วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2564
เย็นนี้พวกเราจะไปปีนเขาที่อำเภอรัตภูมิกันค่ะ เวลาขับรถไปทางจังหวัดพัทลุงจะเห็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ทางซ้ายมือรูปร่างแปลกตาซึ่งคือจุดหมายในวันนี้ ขอบคุณภาพจากเวป ข่าวภาคใต้
เวลา 15:00 น. ออกเดินทางจากบ้านขับไปตามถนนเพชรเกษม AH4 ประมาณ 30 กม.จนถึงสี่แยกคูหา
เปิดกูเกิ้ลแมพให้นำทางไปยังเขาคูหา โดยขับเลยจากแยกคูหามาประมาณ 2 กม. แล้วเลี้ยวซ้าย
ขับไปตามทางอีก 1 กม. ก็มาถึงตีนเขาแล้วค่ะ
เขาคูหา ตั้งอยู่ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
ลานจอดรถ
เมื่อก่อนอำเภอรัตภูมิขึ้นอยู่กับ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง โดยที่เมืองพัทลุงนั้นก็มีคูหาสวรรค์
เป็น "คูหาเหนือ" ดังนั้นเขาคูหาซึ่งอยู่มาทางทิศใต้ของเขาคูหาเหนือจึงเรียกว่า "คูหาใต้"
ป้ายเช็คอินก่อนขึ้นเขา
ไกด์ท้องถิ่นมายืนรอนำทางค่ะ
ทางขึ้นเป็นหินและดินลูกรัง ควรใส่รองเท้ากีฬาจะได้เดินสะดวก
ทางเดินจะขึ้นเขาไปเรื่อยๆช่วงแรกยังไม่ชันมาก
ข้างหน้ามีลานพัก
ลานกว้าง มีขอนไม้ให้นั่งพัก และมีทางแยกไปสองทาง
ชมวิวเมือง
ทางแยกขวามือคือขึ้นไปชมวิวด้านบน (ป้ายหลุดค่ะ)
ทางเดินช่วงนี้จะแคบและเป็นหินเดินลำบากนิด
ร่มรื่นเหมือนมาเดินเล่นในป่า
มีต้นไม้สองข้างทางช่วยให้เกาะเดินขึ้นง่าย
ไกด์เริ่มเหนื่อยลิ้นห้อยแล้วค่ะ
ด้านบนนี้ร้อนมากควรเตรียมน้ำดื่มขึ้นมาด้วย
วิวที่ชั้นแรกก็สวยแล้วค่ะ
ด้านล่างมีแนวทิวสนสวยๆ
ประวัติความเป็นมา "เขาคูหา"
นานมาแล้วแต่เดิม เขาคูหา มีชื่อว่า เขาโคหาย เนื่องจากพื้นที่โดยรอบของเขามีทุ่งนากว้างใหญ่สีเขียวขจี มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านมักจะนำสัตว์มาเลี้ยงบริเวณทุ่งนา โดยเฉพาะโคและควาย
ซึ่งในพื้นที่รอบๆบริเวณภูเขาได้เกิดเหตุสัตว์เลี้ยงหายเป็นประจำ เมื่อชาวบ้านทราบว่าสัตว์เลีี้ยงหายก็ออกตามหา แต่ที่น่าแปลกคือ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอโคควายเหล่านั้น
จึงได้สันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นสัตว์จำพวกเสือลงมาจากภูเขาเพื่อหาอาหาร และได้ลากโคควายของชาวบ้านไปกิน คนในพื้นที่จึงเรียกเขาลูกนี้ว่า "เขาโคหาย"
ต่อมาสำเนียงพูดได้เพี้ยนไปตามกาลเวลา จากโคหายก็กลายมาเป็น "คูหา" มาจนบัดนี้
ตอนนี้แดดจัดมาก พระอาทิตย์ยังไม่ลับขอบเขา
ตรงขอบหน้าผามีเชือกกั้น ป้องกันอุบัติเหตุ
เดินขึ้นต่อไปอีกนิด
มาถึงจุดพักค่ะ
ผาหอบ
เดินอ้อมผาหอบขึ้นไปด้านบน
มุมนี้วิวสวยมากค่ะ
ในอดีตที่นี่มีการสัมปทานเหมืองหิน และมีการระเบิดภูเขาเลยทำให้ภูเขามีรูปร่างแปลกตา
ยิ่งสูงวิวยิ่งสวย
ปัจจุบันไม่มีการต่ออายุสัมปทานแล้ว จึงมีกลุ่มอนุรักษ์เขาคูหาและกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาช่วยกันดูแล
เขาลูกนี้จะเห็นในโซเชียลบ่อยมากเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ
หลายคนบอกว่าวิวเหมือนต่างประเทศ
ถ่ายรูปมุมนิยมเสร็จยังมีทางขึ้นไปต่ออีกค่ะ
ช่วงนี้ชันนิดแต่มีเชือกให้ไต่ขึ้นไม่ยากค่ะ
ภาคส่วนต่างๆได้เข้ามาร่วมกันดูแลเขาคูหา ทำป้ายบอกทาง ขึงเชือกกั้น เชือกสำหรับปีนเขาในบางช่วง รวมถึงมีจิตอาสาช่วยกันดูแลความเรียบร้อยด้านต่างๆในรูปแบบอาสาสมัคร
ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วค่ะ
พระอาทิตย์เจิดจ้า
ด้านบนไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเลยร้อนมากๆค่ะ
ขอพลังสุริยัน555
ด้านล่างคือทางที่พวกเราเพิ่งปีนขึ้นมา
ยิ่งสูงก็เห็นวิวได้ไกลและกว้างแบบพาโนรามา
ด้านล่างเป็นแนวสนอยู่ระหว่างช่องเขา
แม่ตุ๊กกับมะปรางขอปีนขึ้นไปอีกชั้น
คุณป๋าขอถ่ายรูปอยู่ข้างล่าง ภาพเบลอมาก555
ชั้นนี้ยังไม่ถึงจุดสูงสุดต้องปีนเขาต่อไปอีก
แต่แม่ตุ๊กเห็นมีคนอยู่ด้านบนหลายคนเลยขอหยุดแค่ชั้นนี้พอค่ะ
คุณป๋าคอยอยู่ด้านล่าง
มุมนี้สวยมากค่ะ
เขาลูกนี้โดดเด่นเห็นได้ชัดจากถนนใหญ่
เก็บภาพภูเขาและวิวรอบๆ
ร่องรอยจากการระเบิดภูเขามานานทำให้ภูเขาที่เราเห็นมีรูปร่างแปลกตา
ถ่ายรูปเสร็จก็ปีนลงค่ะ ต้องให้คุณป๋าคอยดึงเชือกข้างล่างให้จะได้ลงง่ายๆ
เดินย้อนกลับทางเดิม
วันนี้คนมาเที่ยวไม่มาก อาจเป็นเพราะแดดจัดและร้อนมาก
เก็บภาพวิวตอนลงเขา
วิวตอนเดินลงก็สวยดีค่ะ
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบเขาแล้ว
ถ้าฝนตกน่าจะเดินลำบากเพราะหินค่อนข้างลื่น
ถึงด้านล่างแล้ว มีร้านขายน้ำด้วยค่ะ
เดินลงเขาไวกว่าเดินขึ้นเขาและไม่ค่อยเหนื่อยด้วยค่ะ
ไกด์ตัวนี้แข็งแรงมากเพราะน่าจะเดินขึ้นลงเขาวันละหลายรอบเลย
เขาคูหานี้สวยมากค่ะ อยากให้มีคนมาเที่ยวเยอะๆทางราชการจะได้เข้ามาดูแลและมีงบประมาณ
เก็บภาพเขาคูหาก่อนกลับ
ขับรถกลับเส้นทางเดิมค่ะ
ป้ายทางออกถนนสายเอเชีย
จบทริปเขาคูหา อ.รัตภูมิ ประทับใจมากค่ะวันหลังจะเตรียมกล้องมาถ่ายรูปสวยๆอีกครั้ง