เวลา 15:00 น. ฝนตกปรอยๆ พวกเราออกเดินทางไปเที่ยวอีกแล้ว เย็นนี้ไปทะเลสงขลากันค่ะ
ใช้เส้นทาง ถ.กาญจนวนิช ขับตรงไปจนถึง ต.ควนหินแล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 3015
เปิดกูเกิ้ลแมพ ใช้เส้นทางลัดเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 408
ถนนเส้นนี้วิวสวยมากค่ะ มองเห็นทะเลอยู่ไกลๆ
ป้ายบอกทางไปสงขลา
ขับตรงไปจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 4309 ต.เกาะแต้ว
ขับต่อไปอีกประมาณ 2 กม. ก็เลี้ยวขวาที่ซอยเล็กๆเพื่อเข้าสู่ถนน สข.2004
ขับตรงไปอีกประมาณ 5 กม.ก็จะเห็นชายหาดและหมู่บ้านริมทะเล
เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบชายทะเลอีกประมาณ 400 เมตร ก็มาถึงจุดหมายแล้วค่ะ
ชายหาดบ่ออิฐ
ทิวสนทอดยาวตามแนวชายหาด ร่มรื่นดีค่ะ
ลานวงกลมมีม้านั่งยาวริมทะเล
เรือประมงจอดเรียงรายตามแนวชายหาด
บริเวณนี้เป็นเวิ้งอ่าว มีเขื่อนหินป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง
บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา เป็นหนึ่งในชุมชนชาวเลของ จ.สงขลา
ที่ยังคงยึดอาชีพทำการประมงชายฝั่งสืบทอดกันมาสู่รุ่นปัจจุบัน
บริเวณนี้เป็นชายหาดเล็กๆยื่นไปในทะเลด้านหน้ามีเขื่อนหินกั้นไว้
ชิงช้าไม้บนชายหาด
มุมนั่งเล่นสบายๆ
เรือประมงพื้นบ้าน
รางไม้วางอยู่ด้านล่างเรือไม้
เอกลักษณ์ของชาวประมงพื้นบ้านที่ชุมชนบ้านบ่ออิฐ คือ วิธีนำเรือขึ้นฝั่ง
ในเวลาที่นำเรือกลับเข้าฝั่ง หรือในช่วงที่คลื่นลมแรง
วิธีนำเรือขึ้นฝั่ง คือการนำไม้มาทำเป็นรางไม้สำหรับลากเรือขึ้น ซึ่งรางแต่ละอันจะกว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 2-3 เมตร นำมาวางต่อกันเป็นช่วงๆ ตั้งแต่ริมทะเลจนถึงจุดที่จะนำเรือมาจอด
ชาวประมงชายและหญิง 4-5 คน จะมาช่วยกันดันเรือขึ้นฝั่ง เรือจะลื่นไหลไปตามราง
ช่วงนี้มีพายุลมแรงเลยมีการนำเรือขึ้นฝั่งมาจอดยาวตลอดแนวชายหาด
ชุมชนบ่ออิฐ ซึ่งเป็นชุมชนชาวเลที่ยังคงสืบทอดความเป็นลูกชาวเลมาจนถึงปัจจุบัน
เรือไฟเบอร์กลาส
เรือแต่ละลำก็มีสีสันและการตกแต่งแตกต่างกัน
บางลำก็มีชื่อเขียนไว้ตรงหัวเรือ
ปกติที่ชายหาดนี้จะมีเปลือกหอยหลากหลายชนิด
ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวันชายหาดสะอาด เลยไม่ค่อยเห็นเปลือกหอยค่ะ
เขื่อนหินเป็นจุดเด่นของหาดบ่ออิฐ มีความยาว 200 เมตร กว้าง 4 เมตร
เสาผูกยึดเรือ เวลาเดินต้องระวังสะดุดเชือกด้วยค่ะ
