วันพุธที่ 13 เมษายน 2565
เวลา 8:00 น. ออกเดินทางจากบ้าน จุดหมายคือ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
เวลา 15:00 น. แวะไหว้พระที่ วัดอ่างสุวรรณ อ.ทับสะแก
ขับตามป้ายบอกทางเข้ามาจาก ถ.เพชรเกษมประมาณ 4 กม. ถึงทางเข้าวัดอ่างสุวรรณ
เข้าไปจอดรถด้านใน
วัดอ่างสุวรรณ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหอย ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์
ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดหนองหอย
ประตูทางเข้าโบสถ์ไม้ตาล
เข้าชมฟรีค่ะ
สองข้างเป็นร้านขายของที่ระลึก
ผนังประดับด้วยไม้แกะสลัก
พระพิฆเนศ
พระสีวลี
ทางเดินไปโบสถ์ประดับด้วยหินศิลาแลง
โบสถ์ไม้ตาลหลังเดียวในโลก
เมื่อปี 2521 ชาวบ้านได้นิมนต์พระอาจารย์สมพงษ์ อัคคปัญโญ(พระครูผาสุกวิหารการ)ให้มาเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้อธิษฐานไว้ว่าจะขอสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็นอุโบสถไม้ตาลไว้ที่วัดนี้
อุโบสถไม้ตาลหลังนี้ ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2547 ใช้เวลาสร้างกว่า 7 ปี
ชาวบ้านชาวสวนตาลในจังหวัดประจวบฯ ที่มีศรัทธาได้ร่วมถวายไม้ตาลใช้สร้างอุโบสถหลังนี้
ไม้ตาลที่ใช้สร้างต้องเป็นไม้ตาลอายุ 70-100 ปี เพราะเนื้อไม้จะมีความแข็งแรงทนทาน
และใช้เฉพาะส่วนแก่นตาลที่แข็งที่สุด โดยใช้ไม้ตาลกว่า 10,000 ต้น
ด้านหน้าอุโบสถ เป็นไม้ตาลแกะสล้กลวดลาย ตกแต่งสวยงาม
ระเบียงก็ประดับด้วยไม้แกะสลัก
ขึ้นไปชมด้านในโบสถ์กันค่ะ
พระพุทธรูปหลวงปู่ไทร
เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา ซึ่งแกะสลักจากไม้ไทร มีอายุกว่า 200 ปี
ชาวบ้านมากราบไหว้ขอพรจากท่าน นำพวงมาลัยดอกไม้มาถวาย ปิดทองที่องค์พระ
ตัวอุโบสถใช้ไม้ตาลทั้งหลัง กว้าง 8 เมตร ยาว 29 เมตร สูง 16 เมตร
เสาโครงสร้าง คานล่าง ไม้เครื่องบน ใช้ไม้ตะเคียนเพื่อความแข็งแรงเพราะต้องรับน้ำหนักมาก
เสาต้นกลางเป็นไม้มะหาด
พื้น ผนัง และลวดลายประดับที่แกะสลักตกแต่งไว้ตามหน้าบัน ชายคา และซุ้มประตูหน้าต่างทำจากไม้ตาล
พระประธานเป็นพระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง 2 เมตร
มีองค์เทพหลังพระประธาน สวมสร้อยสังวาล ประดับด้วยพลอยขาว
ไหว้พระเสร็จก็ออกมาด้านนอกค่ะ
ทำบุญตามปีเกิด
ทำบุญบำรุงวัด
ลานด้านหน้าโบสถ์
มุมนี้จะเห็นความงามของโบสถ์แบบเต็มหลัง
เดินออกทางเดิมค่ะ
มุ่งหน้าสู่ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ผ่านวัดห้วยลึก มีหงส์ทองตัวใหญ่มากยืนอยู่ริมถนน
เข้าสู่เมืองสามอ่าวแล้วค่ะ
คืนนี้พักที่โกลเด้นบีช บูทิกรีสอร์ท อ่าวประจวบ
ห้องพักอยู่ด้านหลังไม่เห็นวิวทะเล ชมวิวคลองบางนางรมแทนค่ะ
เขาตาม่องล่าย ต.อ่าวน้อย
ร้านอ่าวน้อยซีฟู้ด
ทานอาหารเสร็จก็ไปวัดอ่าวน้อยต่อค่ะ
วัดอยู่ทางซ้ายมือ
เข้าไปจอดรถด้านในวัดค่ะ
วัดอ่าวน้อย (วัดถ้ำพระนอน)
ตั้งอยู่เชิงเขาคั่นกะได ม.2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
โบสถ์ไม้สักทองใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ด้านหน้าโบสถ์โดดเด่นด้วย พญานาค 9 เศียร ลำตัวสีเขียวและสีแดง
ขึ้นไปชมด้านในโบสถ์กันค่ะ
ด้านหน้าโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธรูปบางนาคปรก
ด้านในกำลังมีการถวายสังฆทาน พวกเราเลยยืนรอด้านนอก
พระประธานเป็นหินอ่อนสีขาว หน้าต่างและเพดานเป็นไม้สักแกะสลักสวยงาม
รอบผนังโบสถ์ประดับด้วยงานจิตรกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ด้านในยังมีการสนทนากันอีกนาน พวกเราเลยไหว้พระด้านนอกค่ะ
ออกมาชมความงามของโบสถ์ด้านนอกค่ะ
โบสถ์ไม้สักทองทั้งหลังสร้างด้วยทุนทรัพย์ประมาณ 45 ล้านบาท
ตัวโบสถ์มีการแกะสลักด้วยลวดลายไทยที่วิจิตรบรรจงและที่ละเอียดปราณีต
พญานาคล้อมรอบโบสถ์
ด้านหลังโบสถ์
ด้านข้างคือเขาคั่นกะได
โบสถ์หันหน้าออกสู่ทะเล
บึงน้ำและศาลาหน้าโบสถ์
ถ้ำพระนอน ตั้งอยู่บนภูเขาฝั่งติดทะเลอ่าวน้อย ต้องเดินขึ้นไปตามบันไดด้านข้างนี้ค่ะ
พวกเราไม่ได้ขึ้นค่ะ
ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ 2 องค์ คนนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
ในอดีตถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งชาวเรือมักเข้ามาอาศัยหลบพายุฝน
เรือหาปลาจอดเรียงราย
บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านชาวประมง
เดินกลับเข้ามาในวัดค่ะ
มุมสวย
ขับรถต่อไปยังวนอุทยานเขาตาม่องล่าย
นั่งรอชมพระอาทิตย์ตก
วิวสวยและเงียบสงบมาก
ทานไอติมกะทิสดมะพร้าวอ่อนคนละถ้วย
ไอติมอร่อยมากๆ
รอจนพระอาทิตย์ตกก็กลับที่พักค่ะ
อ่าวประจวบ
เดินเล่นที่ชายหาดด้านหน้าที่พัก
ชายทะเลประจวบยังสวยงามเสมอ
วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2565
เวลา 6:00 น.ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น
วิวจากหน้าต่างห้องพัก
คลองบางนางรม
อาหารเช้าเป็นบุฟเฟต์
ทานอาหารเสร็จก็ออกเดินทางต่อค่ะ