากสถานีรถไฟเพื่อไปยังย่านเมืองเก่าที่อยู่ทางทิศตะวันตก

Banhofstrasse

Trier public prosecutor's office and Balduinsbrunnen

เดินตรงไปตามถนนระยะทางประมาณ 600 เมตรจะถึงย่านเมืองเก่า

มีรถบัสวิ่งไปยังเมืองเก่าทุกครึ่งชั่วโมง พวกเราเลยเดินจะเร็วกว่าค่ะ

เดินผ่านสวนร่มรื่นและเย็นมาก

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เดินมาถึงเมืองเก่าแล้วค่ะ ด้านหน้าคือประตูเมืองเก่าเทรียร์

Trier is Germany's oldest city.

ด้านหน้าประตูเมืองมีโรงแรมสวยๆหลายหลัง

The Porta Nigra (Black Gate)
It is a large Roman city gate and Trier’s landmark.


 ประตูเมืองโรมันขนาดใหญ่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองเทรียร์ 

 It has been a UNESCO World Heritage Site since 1986.

 มีต้นกำเนิดในยุคกลางสร้างขึ้นโดยชาวโรมันประมาณ ค.ศ.170 ตั้งชื่อเพราะหินที่ใช้สร้างมีสีเข้มดำ
 เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

The Porta Nigra view from the north.
The name Porta Nigra originated in the Middle Ages due to the darkened colour of its stone.

 It was erected during the reign of Marcus Aurelius (161-180). The Romans built it in around 170 AD. 

The gate consisted of two four-storeyed towers, projecting as near semicircles on the outer side.

The city gate was built with huge sandstone blocks that weighed up to 6 tons (7200 blocks of stone)
 and were held together by iron clamps.

โมเดลประตูเมืองตั้งอยู่ด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าซึ่งเป็นทางคนเดินห้ามรถผ่าน

The gate is closed to cars, but stands right next to one of the main streets of Trier.
 Air pollution, the exhaust fumes of passing cars, continues to darken and damage its stones.

เดินเข้าไปชมด้านในกำแพง เปิดให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปชมด้านบนได้ เวลา 9:00-18:00 น.
Admission price Adults: € 4.00

Inner court

มองจากด้านในกำแพงจะเห็นว่ามีหลายชั้นค่อนข้างสูง พวกเราไม่อยากปีนขึ้นไปเลยเดินชมด้านล่าง

 The middle stories were converted into two churches by extending the floors over the inner court.
The upper church was accessible to the monks and the lower church was open to the general public.

กำแพงด้านนี้สร้างเป็นโบสถ์สองชั้น

ด้านบนเป็นทางเดินรอบประตูเมืองสามารถชมวิวได้โดยรอบ

Porta Nigra view from the south

It is the best-preserved Roman city gate north of the Alps.

ประตูเมืองทางฝั่งทิศใต้ เมื่อมองจากตัวเมืองเก่า

The city gate was used for a variety of purposes when the ending of the Roman Empire.

The City Museum Simeonstift Trier is located next to the Porta Nigra.

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว

Römer-Express
The ride tour through Trier's old town. From the Porta Nigra, to the Karl Marx Birthplace and the famous cathedral, to the Church of Our Lady and the Imperial Baths. 

45-minute city tours start every 30 minutes from 10 a.m. to 6 p.m. Price : 10 €

รถนำเที่ยวชมเมืองเก่า ราคาคนละ 10 ยูโร

มีคนใช้บริการจำนวนมากเพราะระยะทางค่อนข้างไกล ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

Statue of St.Nicholas


เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก คงเพราะเป็นเมืองเก่าแก่

เดินลงใต้ไปตามถนน Simeonstrasse

จุดหมายคือจตุรัสเก่าทางด้านหน้าระยะทางประมาณ 300 เมตร

Dreikönigenhaus
It is a patrician house in the shape of an early Gothic residential tower. It was built around 1230. 
It takes its name from a painting of the Epiphany that was once installed in this house.
The main entrance was originally a high entrance on the first floor (above the current right entrance), accessible only via a ladder or wooden stairs that could be pulled up in an emergency.  

The current entrance is on the ground floor.

