TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2565/06/13

Istanbul to Çanakkale

 วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565

เวลา 5:20 น. พระอาทิตย์ขึ้นเร็วเพราะเป็นหน้าร้อน ทำให้เราต้องแต่ตื่นเช้าด้วยค่ะ

เวลา 7:30 น. อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม


โรงแรมที่พักเมื่อคืนนี้มีขนาดใหญ่มากแต่ก็อยู่ไกลตัวเมืองมากเช่นกัน

นั่งรถเข้าไปเที่ยวในเมืองค่ะ

เวลา 9:00 น. เดินทางมาถึงเนินเขาชมวิวเมืองอิสตันบูล 

ฝ่ายต้อนรับนอนคอยตรงทางเข้า

เนินเขานี้ตั้งอยู่ในเขต Eyup ทางตอนเหนือของอิสตันบูล หันหน้าไปทางโกลเด้นฮอร์น

Pierre Loti Hill is situated on a hill at the Eyup district, on the southern end of Golden Horn.

ภาพวาดบนกระเบื้องเป็นวิวที่มองมาจากเนินเขา

ขึ้นกระเช้าไปด้านบนกันค่ะ

The cable car costs 4 TL each way. 

Eyüp Cemetery
The cemetery  situated on the western bank of the Golden Horn.
It was very popular with Ottoman people.

สุสานบนเนินเขาเป็นที่ฝังร่างบุคคลสำคัญของออตโตมันหลายท่าน

วิวทางฝั่งขวามือคือ Golden Horn


Eyüp Sultan Mosque Complex

ระยะทางประมาณ 400 เมตร ใช้เวลา 3 นาทีก็มาถึงบนยอดเขาแล้วค่ะ

เดินไปที่จุดชมวิว

The Eyup Teleferik is a two-station aerial passenger system operated by the municipality. The cable car runs between the Eyup cable station at the bottom and the Pierre Loti Café at the top of the hill. 

สวนสาธารณะบนเกาะกลางน้ำ

วิวด้านบนสวยงามมาก

พวกเรามาถึงแต่เช้าเลยไม่มีนักท่องเที่ยวด้านบน

อากาศเย็นสบาย ไม่มีแดด มีหมอกปกคลุมจางๆ

วิวทางฝั่ง Golden Horn Bridge

Golden Horn View


There are  telescopes on the observation deck.
 We can see the panoramic views of the city with that telescope.


มีระเบียงชมวิวหลายมุม

มุมนี้มองเห็นสะพาน Golden Horn อยู่ไม่ไกล

Golden Horn Bridge (The Haliç Bridge) is a road bridge across the Golden Horn also known as the Istanbul Inner Beltway. It was entered service on 10 September 1974. 
 The bridge is 995 m. long and 32 m.wide, and stands 22 m. above sea level.

วิวทางทิศเหนือ

ขึ้นไปชมวิวที่ร้านกาแฟบนเขาค่ะ
The very famous Pierre Loti Hill Cafe.

French novelist and a naval officer Julien Viaud (1850-1923) was sent to Istanbul in 1876 as a soldier.  Young writer's pen-name was Pierre Loti. Story tells he fell in love with one of the concubines (enslaved mistress of a Sultan) and kept a diary about his love.  
He wrote a book Aziyade (1879) after the name of the woman he loved.  
The book is based on a true story of Julien’s relationship with the woman of harem. 

Julien Viaud often visited Istanbul.  He stayed in Eyup, overlooking a natural harbor Golden Horn of Istanbul. The hill was named after the novelist in respect of his loyalty to local elite.

Pierre Loti มาจากนามปากกาของนักเขียนนวนิยายชาวฝรั่งเศสชื่อ Julien Viaud เขามาที่อยู่ที่อิสตันบูลเมื่อปี 1876 และมานั่งเล่นชมวิวที่คาเฟ่บนเขาชมวิวสวยงามจนเกิดแรงบันดาลใจแต่งนิยายรักชื่อ Aziyade
ต่อมาคาเฟ่นี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Pierre Loti Cafe เนินเขานี้ก็เลยถูกเรียกชื่อตามไปด้วย


ปกติจะมีลูกค้ามานั่งริมระเบียงนี้เยอะมาก นั่งชมวิว ทานอาหาร ดื่มกาแฟ

The historical cafe is the most ideal place to watch this mentioned view.