คนนิยมขึ้นไปถ่ายรูปบนเขื่อนหิน
บันไดไม้เล็กๆสำหรับปีนขึ้นไปบนเขื่อน
บนเขื่อนลมแรงมากๆ มะปรางบอกว่าเหมือนตัวจะปลิวเลย
วิวด้านบนสวยดีค่ะ
เขื่อนทำจากหินก้อนใหญ่ๆมาวางเรียงกัน เวลาเดินจะลำบากหน่อย
อากาศสดชื่นเย็นสบายมาก
คนนิยมมาตกปลาบนเขื่อนนี้ด้วยค่ะ
ชายหาดเป็นรูปครึ่งวงกลม ตอนนี้มีเด็กๆมาเล่นน้ำทะเลด้วยค่ะ
วันนี้เมฆค่อนข้างครึ้มมีฝนปรอยๆอากาศเลยไม่ร้อน
น้ำทะเลไม่ใสเป็นสีโคลนเพราะคลื่นลมแรง
เดินเล่นถ่ายรูปชายหาดกันสักหน่อย
มาเที่ยวทะเลแบบไม่มีคนเลย สบายและสงบมาก
เดินย้อนกลับทางเดิม
ชิงช้าไม้ริมหาด 2 อันและแนวสน
เก็บรูปบรรยากาศรอบๆ
บรรยากาศชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน
รูปสุดท้ายก่อนกลับ
ขับรถต่อไปตามถนนเลียบชายหาด
ด้านนอกลมแรงมากค่ะ คลื่นแรงซัดขอบถนนจนพังหลายจุด
หาที่จอดรถและทานอาหารเย็นริมทะเลกันค่ะ
ทานกันในรถเลยค่ะ แม่ตุ๊กเตรียมมาจากบ้านทั้งอาหาร ขนมและน้ำ
ทานไปชมวิวทะเลไปก็มีความสุขแล้ว
ทานอาหารเสร็จก็ลงไปเดินเล่นสักนิด
ออกเดินทางต่อค่ะ
หาดชลาทัศน์
สวนสน
ตอนนี้มีการปิดหาดเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 คุณป๋าเลยพาขับรถชมวิวชายหาดหนึ่งรอบ
แวะถ่ายรูปที่หาดใกล้ๆตลาดเก้าเส้ง
ด้านหน้าคือเขาเก้าแสน
มัสยิดและชุมชนเก้าเส้ง
วัดเขาเก้าแสน ตั้งอยู่บนเขาเก้าเส้ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา
ตำนานเล่าว่า "นายแรง" พ่อค้าเรือสำเภานำทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองมูลค่าประมาณ "เก้าแสนบาท"
เพื่อจะไปร่วมสร้างพระธาตุที่เมืองนครศรีธรรมราช แต่เมื่อมาถึงเมืองสงขลาได้ข่าวว่าพระธาตุเมืองคอน หรือพระธาตุยอดทอง ได้สร้างเสร็จแล้ว นายแรงจึงตัดสินใจฝังสมบัติไว้ที่นี่ และอธิษฐานให้ยกหินก้อนใหญ่มาปิดเอาไว้ และก่อนนายแรงตาย ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า คนที่จะมายกหินก้อนนี้ออกได้ต้องเป็นทายาทของตนเองเท่านั้น และก็ยังไม่มีใครมายก หรือผลักหินก้อนนี้ให้ตกลงทะเลไปได้
ชาวสงขลาจึงเรียกหินก้อนนี้ว่า “หัวนายแรง”
และเรียกเนินเขาที่ทอดยาวลงสู่อ่าวสงขลาว่า “เก้าเส้ง” ซึ่งเพี้ยนมาจาก “เก้าแสน” นั่นเอง
ชายหาดชลาทัศน์มีความยาวตั้งแต่เขาเก้าแสนไปจนถึงหาดสมิหลา
มองเห็นเกาะหนู เกาะแมวอยู่ไกลๆ
ทะเลในวันที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเงียบและสะอาดมาก