TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2566/04/26

Srinagar and Tulip Garden (เมืองศรีนาคา พักบ้านเรือ ชมสวนทิวลิปใหญ่ที่สุดในเอเชีย)

 วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2566

เวลา 6:00 น.ตื่นเช้ามาชมวิวทะเลสาบดาล เริ่มมีแสงอาทิตย์ส่องมาจากหลังเขา

บ้านเรือ (House Boat) ส่วนมากจะอยู่ทางตอนใต้ของทะเลสาบ

ดาลเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในแคชเมียร์ มีเกาะกลางทะเลสาบที่ชาวบ้านใช้ปลูกพืชผัก ผลไม้

ด้านหน้าคือริมฝั่งทะเลสาบที่ติดกับ Boulevard Rd. มีท่าเรือข้ามฟาก

พ่อค้าพายเรือมาขายของตั้งแต่เช้าเลยค่ะ

 The wetland is divided by causeways into four basins; Gagribal, Lokut Dal, Bod Dal and Nagin 
(Nagin is considered as an independent lake). Lokut-dal and Bod-dal each have an island in the center, known as Rup Lank (Char Chinari) and Sona Lank.

เวลา 6:30 น.ทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของบ้านเรือ เป็นบุฟเฟ่ต์ มีแตงโม น้ำมะม่วงอร่อยมาก

บ้านเรือแต่ละหลังจะมีพ่อบ้าน 1 คนคอยดูแลผู้เข้าพักทุกคน ต้องการอะไรก็บอกพ่อบ้าน

วันนี้ทานอาหารเช้าเร็วนิดเพราะเรามีโปรแกรมท่องเที่ยวหลายแห่ง

Srinagar Panoramic view

เวลา 7:00 น.เช้านี้เราจะไปล่องเรือชิคาร่าในทะเลสาบดาลค่ะ

ท่าเรือด้านหน้าบ้านพักอยู่ไม่ไกลจากฝั่งตรงข้าม มีเรือพายข้ามฟากตลอดทั้งวัน

ชิคาร่าเป็นเรือพายโบราณทำจากไม้ตกแต่งสีสดใส เอกลักษณ์คือมีใบพายเป็นรูปหัวใจ 

ลงเรือเรียบร้อยก็ออกเดินทางเลยค่ะ ตอนเช้าแดดอ่อนๆอากาศเย็นสบาย

Shikara ride cost for 1 hour 700 INR

ชิคาร่าเป็นพาหนะสำหรับทำมาหากินของชาวแคชเมียร์ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ

The shikara is a type of wooden boat found on Dal Lake and other water bodies of Srinagar in J&K.
It is a cultural symbol of Kashmir.

กิจกรรมที่นิยมคือการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบดาล

Dal Lake is a misnomer as Dal in Kashmiri means lake.

Shikaras are of various sizes and are used for multiple purposes, including transportation.

เรือ 1 ลำส่วนมากนั่งได้ 2-4 คน

A usual shikara seats 2-4 people, with the driver paddling at the rear.

Dal lake covers an area of 18 square kilometres.

  ทะเลสาบดาลมีเนื้อที่ประมาณ 18 ตารางกิโลเมตร

ชิคาร่าเป็นพาหนะหลักสำหรับผู้ที่พักในทะเลสาบดาล

The urban lake, is integral to tourism and recreation in Kashmir.

ทะเลสาบดาลได้รับการขนานนามว่า"เพชรยอดมงกุฏของแคชเมียร์" หรือ "อัญมณีแห่งศรีนาคา"

It is named the "Jewel in the crown of Kashmir" or "Srinagar’s Jewel".

The houseboats in Srinagar emerged in the 19th century when the Europeans were intrigued by the beauty of Kashmir and showed interest in buying land in the valley to settle down.
 But there was a barrier to their request as it is restricted to purchase a land by an outsider in Kashmir which prevails till date.

บ้านเรือเกิดขึ้นในยุค"ควีนส์วิคตอเรีย" ซึ่งอังกฤษได้เข้ามาครอบครองอินเดียโดยรุกจากพื้นที่ส่วนใต้ขึ้นไปจนถึงแคว้นจัมมูแคชเมียร์ที่ติดกับเทือกเขาหิมาลัย ความสวยงามของธรรมชาติจึงเป็นที่หมายตา
 แต่มหาราชาโมกุล ได้ตั้งกฎเข้มว่า
"แม้อังกฤษจะมีอำนาจเหนืออย่างไรก็ไม่อาจให้ใช้สิทธิถือครองที่ดินผืนนี้ได้"

The Europeans came up with an ingenious idea to build a boat like houses on the water bodies in Kashmir. This was a mid-way discovered by them to abide by the laws made by the state and this innovative idea gave birth to the houseboats in the valley of Kashmir.