We can have a good rest while drinking Turkish coffee or tea, or enjoy the restaurants 
at its open air Pierre Loti Cafe.

Haliç Congress Center

ศูนย์ประชุมตั้งอยู่ริมน้ำ

The hill is a popular spot for taking great photos with the best views of Istanbul. 
There are seven historic mansions that are now serving as a boutique hotel, a lovely restaurant and cafe.

มัสยิดใหญ่บนเนินเขา

The hill is about 55 meters from sea level.

ด้านล่างคือทางเดินขึ้นลงเขา ผ่านสุสานโบราณ

There is a big graveyard on the slopes of the hill.


ทานไอศกรีมตุรกีคนละถ้วย ด้านบนนี้ไม่มีการตักไอติมแบบลีลาเลยค่ะ

เดินกลับไปที่สถานีเคเบิ้ลคาร์

เวลา 10:00 น.นั่งเคเบิ้ลคาร์ลงเขาค่ะ

We can walk about 800-900 meters uphill by following the Pierre Loti Hill. 


เล่นกับเจ้าเหมียวก่อนออกเดินทางไปเที่ยวในเมืองเก่า

The Aqueduct of Valens
It was a Roman aqueduct system built in the late 4th century AD, to supply Constantinople . Construction of the aqueduct began during the reign of the Roman emperor Constantius II (r. 337–361) and was completed in 373 by the emperor Valens (r. 364–378). The aqueduct remained in use for many centuries. It was extended and maintained by the Byzantines and the Ottomans.

ในเขตเมืองเก่าเราจะเห็นท่อส่งน้ำโรมันตั้งอยู่หลายจุด

The Istanbul Metropolitan

เดินเล่นชมเมืองเก่า ในซอยนี้มีห้องอาบน้ำแบบตุรกีด้วยค่ะ

Turkish Bath

สถานีรถไฟใต้ดิน Vezneciler

ห้าแยกย่านมหาวิทยาลัยอิสตันบูล
Kalenderhane Mosque and Istanbul Univercity


เดินลงใต้ไปตามถนน Büyük Reşitpaşa Cd 

ย่านมหาวิทยาลัยนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก


เดินจนสุดทางก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Ordu Cd.

Istanbul University Rıdvan Çelikel Archeology Museum

พิพิธภัณฑ์โบราณคดี มหาวิทยาลัยอิสตันบูล

เดินต่อไปตามถนนนี้อีก 500 เมตร

T1 Kabataş-Bağcılar Tram Line

รถรางสาย T1  เป็นสายที่ได้รับความนิยมมาก วิ่งจากสถานี Kabataş (พระราชวัง  Dolmabahçe) 
ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง สถานีนี้คือตลาด Grand Bazaar สุดปลายทางที่สถานี Bağcılar 

ตลาด Grand Bazaar 
เป็นตลาดในร่มที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 1461
พวกเราเข้าตลาดทาง Beyacit Gate

Grand Bazaar (Kapalıçarşı) in Istanbul is one of the largest and oldest covered markets in the world.
The bazaar began its life in 1461 and steadily expanded over the centuries of Ottoman rule.

It is covering an area of 30,700 square meters ,consists of a series of covered labyrinthine streets, passageways and corridors featuring 64 streets, 4,000 shops, 21 entrances.

ตลาดแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางเมตร มีทางเข้า 21 ทาง ด้านในเป็นร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน
มีทางเดิน เป็นซอยเล็กๆมากมาย ตามแผนที่ข้างล่าง

Leather (brown),Gold Jewelry (yellow),Silverware (yellow),Antiques (orange-brown),Copperware (İç Bedesten),Carpets (orange-brown),Handbags, Briefcases & Suitcases (pink),(Cheap) Clothing (Sandal Bedesten),Fabric (purple),Belly-dancing costumes (pink),Ceramic & Souvenirs (pink & green)

ร้านค้าที่นี่มีมากกว่าที่ Spice Market ถนนซอกซอยก็มากมาย ถ้าไม่มีแผนที่ต้องหลงทางแน่ๆ

ร้านแลกเงินให้ราคาดีพอสมควร ตอนนี้เราประมาณคร่าวๆว่า 1 TL= 2 บาท

เมื่อวานเราซื้อของมามากแล้ววันนี้เลยเดินเล่น ถ่ายรูป ไม่เน้นซื้อของค่ะ

สินค้าคล้ายที่ Spice Market แต่มีร้านให้เลือกซื้อมากมาย และคนก็หนาแน่นมากกว่าด้วย

เดินออกจากตลาดทางประตู Nuruosmaniye ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออก ติดกับมัสยิด Nuruosmaniye

Nuruosmaniye Gate

Anatolian Capets,Kilims and Sumaks

ริมถนนด้านนอกตลาดมีร้านขายพรม จัดวางโชว์สินค้าหลากหลายแบบ สีสัน ลวดลายสวยงาม


Turkish mosaic lamp (โคมไฟโมเสค)

ขวามือคือประตูทางเข้ามัสยิด Nuruosmaniye Mosque


The Nuruosmaniye Mosque is an 18th century Ottoman mosque located near the entrance of the Grand Bazaar in Istanbul. It is one of the finest examples of an Ottoman Baroque style mosque.
Construction by Mahmud I in 1749.The opening ceremony was in December 1755.
It was named meaning "The light of Osman", after Osman III, but also because of its many windows which lets a lot of light inside the mosque’s hall.

มัสยิดออตโตมันสร้างในศตวรรษที่ 18 (1748-1755) โดมมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของอิสตันบูล
รอบตัวอาคารเป็นหน้าต่างทำให้ด้านในมีแสงสว่างมาก


เดินไปตามถนน Vezirhani cd.


The Gazi Atik Ali Pasha Mosque (Gazi Atik Ali Paşa Camii) is a 15th-century Ottoman mosque.

มัสยิด Gazi Atik Ali Pasha เป็นมัสยิดออตโตมันสมัยศตวรรษที่ 15 
ก่อสร้างในปี 1496 สมัยราชมนตรี Hadım Atik Ali Pasha  และเสร็จปี ค.ศ.1497

The Column of Constantine (Çemberlitaş Sütunu) is a Roman monumental column built for Roman emperor Constantine the Great to commemorate the dedication of Constantinople on 11 May 330 AD. Built c. 328 AD, it is the oldest Constantinian monument in Istanbul and stood in the centre of the Forum of Constantine. 

The Column made of Egyptian porphyry, seen here as purple column drums.


เดินต่อไปตามถนน Peykhane cd. มีร้านขายพรมวางโชว์กันริมถนนเลย

เจ้าเหมียวนอนกันอยู่ทุกมุมเมือง

เดินจนถึง Marmara University จุดหมายของพวกเราคือป้ายอันบน เราจะไปชมมัสยิดกันอีกครั้ง

ในซอยนี้คือชุมชนของชาว Türkistan เป็นบ้านไม้สีสันสดใสเรียงรายกันสิบกว่าหลังเลยค่ะ

ถ้าเดินต่อไปในซอยนี้จะพบกับตลาดและพิพิธภัณฑ์

เดินต่อไปยังจตุรัส Sultanahmet Square

Sultanahmet Park

Hagia Sophia (Ayasofya)
 It was called the Great Church in  first built. The Church began to be called Sophia from the 5th century. After the conquest in 1453, the name of the church was changed to "Hagia Sophia".

มหาวิหารฮาเกีย โซเฟีย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสวน

This park  is an excellent place for picnic and relaxation.
 It provides a spectacular view of Hagia Sophia and the Blue Mosque.

Sultanahmet Park is a park lying between Blue Mosque and Hagia Sophia 
with a large fountain in the middle.

สวนสุลต่านอาเหม็ดตั้งอยู่ระหว่าง Hagia Sophia และ Blue Mosque มีน้ำพุขนาดใหญ่กลางสวน

Hurrem Sultan Hammam
It is one of the most luxury historical Turkish bath in Istanbul. It was built at the request of Hurrem Sultan (Roxelana), the wife of Sultan Suleiman the Magnificent in the 16th century (1556-1557 AD).
 It was built where the ancient public baths of Zeuxippus (100-200 AD) 

ด้านข้างของมหาวิหารคือโรงอาบน้ำสไตล์ตุรกีสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
 สร้างโดยบัญชาจากมเหสีของสุลต่านสุไลมาน ปัจจุบันเปิดให้บริการแก่คนทั่วไปมีหลายราคา

คนนิยมมานั่งเล่นที่สวน มีมุมสวยๆมากมาย

รอบๆสวนมีม้านั่งและรถเข็นขายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม

Hagia Sophia : Pink Mosque
One of the minarets (at southeast) was built from red brick.
 The other three were built from white limestone. 

หมาน้อยนอนหลับสบายมากเลย

มองย้อนไปทางทิศใต้ของสวนคือมัสยิดบลู
The Blue Mosque (Sultan Ahmed Mosque) is an Ottoman-era historical imperial mosque.
 It was constructed between 1609 and 1616 during the rule of Ahmed I.  
 The mosque has five main domes, six minarets and eight secondary domes.
Its Külliye contains Ahmed's tomb, a madrasah and a hospice. 

มัสยิดบลูสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน ในปี ค.ศ. 1609-1616
ตัวอาคารมีโดมหลัก 5 หลัง  โดมย่อย 8 หลัง หอมินาเร็ต 6 หอ

The Blue Mosque was included in the UNESCO World Heritage Site list in 1985 under the name of "Historic Areas of Istanbul".

ภายในมัสยิดมีสุสานของสุลต่านอาเหม็ด โรงเรียนสอนศาสนา โรงพยาบาล โรงครัว

It is known as the Blue Mosque because of blue tiles surrounding the walls of interior design.
At night the mosque is bathed in blue as lights frame.

ถ่ายรูปเสร็จก็เดินย้อนกลับไปที่จตุรัสสุลต่านอาเหม็ด เลี้ยวซ้ายตรง Sultan Ahmet Tomb

ด้านหลังสุสานเป็นร้านขายของที่ระลึกยาวตลอดแนว มีร้านขายไอศกรีมตุรกีด้วย ต้องลองทานอีกครั้งค่ะ

Dondurma ( Maraş ice cream)

ทานไอศกรีมเสร็จก็กลับมาที่ Blue Mosque อีกครั้ง เราจะเข้าไปชมด้านในมัสยิดกันค่ะ
ประตูทางเข้าอยู่ทางขวามือ เข้าชมฟรี

ประวัติของมัสยิด

ข้อปฏิบัติในการเข้าชม ผู้ชายต้องสวมกางเกงขายาว ผู้หญิงต้องสวมผ้าคลุมศรีษะ
ตอนนี้เวลา 12:30 น.พวกเรามาไม่ทันเวลาเปิดให้ชมเพราะเป็นช่วงเวลาละหมาดค่ะ

มีคนบอกว่าด้านในมีการซ่อมแซมทำให้บดบังความสวยงามพอสมควร เราเลยดูรูปจากเวปของมัสยิด

There are the more than 20,000 handmade Iznik ceramic tiles, in more than 50 tulip designs,
 that decorate the interior walls of the mosque.
 Their color gives the place its popular name the "Blue Mosque". 
Light inside the mosque is provided by the more than 200 stained glass windows and several chandeliers. The floors are covered with carpets.

ภายในมัสยิดตกแต่งสวยงามหรูหรา ผนังและเพดานประดับด้วยกระเบื้องเซรามิกสีน้ำเงินมากกว่า 20,000 ชิ้น เป็นลวดลายดอกทิวลิปกว่า 50 แบบ บานหน้าต่างทำจากกระจกหลากสี เมื่อมีแสงลอดผ่านจึงเกิดสีสันสวยงาม ชื่อ Blue Mosque จึงมาจากสีน้ำเงินของกระเบื้องนั่นเอง

สวนกุหลาบด้านนอกมัสยิด


ที่กำแพงด้านข้างมัสยิดมีภาพและคำบรรยายติดเป็นแนวยาว



สามมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม

เวลา 13:00 น. ไปทานอาหารเที่ยงแถว Marmara University

The Wox Chinese Restaurant (Sultanahmet)

อาหารจานเดียว ไก่ผัดพริกและซุป

ทานอาหารเสร็จก็ออกเดินทางต่อค่ะ

แวะเล่นกับแมวแม่ลูกอ่อนนิดนึง ตามข้างทางเราจะเห็นมีคนเอาน้ำและอาหารแมวมาวางเยอะมาก


เวลา 14:00 น. ออกมารอขึ้นรถบัส บ่ายนี้เราจะเดินทางออกจากอิสตันบูลแล้วค่ะ

จุดหมายเย็นนี้คือเมืองชานัคคาเล่ (Çanakkale) ระยะทางประมาณ 300 กม.

