เวลา 14:00 น ออกเดินทางโดยรถไฟจากเมืองร็อตเตอร์ดัม (Rotterdam Centraal Station)
ไปกรุงเฮก (Den Haag Centraal Station) ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็มาถึงแล้วค่ะ
เนื่องจากสถานที่เที่ยวของเมืองนี้ค่อนข้างไกลกันมากเดินอย่างเดียวคงไม่ทั่ว คุณป๋าเลยซื้อตั๋ว
HTM Dagkaart one-day card 7.10 Euro ครอบคลุมการโดยสารทั้งรถรางและรถบัส สะดวกดีค่ะ
นั่งรถรางสาย 9 ไปลงสถานี Den Haag, Malieveld
แล้วเดินต่อไปตามถนน Korte Voorhout-Tournooiveld ประมาณ 500 เมตร
มาถึงจุดหมายแล้วค่ะ
มุมถ่ายรูปยอดนิยมประจำเมือง
ด้านหลังคือกลุ่มอาคารที่ทำการรัฐบาลของประเทศ
Mauritshuis and Binnenhof
Mauritshuis ด้านหลัง
Hofvijver ( Court Pond)
สระน้ำขนาดใหญ่อยู่ทางทิศเหนือของ Binnenhof เดิมเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ
และขุดขึ้นมาเป็นสระน้ำของคฤหาสน์ในศตวรรษที่ 13
Binnenhof
The Binnenhof (Inner Court) is a complex of buildings in the city centre of The Hague,next to the Hofvijver. It houses the meeting place of both houses of the States General of the Netherlands, as well as the Ministry of General Affairs and the office of the Prime Minister of the Netherlands. Built primarily in the 13th century, the Gothic castle originally functioned as residence of the counts of Holland and became the political centre of the Dutch Republic in 1584.
บินเนนฮอฟ คือกลุ่มอาคารที่ทำการของรัฐบาลดัทช์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเฮก ทางทิศใต้ของสระน้ำ
ประกอบด้วยอาคารสวยงามเหมือนปราสาท สร้างสไตล์โกธิค เป็นที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาล,
อาคารรัฐสภา,กระทวงการต่างประเทศ และห้องประชุมคณะรัฐมนตรี
Office of the Prime Minister
อาคารทรงหอคอยหกเหลี่ยมขนาดเล็กทางซ้ายมือคือสถานที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี
The Binnenhof is among the oldest Parliament buildings in the world still in use.
บินเนนฮอฟ เป็นอาคารรัฐสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังเปิดใช้งานทำการอยู่
เดิมที่นี่เคยเป็นคฤหาสน์ของ Count Floris IV of Holland และมีการสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้นรอบๆ
จนถึง ค.ศ.1584 จึงได้เปลี่ยนไปเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ
Mauritshuis
The Mauritshuis (Maurice House) is an art museum in The Hague.
The museum houses the Royal Cabinet of Paintings which consists of 841 objects, mostly Dutch Golden Age paintings.The collections contains works by Johannes Vermeer, Rembrandt van Rijn, Jan Steen, Paulus Potter, Frans Hals, Jacob van Ruisdael, Hans Holbein the Younger, and others.
Originally, the 17th century building was the residence of count John Maurice of Nassau.
It is now the property of the government of the Netherlands.
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทซ์เฮาส์ เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ.1822 เป็นที่จัดแสดงภาพวาดที่มีชื่อเสียงของ
ศิลปินชาวดัทช์ในช่วงยุคทองหลายคน เช่น เรมบรันต์ เวอร์เมียร์ ฟรานส์ ฮาลส์
พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ค่าเข้าชมคนละ 15.5 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 19 ปีเข้าชมฟรี
พวกเราไม่ได้เข้าชมด้านในค่ะเพราะไม่ได้จองตั๋วมาก่อนและคิวค่อนข้างยาว
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้กับบินเนนฮอฟ
The Mauritspoort (Grenadierspoort) is the eastern gateway to the Binnenhof, was built in 1634.
ประตูทางเข้าบินเนนฮอฟ ตราสัญลักษณ์บนประตูเมืองเป็นรูปสิงโตสีแดงและมงกุฎ
Ministry of General Affairs
เดินผ่านประตูเข้ามาจะพบกับอาคารทางขวามือคือกระทรวงการต่างประเทศ
The Binnenpoort (Middenpoort) is one of the four preserved gates that give access to the Binnenhof.
