วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565
เวลา 14:30 น.นั่งรถไฟใต้ดิน Chuo line มาลงที่สถานี Tanimachiyonchome Station มีป้ายบอกทางออก 9 ไปปราสาทโอซาก้า
ออกจากสถานีแล้วเดินต่อไปทางทิศตะวันออกอีกประมาณ 800 เมตร
Naniwanomiyaato Park
ดูจากแผนที่แล้วปราสาทโอซาก้าอยู่ไม่ไกลค่ะ
Osaka Museum of History and Hoenzaka iseki
อาคารสูงสีน้ำตาลทรงทันสมัยนี้คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า (osaka amazing pass Free admission applies only to the regular exhibit) ส่วนทางขวามือคืออาคารไม้โบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 5
The reconstruction of a 5th century Hoenzaka warehouse. The remains of sixteen of these thatch-roofed warehouses were discovered by archaeologists in this area.
The entrance of the museum is in the atrium that connects to the NHK Osaka Broadcasting Building.
สถานีโทรทัศน์ NHK อยู่ด้านข้างพิพิธภัณฑ์ ตรงกลางเป็นโดมทางเข้าพิพิธภัณฑ์
Osaka Museum of History is a wonderful facility that provides an in-depth look at local history in a most entertaining and memorable way. The museum which opened in 2003 stands in a tall modernist building across from Osaka Castle and is directly connected to the NHK Broadcast Center.
เดินขึ้นเหนือไปอีก 200 เมตร
มาถึงทางเข้าเขตปราสาทโอซาก้าแล้วค่ะ
รอบปราสาทมีกำแพงและน้ำล้อมรอบ มีสะพานหลายอัน
ประตูที่อยู่ใกล้ที่สุด
Otemon Gate at the park's southwestern corner.
สะพานยาวประมาณ 50 เมตร ด้านข้างมีที่นั่งพัก ด้านหลังคือกำแพงและคูเมืองชั้นนอก
Stone Wall and Canal around the Castle : Outer moat of Osaka castle
ประตูชั้นแรก
เข้าไปด้านในกันค่ะ
ด้านในมีกำแพงและประตูอีกชั้น
Tamon-yagura
Huge stones at Ote-guchi-masugata Square
Osaka Castle Gozabune Boat
บริการล่องเรือในคูเมืองชั้นในรอบปราสาท คนละ 1500 เยน
Nishinomaru Garden
ทางเข้าสวนนิชิโมมารุอยู่ทางซ้ายมือ ด้านในมีต้นซากุระกว่า 600 ต้น เป็นจุดชมวิวซากุระขึ้นชื่อของที่นี่
พวกเราจะไปชมปราสาทจึงเดินแยกไปทางขวา
เดินต่อไปอีกประมาณ 150 เมตรจะพบกับทางเข้าศาลเจ้าโฮโกกุอยู่ขวามือ
ด้านในมีรูปปั้น Toyotomi Hideyoshi
ตรงข้ามศาลเจ้าคือประตูทางเข้าปราสาทโอซาก้า มองเห็นปราสาทโดดเด่น
Sakuramon Gate
Sakura-mon of Osaka Castle is the official gate.
This gate was built in 1626 by Tokugawa Hidetada, the second shogun, and was largely repaired in 1868. Only Daimyo feudal lords were permitted to use this official gate in those years.
ประตูซากุระมอนเป็นประตูหลักที่จะเข้าสู่ปราสาทโอซาก้าอยู่ทางทิศใต้ สร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1626
Huge Stones at Sakuramon-masugata Square (Takoishi)
It is 20 meters wide, 5.5 meters high and 130 tons in weight. This is the largest stone of this huge castle. Two stones both sides of the gate are the tenth and eleventh largest ones of this castle.
Well Curb of the Gimmeisui Well
It is one of the five wells built in the Honmaru of Osaka Castle, which was rebuilt by the Tokugawa Shogun.
บ่อน้ำโบราณอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่ใกล้ประตูทางเข้า
Miraiza Osaka-Jo
อาคารสวยงามทางขวามือ ด้านในเป็นร้านอาหารและร้านขายของเหมือนเป็นห้างสรรพสินค้า
ปราสาทโอซาก้าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโอซาก้า สวนรอบๆปราสาทเข้าชมฟรีค่ะ
Osaka Castle is one of the most famous and historic castles in all of Japan. The iconic symbol of Osaka played an important role in the unification of Japan during the samurai era of the sixteenth century.
The main tower of Osaka Castle is situated on a plot of land one square kilometre.
