tukemd: 2.Rotterdam ร็อตเตอร์ดัมเมืองทันสมัยใหญ่อันดับสอง

TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ

2562/06/02

2.Rotterdam ร็อตเตอร์ดัมเมืองทันสมัยใหญ่อันดับสอง

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2562

เวลา 10:30 น.ออกเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองเดลฟท์ไปเมืองร็อตเตอร์ดัม ใช้เวลา 20 นาทีก็มาถึง Rotterdam Blaak Station ด้านในสถานีตกแต่งแบบทันสมัย ประดับไฟสีสวย

คุณป๋าเลือกลงที่สถานีนี้เพราะอยู่ใจกลางเมืองกว่า Rotterdam Centraal สามารถเดินเล่นได้สะดวก

บางส่วนของสถานีจัดแสดงเรื่องราวของเมือง Rotterdam ในสมัยโบราณ

ตู้จัดแสดงวัตถุโบราณที่ขุดค้นได้ระหว่างการก่อสร้างเมือง

เดินออกจากสถานีทางถนน Blaak จะพบกับอาคารทรงดินสอและทรงลูกบาศก์เรียงรายอยู่ตรงหน้าเลย
Rotterdam is the Netherlands' city of architecture.

Het Potlood (Pencil tower)

is a residential tower by architect Piet Blom with a height of 61 meters and 15 floors.

The pentagonal Pencil is a radial structure.

อาคารดินสอนี้เป็นที่พักอาศัย สูง 61 เมตร มี 15 ชั้น

The Cube Houses (Pole Houses ,Tree Houses) are located within the Blaak area.

บ้านทรงลูกบาศก์ เป็นสถานที่มีชื่อเสียงของเมืองเพราะมีรูปทรงที่โดดเด่นมาก ตั้งอยู่ในย่าน Blaak

The Cube Houses in Rotterdam are famous all over the world because of their striking design.

The Cube Houses were designed by Dutch architect Piet Blom .
Cube-shaped house 45 degrees and lifted it on a hexagon-shaped pylon.

บ้านลูกบาศก์ ออกแบบโดยสถาปนิก Piet Blom (ออกแบบอาคารดินสอด้วย)

อาคารสีเหลืองทรงลูกเต๋า ตั้งเอียง 45 องศาต่อกัน โดยสร้างบนสะพานลอยที่ข้ามถนน Blaak

เดินไปด้านหลังฝั่งที่ติดกับท่าเรือ

ทางขึ้นไปชมบ้านลูกบาศก์อยู่ด้านนี้ค่ะ

The 38 Cube Houses are all connected together with two supersized cubes at both ends of the string.

บ้านลูกบาศก์เรียงเชื่อมต่อกันจำนวน 38 หลัง ตั้งเอียงอยู่บนเสาหกเหลี่ยม

ขึ้นไปชมด้านบนกันค่ะ

The houses have got three floors with a living space of around 100 square meters.

Some residents use the small third floor as their garden.

The cubes don't have any straight walls inside

อาคารมี 3 ชั้น ชั้น 1 คือชั้นล่างเป็นฐาน ถนน อาคารร้านค้า และบันไดทางขึ้น

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนกลางมีทางเชื่อมให้เดินถึงกัน ชั้นนี้จะเห็นเสาหกเหลี่ยมของบ้านแต่ละหลัง

ชั้น 3 คือส่วนของบ้านลูกบาศก์ เป็นที่พักอาศัยส่วนตัว ขึ้นไปชมไม่ได้
จะเห็นว่าตัวบ้านยังแบ่งเป็น 3 ชั้นด้วยค่ะ

ผนังบ้านทุกหลังเชื่อมต่อกันหมด

The Kijk-Kubus (Show-Cube) is a furnished museum house, specially designed and constructed to let the visitor experience what life is like in a Cube House.