นักล่าอาณานิคมจึงเลี่ยงโดยนำไม้สนซีดาร์ สร้างเป็นเรือ มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมตามแบบของอังกฤษ แกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เหมือนอยู่ในคฤหาสน์หรูๆ 
เกิดเป็นบ้านลอยน้ำ(House Boats) เรียงรายริมทะเลสาบหลายพันลำ กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่

When the Europeans left the boundaries of India after Independence, these beautifully built houseboats were still standing on the Dal Lake. After much thought, the owners decided to convert the houseboats into luxurious hotels settled on the water. 

หลังอินเดียถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราช บ้านเรือเหล่านี้จึงตกเป็นของรัฐ ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา คงเหลือประมาณ 800 ลำ ต่อมาได้ตกเป็นของเอกชน  จึงปรับเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว 
และกลายเป็นสถานที่นิยมจนถึงปัจจุบัน

The houseboats were a great attraction for the tourists as it gave a beautiful sight of the snow clad mountains and the pristine lake. The growing demand for houseboats emerged as a great income source for their owners.

 Some shikaras are still used for fishing, harvesting aquatic vegetation and transport, while most are covered with tarpaulins and are used by tourists. Some are used as floating homes.

ชิคาร่านอกจากใช้เพื่อการท่องเที่ยวแล้ว บางลำก็ใช้ในการประกอบอาชีพหาปลา,ขนผักหรือเป็นบ้านพัก

คนพายเรือพาเข้ามาถึงส่วนที่เป็นตลาดกลางน้ำ

มีร้านขายของเหมือนบนบกเลยค่ะ


พวกเรามาแต่เช้าร้านส่วนมากยังไม่เปิด

บริเวณนี้เป็นย่านที่พักอาศัยของชาวบ้าน

ร้านขายสินค้าพื้นเมือง

The lake is also an important source for commercial operations in fishing and water plant harvesting.

ด้านหน้าคือพื้นที่ชุ่มน้ำมีเนื้อที่ประมาณ 21 ตร.กม. 

Part of a natural wetland which covers 21.1 square kilometres, including its floating gardens. .

The floating gardens constitute an area of 7.5 sq.km. within the lake. 
 They are typically 40 to 50 yards long. The raft-like gardens float, rising and falling with the lake. 

พื้นที่บริเวณนี้เป็นสวนสำหรับปลูกพืชผักในทะเลสาบ เรียกว่า "สวนผักลอยน้ำ"

The floating gardens known locally as "raad'.



ระหว่างนั่งเรือชมวิวก็จะมีพ่อค้าพายเรือมาขายของกันหลายลำเลยค่ะ แต่ละคนพยายามขายของมาก


ร้านขายผ้าพันคอ เสื้อผ้า ของที่ระลึก งานเปเปอร์มาเช่และงานหัตถกรรม


คนพายเรือพาแวะซื้อของที่ระลึก

เรือชิคาร่านำเที่ยวแต่ละลำตกแต่งสวยสีสันสดใส

 During the winter season, the temperature sometimes reaches −11 °C, freezing the lake.

ในฤดูหนาวช่วงที่อากาศหนาวจัด จะมีกิจกรรมการเล่นสกีบนพื้นผิวของทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง 
ในฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่ดาลเลค มีความสวยงามมากที่สุดในรอบปี 

ซื้อของเสร็จก็พายเรือกลับทางเดิมค่ะ ใช้เวลาในการล่องเรือไปกลับประมาณ 1 ชม.

The shore line of the lake, is about 15.5 kilometres , is encompassed by a boulevard lined with Mughal era gardens, parks, houseboats and hotels.