บ้านสวยหลังนี้เป็นบ้านขุนนางสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1230 ในสไตล์โกธิก ด้านหน้าตกแต่งสวยงาม
ลักษณะพิเศษคือประตูทางเข้าอยู่ชั้นบน สมัยก่อนการขึ้นลงต้องใช้บันไดพับเก็บได้เพื่อความปลอดภัย

เดินเข้าสู่ย่านเมืองเก่า

อาคารทางขวามือที่มีซุ้มโค้งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์

Judenpforte
The Small Jewish Gate was one of three entrances to the Jewish quarter in medieval Trier. 
 It was built around 1219. It is the oldest preserved Jewish home in Germany. 

บริเวณใต้บ้านโครงไม้ซุงนี้มีทางเข้าเป็นซุ้มโค้งเล็กๆ 1 อัน
 
Jewish Gate ประตูทางเข้าชุมชนชาวยิวในเมืองเทรียร์ เป็นทางเล็กและแคบ ด้านในมีบ้านประมาณ 60 หลัง

The Jewish quarter was relatively large, having about 60 houses,
The alleyway is a bit dark and tight but very safe.

Half-timbered Building No. 21,22,23

Hauptmarkt
จตุรัสตลาดกลางเมืองเก่าเทรียร์ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 รายล้อมด้วยอาคารทางประวัติศาสตร์

The main market of Trier is the central and one of the largest squares in the city.
It has been a marketplace since the 10th century, features many historic and landmark buildings.

St. Gangolf Kirche and Building No. 7-13


St.Gangolf is the market and town church of Trier, dedicated to St.Gangolf. It is the second oldest church building in the city. It is located behind a row of houses south of the main market.

โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกเซนต์ Gangolf ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจตุรัสเป็นโบสถ์เก่าแก่อันดับสองของเทรียร์
ระหว่างอาคารมีซุ้มประตูเล็กๆสไตล์บาโรคเป็นทางเข้าโบสถ์

 The church is accessed from the square by a small Baroque portal in between two of the shops. 

ด้านข้างโบสถ์ทางฝั่งถนน Grabenstrasse

ผนังด้านบนตรงหน้าจั่วมีรูปพระเยซูตรึงกางเขน ด้านล่างเปิดเป็นร้านอาหาร

Trier was once called the "Rome of the North"
 because it was the capital of the Roman northern territories for centuries.

ทางขวามือคืออาคารทางทิศตะวันตกของจตุรัส 

Building No.14 (The Steipe) ,15-17 

The Steipe was built around 1430 with Gothic style building.
It was temporarily used as a town hall in the 14th century. Today it houses a restaurant in the Ratskeller, a café on the ground floor and a toy museum on the upper floors.

อาคารหลังสีขาวสไตล์โกธิกตรงหัวมุม เคยเป็นศาลาว่าการเมืองในช่วงศตวรรษที่ 14
ด้านหน้าซุ้มประตูประดับด้วยรูปปั้นนักบุญและอัศวิน

There are statues of the Trier city patrons (from left) James the Elder , Helena , Peter and Paul.
Two knights in full armor statues stand at the first floor. These represented urban freedom, comparable to the North German Roland statues.

Market Cross and Building No.19-20 (Domhotel) 

Market Cross (Marktkreuz)
 This is one of Europe's oldest market crosses. It stands on an ancient Roman pillar, which served as a pillory. Archbishop Heinrich I installed a cross in Main Market Square in 958. It is 5.22 m high.
The market cross is a replica, and the original cross is on display at the Simeonstift Municipal Museum.

Market Cross คือเสาหินแกรนิตโรมันรูปกากบาท สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 958 มีความสูงประมาณ 5 เมตร
แต่ละด้านมีอักษรละติน,เซนต์ปีเตอร์,Lamb of God และนาฬิกาแดด เสาของจริงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์

The cross features a Latin inscription, an image of the Lamb of God, and a victory banner.
The sides of the cross have a sundial and a depiction of St. Peter. 

Marktbrunnen (St. Peter's Fountain ) is in the southern area of ​​the square.

St. Peter's Fountain 
This fountain was created in 1594 by sculptor Hans Ruprecht Hoffman. 
A statue of St. Peter stands at the top of the fountain. 

น้ำพุนี้สร้างตั้งแต่ปี 1594 ด้านบนเป็นรูปปั้นเซนต์ปีเตอร์ ถือช่อดอกไม้
ด้านล่างมีรูปปั้นเทพี 4 องค์ที่แสดงถึง ความแข็งแรง ความยุติธรรม ความฉลาด และความประมาณตน

The statues stand around the fountain's base that represent 
 Fortitudo - strength, Justitia - justice, Sapientia - wisdom and Temperantia - moderation.