มีบ้านบางหลังตกแต่งและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่่องเที่ยวเข้าชมได้โดยต้องเสียค่าเข้าชมค่ะ

You can book a room in the Stayokay Hostel Rotterdam which is located in one of the megacubes. The hostel doesn´t have any straight walls and the staff had to be very creative to use the space. You can book a bed in a shared bedroom or your own private room.

ถ้าอยากลองมาพักที่นี่ต้องจองที่พักผ่านทางเวปไซต์ค่ะ

Sometimes a Cube House is offered for sale: prices start at €175,000.

ราคาบ้านค่อนข้างสูงค่ะ

Each of the houses represent a tree and all togther they represent a forest.

สถาปนิกตั้งใจออกแบบบ้านให้เหมือนต้นไม้และเชื่อมต่อกันคล้ายป่าไม้

Oude Haven (Old Harbour , part of the Maritime District)
ด้านหลังของบ้านลูกบาศก์คือย่านท่าเรือเก่า
สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1350 เป็นหนึ่งในท่าเรือที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง

Willemsbrug and Witte Huis

Witte Huis (White House) was the tallest office building in the city and Europe’s first skyscraper at all of 43 metres. It has a beautiful facade of white glazed brick adorned with Art Nouveau mosaics. The Witte Huis is on the UNESCO world heritage list since 2013.

อาคารเก่าแก่อายุประมาณ 120 ปี และเป็นมรดกโลกด้วยค่ะ

Willemsbrug

เป็นสะพานสีแดงที่เชื่อมเขตเมืองฝั่งเหนือ เกาะกลางแม่น้ำ และตัวเมืองฝั่งใต้

จากมุมนี้จะเห็นว่าบ้านลูกบาศก์สร้างเรียงอยู่บนสะพานลอยที่ข้ามถนน Blaak

เดินลงไปที่ท่าเรือ รอบๆอ่าวเล็กๆนี้มีร้านอาหารมากมาย

เดินออกมาที่ถนน Blaak

ถ่ายรูปบ้านลูกบาศก์จนเต็มอิ่มก็เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งกันค่ะ

ด้านหลังคือ Rotterdam Blaak Station

อาคารสถานีด้านนอกใหญ่เหมือนยานอวกาศเลยค่ะ

ด้านหลังสถานีคือ Markthal

SkyView DinnerWheel Rotterdam

ภัตตาคารบนชิงช้าสวรรค์

The Markthal (Market Hall) is a residential and office building with a market hall.

เป็นอาคารที่พักอาศัย สำนักงาน และตลาด เพิ่งเปิดใช้งานในปี 2014

The Rotterdam Market Hall design is cutting edge with the shape of a giant airplane hangar.

อาคารนี้มีขนาดใหญ่และสูง ออกแบบเหมือนโรงเก็บเครื่องบิน

The front and back of the Market Hall is made draught-proof by means of a huge glass facade.

The interior of the Rotterdam Market Hall is one-of-a-kind due to the huge colourful panels on the walls and ceiling, depicting lots and lots of fruit.

ผนังและเพดานด้านในเป็นกระจกลวดลายและสีสันสดใส

Theme Horn of Plenty

ตรงกลางอาคารเป็นตลาดขายอาหารมากมาย

เดินชมแต่ละร้านก็สนุกแล้วค่ะ

แหล่งรวมอาหารหลายชาติ

ตลาด,ร้านอาหารอยู่ชั้น 1 และ 2 ส่วนชั้น 3 ขึ้นไปเป็นสำนักงานและที่พักอาศัย

ด้านในนี้คนเยอะมากๆค่ะ

ชั้นใต้ดินเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ลานจอดรถ และที่จัดแสดงวัตถุโบราณ

ตอนนี้เที่ยงแล้วค่ะ แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านนี้กันค่ะ อาหารน่าทานและคนน้อยดี