It is built on two raised platforms of landfill supported by sheer walls of cut rock, each overlooking a moat. The central castle building is five stories on the outside and eight stories on the inside, and built atop a tall stone foundation to protect its occupants from attackers.
ตัวปราสาทสูง 55 เมตร มองจากภายนอกมี 5 ชั้น แต่ด้านในแบ่งเป็น 8 ชั้น
ล้อมรอบด้วยคูเมืองและกำแพงหินสูงประมาณ 30 เมตร
Main Tower of Osaka Castle
ด้านในปราสาทเป็นพิพิธภัณฑ์ เปิดทุกวัน 9:00-17:00 น. การเข้าชมต้องซื้อตั๋วคนละ 600 เยน
บัตร Osaka Amazing Pass เข้าชมฟรีค่ะ
The Osaka Castle Museum is open daily from 9 a.m. to 5 p.m.
Admission is 600 yen for adults, and free to youths aged 15 and under.
แสดงพาสให้ จนท.ดู แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปได้เลยค่ะ
Kimmeisui Well Roof
A Signal Gun (Noon Marker)
ขึ้นมาถึงทางเข้าปราสาทที่อยู่ชั้น 1F แล้วค่ะ
เดินเข้าไปขึ้นลิฟต์ที่ชั้น 1F เพื่อไปที่ชั้น 5F ค่ะ
ลิฟต์จะมาหยุดที่ชั้น 5F โดยไม่แวะชั้นอื่นเลย ดูจากโบชัวร์ชั้นนี้จัดแสดงฉากจำลองสงคราม
เป็นการสู้รบที่ดำเนินการโดยโชกุนโทคุกาวะ ของญี่ปุ่น ต่อกลุ่มโทโยโทมิและจบลงด้วยการทำลายล้างของกลุ่มนั้น ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1614 ถึง 1615 การปิดล้อมได้ยุติการต่อต้านด้วยอาวุธครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายในการก่อตั้งรัฐบาลโชกุน
The intense battle between the troops of Yukimura Sanada and Todano Matsudaira is shown by means of miniature figures.
แผนที่แสดงสถานที่ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามนี้ที่ยังเหลืออยู่
The siege of Osaka was a series of battles undertaken by the Japanese Tokugawa shogunate against the Toyotomi clan, and ending in that clan's destruction. Divided into two stages (winter campaign and summer campaign), and lasting from 1614 to 1615, the siege put an end to the last major armed opposition to the shogunate's establishment.
Osaka Castle History at a Glance
The 6th floor is closed to visitors.
เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 7 ค่ะ (ชั้น 6 ปิด)
ชั้นนี้จัดแสดงประวัติของ ฮิเดโยชิ โทโยมิ ผู้ก่อตั้งปราสาทโอซาก้า
Presentation of the life of Hideyoshi,who built Osaka Castle and succeeded in unifying the entire nation.
เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดค่ะ
Osaka Castle Observation Deck
It provides a unique perspective since there is no glass barrier between visitors and the views of the city. There is some wire netting installed for safety..
North View
เดินออกมาจะพบกับวิวทางทิศเหนือ เป็นบริเวณด้านหลังปราสาท
ตรงรั้วกั้นมีรูปภาพพร้อมชื่อสถานที่สำคัญ
คูเมืองรอบปราสาท
เดินวนซ้ายเพื่อชมวิว
มองเห็นเรือชมวิวล่องอยู่ในคูเมืองชั้นใน
West View
Osaka City Hall,Umeda Sky Building,Osaka Station,HEP FIVE
Nishinomaru Garden
มองเห็น Otemon Gate อยู่ตรงกลางภาพ
South View
วิวทางทิศใต้คือบริเวณด้านหน้าปราสาท มีสถานที่สำคัญระบุในรูปหลายอัน
อาคารหลังคาสีเขียวด้านหน้าปราสาทคือ Osaka Shudogan (Martial Arts Training Hall)
อากาศด้านบนโล่งเย็นสบาย
วันนี้ท้องฟ้ามีเมฆนิดแต่สามารถมองเห็นทุกสถานที่ที่ระบุตามป้ายเลยค่ะ
Mt.katsuragi and Mt.Kongo
เทือกเขาเป็นแนวยาวอยู่ทางทิศใต้
East View
Mt.Ikoma,Mt.Shigi,Mt.Nijo
Crystal Tower,Twin 21 Building,Osaka-Jo Hall
ถ่ายรูปและชมวิวจนครบทั้งสี่ด้านก็เดินลงบันไดไปชั้นล่างค่ะ (ลิฟต์ให้ใช้เฉพาะขาขึ้น)
ชั้น 3F และ 4F เข้าไปชมได้แต่ห้ามถ่ายรูปค่ะ
ชั้น 2F มีบริการให้เช่าหมวกและชุดของนักรบซามูไรเพื่อถ่ายรูป คนละ 500 เยน
The main floor is the gift shop.
เดินลงมาถึงชั้น 1F ที่เป็นทางเข้าตอนแรก ชั้นนี้เป็นร้านขายของที่ระลึก
เดินออกทางเดิม
ช่วงนี้ใบไม้เริ่มร่วงแล้วค่ะ
เก็บรูปปราสาทก่อนกลับค่ะ
Osaka Castle in Autumn
Time Capsule Expo'70
Two time capsules were buried adjacent to Osaka Castle. The lower capsule was buried about 5 meters deeper. This will not be opened until the year 6970--5,000 years. The upper capsule will be opened for the first time in the year 2,000 and every 100 years thereafter.
The cylindrical container measuring 1.3 meters high and 1.0 meter in diameter was buried 9 meters under the ground near Osaka Castle in January 1971. The 2,098 items placed in the capsule were chosen to show how people lived at the time of EXPO 70.
เมื่อปี ค.ศ.1970 มีการจัดงาน Expo'70 ขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชียที่เมืองโอซาก้า
หลังจากงานจบได้มีการฝัง Time Capsule ที่มีขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 1.3 เมตร จำนวนสองลูกไว้ด้านหน้าปราสาท ด้านในใส่ของไว้ 2098 ชิ้น โดยลูกด้านบนจะถูกขุดขึ้นมาทุก 100 ปี ส่วนลูกข้างล่างจะขุดขึ้นมาในอีก 5000 ปี
เดินย้อนกลับทางเดิม คนเริ่มน้อยลงเพราะใกล้เวลาปิดแล้วค่ะ
Inner Moat outside Sakuramon Gate
เดินออกทางเดิมที่ประตู Otemon Gate
เดินลงใต้ไปตามถนนข้างคูเมืองด้านนอกปราสาทเพื่อไปถ่ายรูปที่สวน Rojin no Mori
The Kyoikuto (Education Tower) is a memorial tower located in Osaka Castle Park.
It serves as a memorial for the victims of Muroto typhoon in 1934.
หอคอยตั้งอยู่ในสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า
สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของพายุไต้ฝุ่นมูโรโตะในปี ค.ศ.1934
ในสวนนี้มีใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก
สวนอื่นใบไม้ร่วงไปเกือบหมดแล้ว พวกเราเลยขอเก็บภาพที่นี่เยอะหน่อยค่ะ
มีคนแวะมาถ่ายภาพกันหลายคน
อาทิตย์หน้าใบไม้คงจะร่วงกันหมดแล้วเพราะอากาศหนาวเย็นมากขึ้น
ถ่ายรูปกันพักใหญ่ก็ได้เวลาเดินทางต่อแล้วค่ะ
เดินกลับทางเดิมเพื่อไป Tanimachiyonchome Station ผ่านสวน Naniwanomiyaato Park
เวลา 17:00 น.นั่งรถไฟใต้ดินมาถึง Dotombori ใช้ทางออก 14
บรรยากาศยามเย็นเริ่มคึกคัก ร้านอาหารเปิดกันหมดแล้ว
มีไฟประดับบนต้นไม้
ป้ายไฟเปิดกันหลายอันยกเว้นป้ายหนุ่มกูลิโกะ
เดินไปท่าเรือชมวิวล่องคลองโดทงโบริ Tazaemonbashi Pier
ท่าเรืออยู่ตรงหน้าร้านดองกี้
ใช้บัตร Osaka Amazing Pass ล่องเรือฟรี โดยต้องไปแลกตั๋วที่เค้าท์เตอร์หน้าท่าเรือก่อนค่ะ
แล้วเค้าจะให้ตั๋วล่องเรือมาคนละใบ (ถ้าซื้อราคาคนละ 1200 เยน)
Boarding fee : Adult 1,200 yen, Student 800 yen, Child ( school student) 400 yen
โบชัวร์รายละเอียดและแผนที่ในการล่องเรือ
From 11:00 to 21:00 Departs at 00 and 30 minutes every hour.
Cruise Route
Tazaemonbashi Pier⇒ (turn back at Nihonbashi) ⇒ (turn back in front of Minatomachi River Place) ⇒ Tazaemonbashi Pier
พอได้ตั๋วแล้วก็รีบลงเรือเลยค่ะ ได้เวลาเรือออกพอดีไม่ต้องรอ
ทั้งลำมีผู้โดยสารประมาณ 30 คน ไกด์ 1 คน เลือกที่นั่งได้ตามสบาย ที่นั่งเป็นม้ายาวไม่มีพนักพิง
This is a 20-minute Dotonbori mini-cruise delivered by the Naniwa Community Tourism Consortium.
With the guidance of the Osaka guide crew, we can enjoy the "view from the river" of Osaka Minami and Dotonbori.
ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 20 นาที
โดยล่องไปทางทิศตะวันออกแล้วไปกลับเรือเพื่อล่องไปทางทิศตะวันตกต่อ
①Nihonbashi (Nipponbashi)
A bridge that crosses a river on Sakaisuji. Kuromon Market and Denden Town are located on the southeastern side.
กลับเรือที่ใต้สะพาน Nippon-bashi Bridge
ล่องเรือต่อไปทางทิศตะวันตก
ชมวิวสองฝั่งคลองพร้อมคำบรรยายจากไกด์เป็นภาษาญี่ปุ่น (ฟังไม่ออกเลยค่ะ55)
(2) Aioibashi
Locally known as "Aioibashi", various events are held on the bridge.
③ Tazaemon Bridge
There is a takoyaki shop with long lines, and the bridge is always crowded with people.
Tazaemonbashi Pier
The boarding reception is next to the river entrance (east side) of "Don Quijote Dotonbori Store"
on the north bank of the promenade.
ตอนนั่งเรือจะผ่านทั้งหมด 9 สะพาน ไกด์ก็จะบรรยายสถานที่สำคัญของทั้งสองฝั่ง
ตรงนี้คือท่าเรือที่เราลง กลุ่มก่อนหน้าจบทริปกำลังขึ้นเรือ ปกติเรือจะออกทุกครึ่งชั่วโมง
The oval yellow Ferris wheel (Don Quijote Dotonbori store) as a landmark.
ขี้นจากเรือก็เดินช็อปปิ้งในห้างดองกี้กันต่อเลยค่ะ
④ Ebisubashi (Ebisu Bridge)
Large-scale replacement work was carried out, and it was reborn as a new symbol.
ป้ายกูลิโกะแมนยังไม่ถึงเวลาเปิดไฟ เรือแล่นลอดใต้สะพานโดทงโบริ
⑤ Dotonbori Bridge
This bridge crosses Osaka's main street, Midosuji, which is lined with beautiful ginkgo trees.
⑥ Shin-Ebisu Bridge
Increasing numbers of people are visiting Minami's new landmark, "Shusse Jizo" located at the southeast corner of Shin-Ebisu Bridge .
⑦ Daikoku Bridge
On the north side of Daikokubashi, the center of youth culture, "Amerikamura" spreads out,
and unique shops are lined up.
Petit Hotel Rose Lips Shinsaibashi
โรงแรมกุหลาบอยู่ตรงเชิงสะพานไดโคคุ
⑧Fukari Bridge
A bridge that crosses the river on Yotsubashisuji.
On the northwest side is the trendsetting town of Horie, an area that attracts a lot of attention
MOULiN Restaurant
Minatomachi river place and Minatomachi Pier
⑨ Ukiniwa Bridge
A pedestrian bridge connecting Horie and Minatomachi. It was built in 2008 with the image of a floating field.