เส้นทางเลียบชายทะเล Marmara sea

ผ่านไร่เกษตรกรรม

เวลา 16:00 น.แวะเข้าห้องน้ำ ทานขนม
คุณป้าสาธิตวิธีทำโรตีใส้ผักโขมให้ชมค่ะ

เข้าห้องน้ำ ทานของว่างเสร็จก็เดินทางต่อค่ะ หนทางยังอีกยาวไกล

มองเห็นเกาะเล็กๆในทะเลมาร์มาร่า


เวลา 18:00 น.แวะพักรถ เติมน้ำมัน

ทีปั๊มน้ำมันมีหมาหลายตัวเลยค่ะ ตัวใหญ่ ใจดี


ออกมานอกเมืองแล้วอากาศสดชื่นดีค่ะ

ร้านขายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น

กุหลาบต้นใหญ่ดอกหอมมาก

เข้าห้องน้ำแล้วออกเดินทางต่อค่ะ

หมาน้อยวิ่งมาส่งที่รถ Bye-bye

เวลา 19:00 น. เดินทางมาถึงท่าเรือเมือง Gelibolu

GESTAŞ Gelibolu Ferry

เอารถลงเรือข้ามฟาก แล้วก็ขึ้นไปนั่งเล่นที่ชั้นบนค่ะ

รถบรรทุกเยอะมาก เรือลำนี้น่าจะบรรทุกรถได้หลายสิบคัน

โดยสารเรือข้ามฟากไปยังเมืองชานัคคาเร่

เรือออกจากท่าแล้วค่ะ

Gelibolu เมืองริมทะเลมาร์มาร่า เป็นจุดเริ่มต้นของช่องแคบดาร์ดาเนลส์

ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิดๆ แดดเริ่มร่มลมแรง


เรือข้ามช่องแคบมีทั้งเรือโดยสารธรรมดาและเรือเฟอร์รี่



The Dardanelles (Çanakkale Boğazı) also known as the Strait of Gallipoli. It is a narrow, natural strait and internationally significant waterway in northwestern Turkey that forms part of the continental boundary between Asia and Europe and separates Asian Turkey from European Turkey.

The Dardanelles connects the Sea of Marmara with the Aegean and Mediterranean seas while also allowing passage to the Black Sea by extension via the Bosphorus. 

The Dardanelles is 61 kilometres long and 1.2 to 6 kilometres wide.
 It has an average depth of 55 metres with a maximum depth of 103 metres.

ช่องแคบดาร์ดาเนลส์  เป็นช่องแคบธรรมชาติตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรเกีย
 กั้นระหว่างคาบสมุทรกัลลิโพลีของตุรเกียส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปกับตุรเกียส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชีย 
เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แบ่งทวีปเอเชียและยุโรปออกจากกัน

ช่องแคบนี้เชื่อมระหว่างทะเลมาร์มาร่ากับทะเลอีเจียน 
มีความยาว 61 กิโลเมตร กว้าง 1.2- 6 กิโลเมตร  ลึกสุด 103 เมตร 



ด้านหลังคือสะพานชานัคคาเล่

The 1915 Çanakkale Bridge (1915 Çanakkale Köprüsü), is a road suspension bridge in the province of Çanakkale in northwestern Turkey. Situated just south of the coastal towns of Lapseki and Gelibolu, 

The bridge spans the Dardanelles strait, about 10 km south of the Sea of Marmara.
It is the longest suspension bridge in the world—with a main span of 2,023 m.

The bridge was officially opened by President Recep Tayyip Erdoğan on 18 March 2022
 after 5 years of construction.

The year "1915" in the official Turkish name honours an important Ottoman naval victory against the navies of the United Kingdom and France during World War I.

"สะพานชานัคคาเล่ 1915" เป็นสะพานแขวนข้ามช่องแคบดาร์ดาเนลส์แห่งแรก 
ห่างจากทางตอนใต้ของทะเลมาร์มาร่าประมาณ 10 กิโลเมตร 

สะพานนี้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 5 ปี
ตัวเลขปี "1915" ในชื่ออย่างเป็นทางการของสะพานแห่งนี้ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะสำคัญ
ของกองทัพเรือออตโตมันต่ออังกฤษและฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

ในปัจจุบันสะพานชานัคคาเล่ 1915 เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก
 โดยมีช่วงห่างระหว่างสองเสาสะพาน (ความยาวช่วงกลางสะพาน) 2,023 เมคร 

สะพานนี้เชื่อมระหว่างเมืองแลปเซกิและเกลิโบลู 


สะพานนี้สร้างความสะดวกและลดเวลาในการเดินทางได้มากทำให้ไม่ต้องมาต่อคิวเพื่อลงเรือ


ใกล้ถึงจุดหมายแล้วค่ะ

เวลา 19:30 น. เดินทางมาถึงท่าเรือ Lapseki Ferry Pier ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 30 นาที

ลงเรือแล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังเมืองชานัคคาเล่ ระยะทางประมาณ 30 กม.