ขึ้นจากเรือที่ท่าน้ำริมถนน Boulevard

Shikara Pier

ท่าน้ำนี้มีชิคาร่าจอดรอนักท่องเที่ยวหลายลำ ใครอยากเหมาไปไหนก็ต่อรองราคากันเอง

บ้านเรือส่วนมากจะมีชิคาร่ารับส่งลูกค้าฟรีโดยเราต้องให้ทิปคนพายด้วยค่ะ

เวลา 8:30 น. ออกเดินทางไปสวนทิวลิปโดยใช้เส้นทางเลียบริมทะเลสาบ ระยะทางประมาณ 4 กม.

ทะเลสาบดาลทางตอนเหนือจะเงียบสงบ

ทางเข้าสวนทิวลิปอยู่ทางขวามือ

ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึงแล้วค่ะ คนขับรถจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านนอก

Welcome to Tulip Garden

พวกเรามาถึงตอนเช้าก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวแล้วค่ะ

สองข้างทางมีรถเข็นขายของและขายอาหารเต็มไปหมด

เดินขึ้นเนินไปยัง Main Gate ระยะทาง 400 เมตร

ค่าเข้าชมสวนคนละ 50 รูปี ตรวจตั๋วแล้วเดินผ่านประตูหลักเข้ามาด้านในก็จะพบกันสวนทิวลิปเลยค่ะ

Opening hours: The garden open from 7:00am to 7:30pm 7 days a week. 
Entry Fee : Adult 50 INR , Child 25 Per INR.

Site Plan of Tulip Garden

สวนทิวลิปอนุสรณ์สถานอินทิราคานธี

Indira Gandhi Memorial Tulip Garden

 The Tulip Garden In Srinagar is named after former prime minister of India Indira Gandhi.

สวนทิวลิปแห่งนี้ตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของอินเดีย "อินทิรา คานธี"

The garden was opened in 2007 with the aim to boost floriculture and tourism in Kashmir Valley. 

เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2007 

โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มการปลูกดอกไม้และเพื่อการท่องเที่ยวในหุบเขาแคชเมียร์

It is the largest tulip garden in Asia spread over an area of about 30 hectares.

เป็นสวนทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีพื้นที่ 30 เฮกตาร์ (187 ไร่)


พวกเรามาถึงสวนแต่เช้า แดดยังไม่ร้อนดอกไม้บานสดชื่น

ดอกทิวลิปจะออกดอกบานเต็มที่ในช่วงเดือนเมษายน ทำให้หุบเขาแคชเมียร์กลายเป็นทุ่งดอกไม้ 


The garden is situated on the foothills of Zabarwan Range with an overview of Dal Lake.

สวนทิวลิปตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Zabarwan ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย


ช่วงเช้าคนยังไม่มาก เดินชมสวนสบายค่ะ มีรั้วกั้นป้องกันคนเข้าไปเดินในแปลงดอกไม้


บริเวณนี้เหมือนเป็นแปลงเพาะพันธุ์ มีดอกไม้อยู่ในกระถางหลากหลายชนิด


Earlier known as Siraj Bagh or Model Folriculture Center.


ได้ชมดอกไม้แบบใกล้ชิดเลยค่ะ


The Tulip garden also hosts many other species of flowers. 


สวนทิวลิปนี้เดิมชื่อ Siraj Bagh เป็นศูนย์จำลองการปลูกดอกไม้เมืองหนาว


นอกจากทิวลิปก็ยังมีดอกไม้อื่นๆอีกหลายชนิด


There are 46 varieties of flowers, including hyacinths, daffodils and ranunculus.


ดอกไม้ชนิดอื่นๆประมาณ 46 สายพันธุ์เช่น ไฮอะซินท์ แดฟโฟดิล รานังคูรัส  


We can enjoy water features like high and low-rise fountains along the middle line of the terraced garden and waterfalls.


ตรงกลางสวนมีบ่อน้ำพุยาวขนานไปกับแปลงดอกไม้


Proposed Water Channel



ด้านหน้ามีน้ำพุทรงกลม



About 1.5 million tulip bulbs were brought Keukenhof tulip gardens of Netherland.


The tulip garden is home to around 68 varieties of tulips with multiple colors.


Tulip festival is an annual celebration that aims to showcase the range of flowers in the garden as a part of tourism efforts by the Government of Jammu and Kashmir.

ทิวลิปประมาณ 1.5 ล้านหัว นำเข้ามาจากสวนทิวลิปเคอเคนฮอฟประเทศเนเธอร์แลนด์


ในสวนนี้มีดอกทิวลิปหลากหลายสีประมาณ 68 สายพันธุ์ 


เดินขึ้นมาบนเนินกลางสวน


 The garden is built on a sloping ground in a terraced fashion consisting of seven terraces.

สวนทิวลิปนี้มีการจัดแยกเป็นเจ็ดระเบียง

ต้นทิวลิปเรียงเป็นแนวยาวขนานกัน

 สวนนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ลาดเอียงทำให้มองเห็นสวนทั้งหมดได้จากทุกทิศรอบตัว

This seven terraced garden will be having a water channel and more green areas.


 พื้นที่มีความลาดเอียงเพราะตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Zabarwan ที่มีระดับความสูง 5,600 ฟุต 


ภูมิประเทศในหุบเขาทำให้สวนทิวลิปนี้สวยแตกต่างจากที่อื่น


The garden has many sections and each section is designed by gardeners to make it unique. 



Every section has different varieties of Tulips like strong gold, margaritas, candela, kung fu, early harvest, ile de france, etc.


ด้านข้างแปลงทิวลิปมีต้นแมกโนเลียนับร้อยต้นกำลังออกดอกบานเต็มที่

Tulip magnolias usually bloom in the summer in cold climates, or in spring in warm climates, producing a flush of pink, white, or purple blooms, depending on the cultivar.

ดอกแมกโนเลียรูปทรงเหมือนดอกทิวลิปสีชมพู

Tulip magnolia trees are beautiful flowering trees that are native to east and southeast Asia.


ด้านข้างคือต้นหลิวขนาดใหญ่ที่อยู่คูกับสวนทิวลิปนี้มานาน



The Big Willow

Tulip Garden opened for public from 23rd march in this year.

ปีนี้สวนทิวลิปเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2023

The best time to visit Tulip Garden and see the tulips in full bloom is from 1st to 3rd week of April. 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาชมดอกทิวลิปบานเต็มที่คือ สัปดาห์ที่ 1-3 ของเดือนเมษายน


The average life of a tulip flower is 20 days and can stretch up to 25 with the overall bloom getting extended by adding late-blooming varieties of tulips.   


ดอกทิวลิปบานเต็มที่ประมาณ 20-25 วัน ก่อนจะร่วงโรย


ทิวลิปสีดำสวยแปลกตามาก

Black Tulips



If the climate remains cool below 20 degree centigrade the festival is extended accordingly.

บางปีที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ดอกทิวลิปจะบานได้นานขึ้น

ปีนี้เรามาชมในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือน ดอกทิวลิปยังบานสดใสมาก

ภาพต้นหลิวท่ามกลางสวนทิวลิปดูเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ



Tulips are considered most delicate and sensitive flowers and can grow in a perticular climatic conditions. 

บ่อน้ำพุใหญ่ตั้งอยู่บนเนินสูงกลางสวนทิวลิป

The central fountain channel has been extended to the upper terraces.


Wisteria

พอเริ่มสายก็มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นส่วนมากเป็นชาวอินเดีย 


สวนแต่ละแปลงจะมีทิวลิป 16-18 แถวปลูกสลับสีสวย

The garden is divided into 36 plots with 16-18 beds in each. 


พอสายแดดก็เริ่มร้อนแต่ดอกไม้ยังไม่เหี่ยวค่ะ

Kashmir’s connection with tulips traces its origin back to hundreds of years when the flowers were grown on muddy rooftops of houses.People started planting them in kitchen gardens and flower beds. 

ที่ดินแดนแคชเมียร์มีการปลูกทิวลิปมานานนับร้อยปีแล้ว โดยปลูกกันในบ้าน ระเบียง ดาดฟ้า

In 2005-06,the state government led by Ghulam Nabi Azad decided to convert Siraj Bagh into a regal tulip garden, keeping up with Kashmir’s historical ties with the flower variety.

ในปี 2005 ทางรัฐบาลก็เริ่มมีนโยบายทำสวนทิวลิปเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

Many ornamental and stone fruits also decorate the garden like tulip tree, plum, ornamental peach, Himalayan cherry, Japanese spindle and Junifer. 

บริเวณรอบๆสวนทิวลิปก็มีต้นไม้และดอกไม้อีกหลายชนิด

Tulip Trees

บริเวณทางออกสวนก็มีดอกไม้ยาวตลอดแนว


เวลา 10:00 น.เดินชมและถ่ายรูปจนทั่วทั้งสวนเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางต่อค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น