Elliniko Markthal - The All Day Greek

สเต๊กหมูและไส้กรอก จานใหญ่มาก

ทานอาหารเสร็จก็เดินดูขนมหวานกันต่อค่ะ

ผลไม้หลากหลายชนิด

สตรอเบอรรี่สดๆลูกโตๆ ราคาถูกมาก

ทานอาหารอิ่มและเดินจนทั่วตลาดแล้วก็ออกไปนั่งเล่นด้านนอกกันค่ะ

ทานผลไม้ปิดท้ายอีกรอบ

ไปเที่ยวกันต่อค่ะ

ด้านหน้าคือโบสถ์เซนต์ลอเรนซ์

The Laurenskerk

Hoogsrtaat

บนถนนเส้นนี้มีร้านค้าและร้านอาหารตลอดแนว

Rotterdam เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเนเธอร์แลนด์

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Rotterdam ถูกระเบิดถล่มจนราบคาบ (Rotterdam Blitz on May 14, 1940) เพราะเป็นเมืองยุทธศาสตร์ มีท่าเรือใหญ่อันดับต้นๆของโลก หลังสงครามโลกได้สร้างอาคารขึ้นใหม่

มีตึกสูงทันสมัยมากมาย อาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์เหลืออยู่ไม่มาก

เดินไปจนถึงทางแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อไปโบสถ์ที่อยู่ด้านหลังค่ะ

The Laurenskerk (Church of St. Lawrence) is a Protestant church in Rotterdam.
It is an imposing church built between 1449 and 1525.
This basilica was the first all stone building in Rotterdam.

โบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1449

It is Rotterdam’s only surviving late Gothic building. After the bombing of Rotterdam in the Second World War, the image of the heavily damaged church and the reconstruction works that followed became a symbol of the city.

เป็นอาคารสไตล์โกธิคเพียงหลังเดียวของเมืองที่หลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างดี ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

Climb the tower on a guided tour (Wednesdays and Saturdays from April through October)
for a spectacular view of the Rotterdam city centre.
สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนหอระฆังตั้งแต่เดือน เมษายน-ตุลาคม

โบสถ์โดดเด่นสวยงามท่ามกลางอาคารทันสมัยกลางใจเมืองร็อตเตอร์ดัม

Grotekerkplein Park
สวนหย่อมด้านหน้าหอนาฬิกาเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมือง

The statue of Desiderius Erasmus is the oldest statue in the Netherlands. It stands in Grote Kerkplein, just a stone s throw from the Laurenskerk. Desiderius Erasmus was a famous Renaissance humanist, theologian and philosopher who was born in Rotterdam around 1468.

อนุสาวรีย์ Erasmus ตั้งอยู่ในสวน

เดินออกจากสวน ไปทางฝั่งตะวันตก

อาคารสวยๆริมคลอง

อาคารแบบเรียบแต่ดูทันสมัย

ตึกสูงด้านข้างคือ World Trade Center บริเวณนี้คือย่านช็อปปิ้งของเมือง

เดินขึ้นไปทางเหนือตามถนน Haagseveer

Timmerhuis อาคารที่พักอาศัย

อาคารอพาร์ทเมนท์สีสวยริมน้ำ

เดินมาจนถึงสถานีตำรวจ Rotterdam police unit แล้วเลี้ยวซ้าย

Monument of Louis Davids

ด้านหลังอาคารศาลาว่าการเมือง

Stadhuis Rotterdam

เลี้ยวซ้ายไปตามถนน Raam

เดินหาประตูทางเข้าด้านในศาลาว่าการเมืองกันค่ะ

Stadhuis Rotterdam

City Hall was one of the few buildings to survive the bombardment in 1940. Queen Wilhelmina laid the first stone in 1915. The listed building in Beaux Art style with Byzantine, Roman and Art Deco influences is symmetrically structured around an inner courtyard which can be reached via the street that intersects City Hall. The richly decorated façade features various sculptures.

The mayor’s office is on the first floor of the right corner pavilion.