เวลา 20:00 น.เดินทางมาถึงเมืองชานัคคาเล่ (Çanakkale) บริเวณนี้คือสวนสาธารณะริมทะเล
Ҫanakkale is Turkey’s second-largest province,located on the narrowest point of the Dardanelles.

สวนนี้อยู่ตรงข้ามสำนักงานหนังสือเดินทาง ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ Atatürk Heykeli

Trojan Statue

The statue attracts great attention from both local and foreign tourists.

แลนด์มาร์กของเมือง ทุกคนที่มาเมืองชานัคคาเล่ต้องมาถ่ายภาพกับม้าตัวนี้

In  Çanakkale, there are 2 Trojan horses. One at the ancient city of Troy and another at the waterfront. 

The second horse was made for the 2004 Hollywood movie "Troy".
 It is commonly referred as the Hollywood's Trojan Horse or Brad Pitt's Trojan Horse.

ม้าไม้เมืองทรอยมี 2 ตัว ตัวแรกอยู่ที่เมืองเก่าทรอย เราจะเดินทางไปชมกันในวันพรุ่งนี้
ตัวที่สองคือตัวที่อยู่ริมน้ำตัวนี้ค่ะ สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบในหนังฮอลลีวูดเรื่อง "Troy" ในปี 2004

Towering steel & fiberglass statue of the horse from Greek mythology.

ม้าตัวนี้ไม่ได้ทำจากไม้และรูปร่างไม่เหมือนของจริง แต่ดูแล้วสวยงามเป็นเอกลักษณ์
ตัวโครงทำจากโลหะและไฟเบอร์กลาสที่แข็งแรงทนทาน

After being used in the movie "Troy", famous Troy Horse Statue has been given to Turkey 
after the official request by The Ministry of Culture and Tourism of the Republic of Turkey. 
It is exhibited in Çanakkale city center since 13th of September, 2004.

หลังจากภาพยนตร์สร้างเสร็จ ทางการตุรเกียก็ได้ขอม้าตัวนี้ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกประจำเมือง
และนำมาตั้งที่สวนริมน้ำตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2004

 It weighs approximately 12 tons, is made of steel body and covered by fiberglass. 
Its height is 12.4 meters, width is 6 meters and length (horizontal) is approximately 10 meters.

ม้าตัวนี้หนักประมาณ 12 ตัน สูง 12.4 เมตร กว้าง 6 เมตร ยาว 10 เมตร

History of  the Trojan Horse

มีเชือกกั้นรอบตัวม้า ห้ามเข้าไปด้านใน

ด้านหลังนี้คือท่าเรือชานัคคาเล่

Çanakkale ferry pier

เมืองนี้อยู่ในส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาเนลส์
มีท่าเรือขนาดใหญ่ให้บริการเรือโดยสารจำนวนมาก

ท่าเรือยอร์ช

Moorrabbin Park

สวนสาธารณะริมทะเล ตอนเย็นๆมีคนมานั่งเล่นและเดินเล่นจำนวนมาก



ตอนนี้เวลาประมาณ 20:30 น.พระอาทิตย์ยังไม่ตกเลยค่ะ อยากรอชมแต่ก็ดึกแล้วต้องเดินทางไปที่พัก

เวลา 21:00 น.เดินทางถึงที่พัก Kolin Hotel

เช็คอินแล้วรีบเอาของขึ้นไปเก็บที่ห้องพัก


ห้องใหญ่และสะอาดดีค่ะ มีเตียงเสริมเรียบร้อย

อาหารเย็นเป็นบุฟเฟต์ของโรงแรม 

ทานอาหารเสร็จออกมาเดินเล่นด้านนอก

ห้องพักของเราเป็นวิวทะเล


ทะเลยามค่ำคืน เงียบและเปลี่ยวมาก เดินเล่นสักพักก็กลับห้อง อาบน้ำ นอนพักผ่อนค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น