เดินผ่านประตูชั้นกลางเข้าสู่บินเนนฮอฟ
ทางซ้ายมือคืออาคารหลักของบินเนนฮอฟ
Ridderzaal
The Ridderzaal (Hall of Knights) is the main building of the 13th century inner square of Binnenhof. It is used for the state opening of Parliament on Princes'day, when the Dutch monarch drives to Parliament in the Golden Coach and delivers the speech from the throne. It is also used for official royal receptions, and interparliamentary conferences.
หอแห่งอัศวิน คืออาคารหลักของบินเนนฮอฟ สร้างสไตล์โกธิค ใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญของประเทศและเป็นที่กล่าวสุนทรพจน์ของกษัตริย์ในวันอังคารสัปดาห์ที่ 3 เดือนกันยายนของทุกปี (Princes'day)
Parliament buildings and government buildings shape a rectangle around the Ridderzaal,
creating a large courtyard in front of the building.
The square forms the very heart of Dutch government.
อาคารที่อยู่รอบๆคือสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาและที่ทำการของรัฐบาล
ลานกว้างด้านหน้ามีน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลาง
Binnenhoffontein
The Binnenhoffontein is a fountain on the Binnenhof designed by Pierre Cuypers in 1880.
The gilded statue of Willem II of Holland on top of the fountain was designed by Ludwig Jünger .
The neo-gothic fountain is made of wrought iron with a hard stone basin.
The fountain has four coats of arms around it, alternating between the Dutch lion and the German eagle .
น้ำพุสไตล์นีโอโกธิคประดับทองคำ ด้านบนเป็นอนุสาวรีย์ของกษัตริย์วิลเลียมที่ 2
The Stadhouderspoort was originally called the Middelpoort. This main entrance to the Binnenhof was the only direct connection between the Binnenhof and Buitenhof. It is one of the four (the most westerly) still existing gates of the Binnenhof complex.
ประตูทางเข้าหลักของบินเนนฮอฟอยู่ทางทิศตะวันตก
The equestrian statue of King William II guards the Stadtholder's Gate, which dates from 1620.
เดินออกจากประตูหลักก็จะพบกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์วิลเลียมที่ 2 ประทับบนหลังม้า
จตุรัสและลานด้านหน้าสระน้ำนี้เรียกว่า Buitenhof
คนนิยมมาเก็บภาพบินเนนฮอฟที่มุมนี้กันค่ะ
Memorial column at the Buitenhof
At the top is the image of the stork from the arms of The Hague, with below the text:
Construction of this road was started in 1923, the year in which the 25-year reign of
Queen Wilhelmina was commemorated.
ด้านบนเป็นรูปนกกระสา ชาวเมืองถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเฮก เพื่อเป็นการระลึกถึงนกกระสาที่มาสร้างรังอยู่ริมสระน้ำฮอฟเวเวอร์และยังเป็นสัตว์นำโชคด้วย
รอบๆสระน้ำมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เช่นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กรุงเฮกอยู่ทางทิศตะวันออก
ส่วนทางทิศตะวันตกคือพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ (The Prison Museum)
ประตูเมืองเก่านี้มีชื่อว่า Gevangenpooort เป็นทางเข้าสู่ห้องขังนักโทษ
Statue of Johan de Witt รอบๆจตุรัสเป็นร้านค้าและร้านอาหาร
เวลา 16:00 น.นั่งรถรางสาย 1 ไปวังสันติภาพ(ศาลโลก)กันค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึง ลงที่ป้าย Vredespaleis
The Peace Palace
The Peace Palace (Vredespaleis) is an international law administrative building in The Hague.
It houses the International Court of Justice, the Permanent Court of Arbitration (PCA),
the Hague Academy of International Law and the Peace Palace Library.
It houses the International Court of Justice, the Permanent Court of Arbitration (PCA),
the Hague Academy of International Law and the Peace Palace Library.