กลับเรือที่ใต้สะพานเพื่อกลับไป Tazaemonbashi Pier
ควรมาล่องเรือช่วงเย็นถึงค่ำเพราะอากาศเย็นสบาย สองข้างคลองมีไฟประดับสวยงาม
กลับมาถึง Ebisu Bridgeแล้วค่ะ
เรือแล่นช้าๆให้ถ่ายรูปกับป้าย
ใช้เวลาในการล่องเรือ 20 นาทีพอดี ขึ้นจากเรือแล้วไปทานอาหารเย็นกันค่ะ
Tombori River Walk
บนสะพานเอบิสุ มีคนหนาแน่นมากต่างกับตอนเช้าเลยค่ะ
Ebisubashisuji Shopping Street
ร้านอาหารเยอะมากๆเป็นแหล่งกินยอดนิยม
เดินหาร้านอาหารกันนานพอสมควร ร้านดังๆก็คิวยาวมากค่ะ
ร้านตุีกตาคนตีกลอง เป็นสัญลักษณ์อีกอันของย่านนี้เลยค่ะ
Kuidaore Taro Statue
มป เลือกร้านนี้ค่ะเป็นร้านดัง โชคดีตอนเรามามีที่ว่างพอดีไม่ต้องยืนรอเลยค่ะ
Daiki-Suisan Kaitenzushi Dotombori
Daiki Suisan เป็นร้านซูชิสายพานมีหลายสาขา ราคาตามสีจานเริ่มต้นที่ 100 เยน-700 เยน
มีที่นั่งว่างสามที่พอดีเป็นมุมส่วนตัวด้วยค่ะ เลือกหยิบซูชิบนสายพานได้เลย
ถ้าต้องการสั่งให้ทำใหม่ตรงด้านหน้ามีรูปและราคาติดไว้ สแกน QR code แล้วสั่งผ่านแอพค่ะ
พวกเราอยากทานซูชิหลายๆแบบเลยสั่งใหม่ รอไม่นาน พนง.ก็มาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะเลยค่ะ
ตรงที่นั่งมีก๊อกน้ำร้อนให้กดฟรี ข้างๆก็มีผงชาเขียวให้ใส่เอง
ซูชิเซ็ตแนะนำคนละเซ็ต แล้วก็หยิบเพิ่มจากสายพานอีกคนละ 4 จาน อิ่มอร่อยในราคา 4300 เยน
เวลา 18:30 น.ทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นกันต่อค่ะ
ป้ายหนุ่มกูลิโกะเปิดไฟแล้ว
เก็บภาพกันอีกครั้ง
Glico Running Man
ข้ามสะพานไปเดินเล่นอีกฝั่งค่ะ
Shinsaibashi-Suji Shopping Street
ออกมาเดินชมไฟที่ถนน Mido-suji ต้นไม้สีเหลืองประดับไฟแล้วสวยมากค่ะ
Midosuji Illumination light up in autumn every year.
Trees along the streets are decorated in bright lights.
เดินเล่นมาจนถึง Orange Street (Horie Tachibana)
ถนนนี้ตั้งอยู่ระหว่างย่าน Namba และ Shinsaibashi มีความยาว 800 เมตร
ที่นี่เป็นย่านสุดฮิปใจกลางเมืองโอซาก้า แต่พวกเรามามืดไปนิดร้านส่วนมากก็ปิดกันแล้วค่ะ
มป ขอเก็บภาพกับป้ายเป็นที่ระลึก
เวลา 20:00 น.เดินไปขึ้นรถไฟกลับที่พักค่ะ
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2565
ตื่นแต่เช้า วันนี้ต้องเดินทางกลับแล้วค่ะ
เก็บของเสร็จก็ลงมาเช็คเอ้าท์ที่ล็อบบี้ ตอนเช้านี้ไม่มีพนักงานเลยค่ะ
ต้องเช็คเอ้าท์กับตู้และคืนกุญแจห้องผ่านตู้เช่นกันสะดวกดี เสร็จแล้วก็ลากกระเป๋าไปขึ้นรถบัสเพื่อไปสนามบิน จุดจอดรถอยู่ด้านข้าง Hilton Hotel ห่างจากที่พักเราประมาณ 300 เมตร
เวลา 7:00 น. ซื้อตั๋วโดยสารผ่านตู้ ค่าตั๋วคนละ 1600 เยน
มีพนักงานมาคอยยกกระเป๋าขึ้นรถ เราต้องเก็บบัตรหมายเลขรับกระเป๋าไว้ด้วย
พอถึงสนามบินจะได้ยื่นให้พนักงานที่ยกกระเป๋าลง ป้องกันกระเป๋าหยิบผิดหรือสูญหาย
Airport Limousine : Bus schedule
เวลา 7:08 น.รถบัสก็ออกเดินทาง พวกเราขึ้นต้นทางเลือกที่นั่งได้ตามสบายค่ะ
นั่งชมเมืองโอซาก้ายามเช้า
ข้ามแม่น้ำไปยังสนามบิน
เวลา 8:00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็เดินทางมาถึงสนามบินเมืองโอซาก้า (KIX) รอรับกระเป๋า
รถบัสจอดตรงประตูทางเข้า Terminal 1 ใกล้เค้าท์เตอร์การบินไทยเลยค่ะ
รีบลากกระเป๋าเข้าไปเช็คอิน พวกเรามาถึงแต่เช้ายังไม่มีคนใช้เวลาไม่นานก็เสร็จค่ะ
เข้าไปผ่าน ตม.แล้วไปนั่งคอยที่เกท เครื่องบินมาจอดรออยู่แล้ว
เดินเล่นซื้อขนมและของที่ระลึกที่ Duty Free
เวลา 11:00 น.ออกเดินทางกลับเมืองไทยด้วยเที่ยวบิน TG 623 ถึงสุวรรณภูมิเวลา 15:45 น.
ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง 45 นาที
Bye-bye Osaka
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น