น้ำพุนี้ได้รับความเสียหายจากสงครามโลกน้อยมากและได้รับการปรับปรุงจนสวยงามหรูหรา

ด้านหลังน้ำพุเป็นร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี "Löwen-Apotheke"

The Löwen-Apotheke on Trier's main market was first mentioned in a document in 1241.
It is considered the oldest pharmacy in Germany.

รูปปั้นเซนต์ปีเตอร์หันหน้าเข้าสู่ถนน Dietrichstrasse (ที่อยู่ด้านข้างอาคาร Steipe) ซึ่งมีอาคารสำคัญ 2 หลัง

Red House 
This House designed by Wolfgang Struppeler in 1684. 
The most important inscription on the house tells 
"Trier stood before Rome thirteen hundred years, that he should continue, enjoys eternal peace. Amen"

ANTE ROMAM TREVIRIS STETIT ANNIS MILLE TRECENTIS.
PERSTET ET ÆTERNA PACE FRVATVR.AMEN
บ้านสีแดงหลังนี้สร้างในปี 1684 จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือข้อความที่อยู่บนผนังด้านหน้ามีความหมายว่า
"เทรียร์ตั้งมาก่อนกรุงโรมหนึ่งพันสามร้อยปี ขอให้ดำรงอยู่และมีความสงบสุขตลอดไป"

อาคารถัดจากบ้านแดงคือพิพิธภัณฑ์ของเล่น Spielzeugmuseum Trier ปิดวันจันทร์ค่ะ

จตุรัสนี้มีเรื่องราวและความเป็นมายาวนานนับร้อยปี ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก

Building No.1,2,3,3a (Haupwatche),4,5,6 ( Löwen-Apotheke )

Tourist Route

เดินไปตามถนน Sternstrasse ด้านข้างอาคารสีชมพูที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของจตุรัส จะพบกับวิหารใหญ่

Domfreihof and Trier Cathedral

Domfreihof คือจตุรัสด้านหน้ามหาวิหารเทรียร์ มีอาคารสำคัญรอบๆจตุรัสทั้งสี่ด้าน


 Trier Cathedral (Trierer Dom,The High Cathedral of Saint Peter)
This is a Roman Catholic cathedral in Trier.
It is the oldest church in Germany and the largest religious structure in Trier.
The imposing Romanesque westwork and four towers (with 112.5 m.length  and 41 m.width). 
The central part of the nave was built of Roman brick in the early fourth century.

มหาวิหารเทรียร์เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนีและมีโครงสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเทรียร์ มีความยาว 112 เมตร กว้าง 41 เมตร ด้านหน้าตกแต่งสไตล์โรมาแนสก์มีหอคอย 4 อัน 
ส่วนกลางสร้างด้วยอิฐโรมันตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 4 

 The Latin inscription above the clock on the tallest tower reads 
"NESCITIS QVA HORA DOMINVS VENIET" ("You do not know what time the Lord is coming").

หอคอยยอดสูงสุดประดับด้วยนาฬิกา ด้านบนมีข้อความจารึกว่า "คุณไม่รู้เวลาที่พระเจ้าจะมาเยือน"

 The imposing westwork of Trier Cathedral consist of five symmetrical sections and is typical of Romanesque architecture under the Salian style (11th century). 

ด้านหน้าวิหารตกแต่งในสไตล์ Salian ซุ้มโค้งของประตูและหน้าต่างประดับด้วยอิฐสีแดงสลับขาว

เข้าชมด้านในโบสถ์ฟรี ยกเว้นห้องเก็บสมบัติต้องจ่ายเพิ่มคนละ 1.5 Euro
 The Trier Cathedral Treasury contains an important collection of Christian art.

พวกเราไม่ได้เข้าไปชมด้านในเพราะคนแออัด ด้านนอกลมเย็นสบายเดินชมความยิ่งใหญ่รอบๆวิหาร

Cathedral of St. Peter (Trier Cathedral) and Church of Our Lady in Trier were listed as a UNESCO World Heritage Site in 1986.

ทางขวามือของวิหารคือโบสถ์พระแม่มารี

มหาวิหารเทรียร์และโบสถ์พระแม่มารี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1986

The Church of Our Lady (Liebfrauenkirche) 
It is located right next to the Trier Cathedral. It is considered the oldest Gothic church in Germany
 and the most important and earliest Gothic central building in the country.
It built in the 13th century on the outline of a twelve-petalled rose (rosa mystica) in the finest French High Gothic filigree architecture.

สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนีที่สร้างขึ้นในสไตล์โกธิกแบบฝรั่งเศสชั้นสูง
บานประตูด้านหน้าประดับด้วยรูปปั้นและรูปสลักที่งดงาม

The west door is decorated with carvings that convey the concept of salvation and Passion of Christ. Noah and Abraham placed left and right of the arch represent the sacrificing precursors.

Depiction of the Virgin Mary in the tympanum above the main portal.

The large statues flanking the doors are replicas of the originals.
 They represent the Ecclesia, St Peter, Adam, Eve, St John and the Synagoga.

อาคารทางซ้ายมือคือ Dom-Information

ด้านหน้าวิหารมีการแสดงดนตรีคลาสสิก มีคนมานั่งฟังกันเยอะเลยค่ะ

อาคารสีชมพูหลังนี้คือ Walderdorff Palace (Palais Walderdorff) เป็นกลุ่มอาคารหลายหลังเชื่อมต่อกันตั้งแต่จตุรัสตลาดมาจนถึงจตุรัสด้านหน้าวิหารเทรียร์ สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ใช้งานหลายอย่างเช่น เป็นห้องสมุด,ศูนย์การเรียนรู้,ห้องจัดแสดง,สำนักงาน ฯลฯ ปัจจุบันเป็นร้านอาหารและห้าง

Walderdorff Palace was built in the 18th century, has been used for several facilities since its reconstruction and general renovation at the turn of the millennium: city library, adult education center, gallery, registry office, senior citizens' office, youth club, wine shop, retail, etc.

เดินออกมาทางเดิมเข้าสู่จตุรัสตลาด

เลี้ยวซ้ายไปตามถนน Fleischstrasse เดินต่อไปทางทิศใต้ประมาณ 200 เมตร

 Fleischstrasse is one of Trier's main shopping streets , runs along the southern edge of the square .

เดินมาถึงจตุรัสเมล็ดพืช (Kornmarkt) อาคารสีชมพูทางขวามือคือไปรษณีย์
The Posthof is the former headquarters of the Trier Post Office , and now used for offices and shops.

ตรงกลางจตุรัส Kornmarkt มีน้ำพุเซนต์จอร์จ สร้างตั้งแต่ปี 1750 สไตล์รอคโคโค
เป็นหนึ่งในน้ำพุที่สวยที่สุดในเยอรมนี ด้านบนเสามีรูปปั้นเซนต์จอร์จกำลังฆ่ามังกร

Saint George's Fountain (Georgsbrunnen)
It was built in 1750, considered one of the most beautiful rococo fountains in Germany.
This fountain depicting the four seasons and Saint George slaying the dragon on an obelisk.

เดินต่อไปตามถนน  Fleischstrasse อีก 200 เมตร

บริเวณลานกว้างนี้เป็นห้าแยก ด้านข้างมีน้ำพุโบราณทำจากหิน 1 อัน

Grasshopper fountain (Heuschreckbrunnen)
Stone column with a giant grasshopper on the top. The fountain symbolises the Carnival Society of Trier (Trierer Heuschreck since 1848), with its first 5 members around the column.

Under the feet of the stone figures, the sculptor Willi Hahn has sculpted himself. 
His face looks into the pedestrian zone, his feet stand out of the stone column in the direction of Brückenstrasse. He wears his beret and reveals himself to be a sculptor with a hammer and chisel. 

ด้านบนน้ำพุเป็นรูปตั๊กแตนขนาดใหญ่ ด้านล่างเป็นรูปผู้ก่อตั้ง บ.Heuschnell KG 5 คน ที่ได้บริจาคน้ำพุนี้
ด้านล่างเป็นรูปของช่างแกะสลัก  Willi Hahn ที่มีหัวและเท้าโผล่ออกมา

เดินต่อไปตามถนน Brückenstrasse ด้านหน้าคือร้านขายยา

เดินถัดมาสามหลังก็ถึงพิพิธภัณฑ์คาร์ลมาร์กซ์

Karl Marx House
Karl Marx's birthplace is on Trierer Brückenstraße and is now a museum. 
It is dedicated to the life and work of Trier's most famous man.

The house was built in 1727 at Brückenstraße 10 in the typical Trier Baroque style.
The Jewish Marx family moved into the house to rent in April 1818. 
On a total of three floors, it provides information about the life and work of Karl Marx. 

 Karl Marx House เป็นพิพิธภัณฑ์ชีวประวัติและบ้านของคาร์ล มาร์กซ์ บิดาแห่งลัทธิมาร์กซ์(สังคมนิยม) ด้านในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต งานเขียนและลัทธิของคาร์ล มาร์กซ์ 

Karl Marx was born here on May 5, 1818. He is a economist, philosopher, author and revolutionary.

opening hours : Daily 10 a.m. to 6 p.m. Entrance fee : Adults  5.00 Euro

พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน 10-18 น. ค่าเข้าชมคนละ 5 ยูโร 
พวกเราไม่ได้เข้าชมค่ะเพราะด้านในมีแต่ภาษาเยอรมัน

The permanent exhibition was redesigned in 2018, on the 200th birthday of Karl Marx.

เดินต่อไปตามถนน Karl-Marx-Strasse 

เดินต่อไปอีกประมาณ 800 เมตรเพื่อไปที่แม่น้ำโมเซล 

ระยะทางค่อนข้างไกล มีร่มเงาจากอาคารสองข้างทำให้ไม่ร้อน

ระหว่างเดินมาแทบไม่มีคนเลยค่ะ เมืองเงียบสงบมาก

เดินมาจนสุดถนน Karl-Marx-Strasse ก็มาถึงแม่น้ำโมเซลแล้วค่ะ
ด้านหน้าคือสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ตัวสะพานมีเสา 9 ต้น
และยังเป็นสะพานโรมันที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์  

The Roman Bridge (Römerbrücke)
It is the oldest bridge in Germany, and the oldest Roman bridge north of the Alps.
The nine bridge pillars date from the 2nd century AD.

เดินขึ้นไปชมวิวบนสะพานกันค่ะ ฝั่งนี้คือวิวทางทิศใต้

In Roman times, tossing a coin off of the bridge into the Moselle was an offering of good luck.
 In Roman times, they would often throw a coin into the river as an offering to the goddess Mosella who lived there.

ตรงกลางสะพานมีรูปปั้นพระเยซูตรึงไม้กางเขน

Cross and statue in the middle of the bridge

Statue of St. Nicholas as bishop between the arches of the Roman bridge.

ชะโงกลงไปทางด้านล่างรูปปั้นพระเยซูมีรูปปั้น St. Nicholas หันหน้าออกไปทางทิศใต้

สะพานเก่าแก่อันนี้ได้รับการซ่อมแซมหลายครั้ง ล่าสุดคือตอนหลังสงครามโลก 

The bridge was inscribed on the UNESCO World Heritage List in 1986 because of its historical importance and architecture.

ถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับค่ะ ลงจากสะพานเลี้ยวขวา

Konstantin Säule (Constantin Column)
Octagonal pillar, neo-Gothic tracery (1847), on it a rococo statue of Emperor Constantine (1726).

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Kaiserstrasse

เราจะไปชมโรงอาบน้ำโรมันกันค่ะ เดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตร

Barbarathermen (Barbara Thermal Baths) 

 The Barbarathermen have been part of the UNESCO World Heritage Site of Roman Monuments.
The name of the thermal baths goes back to the parish church of St. Barbara.

 เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 9 -18 น. บริเวณด้านหน้ามีภาพมุมสูงและภาพด้านในของโรงอาบน้ำ

จากรูปภาพด้านล่างจะเห็นว่าโรงอาบน้ำนี้อยู่ใกล้แม่น้ำโมเซล

The complex has been open to visitors again since July 23, 2015 with a newly created footbridge. 
 The footbridge is equipped with information boards.

Floor plan of the thermal baths that visitor can access in yellow line.

โรงอาบน้ำนี้ได้ปิดปรับปรุงตั้งแต่ปี 2000 มีการสร้างทางเดินเหล็กและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2015
ตอนนี้อากาศค่อนข้างร้อนมาก คุณป๋ากับมปขอนั่งพักด้านหน้า แม่ตุ๊กเลยเข้าไปเดินชมด้านในคนเดียว

The Barbarathermen were built in the second half of the 2nd century AD. 

Barbara Baths เป็นโรงอาบน้ำโรมันที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ มีพื้นที่ 42,500 ตรม.

This is the largest thermal baths in the entire Roman Empire - outside of Rome. 
The thermal baths measured 172 m × 240 m (42,500 m²).

ตลอดแนวทางเดินมีป้ายรูปภาพและคำอธิบายละเอียด แม่ตุ๊กเดินชมได้ไม่ทั่วค่ะเพราะแดดร้อนมาก 

โรงอาบน้ำนี้มีหลายห้อง ขนาดแตกต่างกัน กระจายอยู่ทั่วบริเวณ

Many rooms had a sophisticated heating system.

ภาพแสดงการติดตั้งระบบความร้อนในสมัยโรมัน

เดินย้อนกลับทางเดิม ที่นี่เหมาะที่จะเดินชมช่วงเย็นแดดร่มเพราะอยู่กลางแจ้ง

ภาพแสดงตำแหน่งของสถานที่เป็นมรดกโลกในเมืองเทรียร์ (UNESCO World Heritage Site in Trier)

เดินต่อไปทางทิศตะวันออกตามถนน Kaiserstrasse อีกประมาณ 700 เมตร เพื่อไปโรงอาบน้ำอีกอันค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Weberbach

Kaiserthermen (Imperial thermal baths)
โรงอาบน้ำโรมันของจักรพรรดิ ตรงนี้เป็นที่ขายตั๋ว ทางเข้าต้องเดินเข้าไปด้านในอีก 
พวกเราเหนื่อยและหมดแรงเลยไม่ได้เข้าไปชมค่ะ โรงอาบน้ำอยู่กลางแจ้งแดดร้อนมาก

เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 9-18 น. ค่าเข้าคนละ 4 ยูโร

ออกมายืนรอรถบัสเพื่อจะกลับไปที่สถานีรถไฟ 

ดูเวลาเดินรถแล้วต้องรออีกประมาณ 1 ชม. พวกเราเลยเดินกันค่ะ ระยะทางประมาณ 1.5 กม.

ทางเข้าโบสถ์ Bischöfliches Priesterseminar Trier


เดินมาจนสุดถนน Weberbach จะพบจตุรัสอยู่ทางขวามือ

Konstantinplatz จตุรัสคอนสแตนติน 

ทางทิศตะวันออกของจตุรัสคือวิหารคอนสแตนติน
Basilica of Constantine (Konstantinbasilika or The Aula Palatina)
It is a Roman palace basilica and an early Christian structure built between AD 300 and 310 during the reigns of Constantius Chlorus and Constantine the Great.

มหาวิหารในพระราชวังโรมันและมีโครงสร้างแบบคริสต์ยุคแรกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 300 - 310 
ในรัชสมัยของ Constantius Chlorus และ Constantine the Great

It was designated as a UNESCO World Heritage Site in 1986.

ตรงข้ามจตุรัสเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่

Red Tower (Roter Turm) is a building and part of the Electoral Palace.

เดินเลี้ยวขวาไปทางทิศเหนือของวิหาร


 บริเวณนี้เป็นด้านหลังของพระราชวัง Electoral Palace 

Roter Turm and St.-Petersburg-Portal

วิหารนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง Electoral Palace

The Electoral Palace (Kurfürstliches Palais) was the residence of the Archbishops and Electors of Trier from the 16th century until the late 18th century. It now houses various offices of the federal government and often hosts classical music concerts.

Wasseruhrbrunnen
The water clock fountain was handed over to the citizens of Trier on September 29, 1986 in a ceremonial act.  


Statue of a Family

เดินตามแมพไปเรื่อยๆ มองเห็นสถานีรถไฟอยู่ข้างหน้าแล้วค่ะ

เวลา 13:00 น. ทานอาหารกลางวันที่ร้านด้านหน้าสถานีรถไฟ มีร้านอาหารเปิดอยู่ร้านเดียว
Dayi Kebap Haus เป็นร้านอาหารตุรกี ดูรูปหน้ารร้านแล้วมีเมนูหลากหลาย มปอยากกินพิซซ่า

เมนูเป็นภาษาเยอรมันหมดเลย ต้องให้มปเป็นคนสั่งอาหารค่ะ มีพิซซ่า สเต็ก สลัด

พิซซ่าอร่อยมากๆทานกันจนหมดเรียบเลย (หิวมากด้วยค่ะ)

ทานอาหารเสร็จก็เดินกลับมาสถานีรถไฟ

เวลา 13:30 น.ออกเดินทางไปเที่ยวเมืองต่อไปค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น