วังสันติภาพเป็นที่ตั้งของสถาบันด้านกฎหมายที่สำคัญระดับโลก 4 แห่ง
ด้านในประกอบด้วย
1.ที่ทำการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก)
2.ที่ทำการศาลอนุญาโตตุลาการถาวร
3.เนติบัณฑิตยสถานระหว่างประเทศ
4.ห้องสมุดวังสันติภาพ
วังสันติภาพเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ.1913
การเข้าชมด้านในต้องจองตั๋วผ่านทางเวปไซต์เท่านั้น ปิดวันจันทร์ค่ะ(วันนี้)
WISH TREE
Yoko Ono’s interactive artwork WISH TREE (1996) has been integral to many of her exhibitions around the world in museums and cultural centers where people have been invited to write their personal wishes for peace and tie them to a tree branch.
ต้นไม้แห่งปรารถนา ตั้งอยู่ตรงทางเข้าวังสันติภาพ เป็นผลงานของศิลปินชาวญี่ปุ่น(Yoko Ono)
ทุกคนสามารถเขียนข้อความลงบนกระดาษแล้วนำมาผูกที่กิ่งต้นไม้ได้ค่ะ
ประตูใหญ่ด้านหน้าวังไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้า
The World Peace Flame
It is a sign of hope and an instrument for inspiring people to work on a better world. The design of the monument is based on the elements fire, water, earth and air, each depicted symbolically in all its simplicity and naturalness.
เปลวไฟแห่งสันติภาพโลกตั้งอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่
The World Peace Flame is a flame in Wales that has been burning non-stop since 1999. Attention is drawn to world peace by spreading this flame. The first world peace flame in the Netherlands was installed on 18 April 2002.
Since 2004, the monument is surrounded by a ring of 196 pebbles and rocks from 196 countries. Some stones carry special meaning; for example, a piece of rubble from the Berlin Wall and a rock from Robben Island, where Nelson Mandela was imprisoned for years.
ทางเดินรอบเปลวไฟแห่งสันติภาพ ประดับด้วยหิน 196 ก้อน จากสมาชิก 196 ประเทศ
Rock from Thailand
Carnegieplein ลานกว้างด้านหน้ามีม้านั่งสีสวยลวดลายเกี่ยวกับสันติภาพ
พวกเรานั่งเล่นรอจนนักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ไปกันหมด เพื่อจะเก็บภาพวังสวยๆค่ะ
Peace Bench
Colorful Moseic Bench
นั่งเล่นและทานขนมเสร็จก็ไปเที่ยวกันต่อค่ะ
เวลา 17:00 น. ไปเที่ยวชายหาดกันค่ะ นั่งรถรางสาย 1 ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีไปลงที่ป้าย Kurhaus
จากนั้นก็เดินไปตามถนน Palacestraat ที่อยู่ด้านข้างโรงแรม Kurhaus ตรงไปยังชายหาด
อาคารหลังใหญ่ที่กำลังซ่อมแซมคือ Kurhaus of Scheveningen Grand Hotel โรงแรมห้าดาวเก่าแก่
จากนั้นก็เดินไปตามถนน Palacestraat ที่อยู่ด้านข้างโรงแรม Kurhaus ตรงไปยังชายหาด
อาคารหลังใหญ่ที่กำลังซ่อมแซมคือ Kurhaus of Scheveningen Grand Hotel โรงแรมห้าดาวเก่าแก่
Strandweg ลานกว้างติดชายหาดมีร้านค้าและร้านอาหารตลอดแนว
Peukie Beachclub
ร้านอาหารติดชายหาด ทางเข้าประดับด้วยพระพุทธรูป
Big Bell Grand-Café, Steakhouse, Live Music
Trampoline Centrum
ลานออกกำลังกายของเด็กตั้งอยู่บนชายหาด
ลงไปเดินเล่นที่ชายหาดกันค่ะ ทางขวามือคือ The Pier
The Pier extending 400 meters into the sea with its islands was built around 1900 as a wooden promenade above the sea. It burned down in 1943, but in 1961 the Pier was rebuilt out of cement.
สะพานทางเดินจากชายหาดทอดยาวไปสู่ทะเลระยะทาง 400 เมตรสิ้นสุดที่หอชมวิวและอาคารทรงโค้ง
The famous Pier in Scheveningen is an icon on the Dutch coast.
It is open daily and all year round from 10.00. Admission is free of charge.
It is open daily and all year round from 10.00. Admission is free of charge.
The Pier เป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นมากริมหาดชีเวนิงเกน
First Dutch hotel suites over sea on the Dutch coast offer a stunning view of the North Sea.
ปลายสุดเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทะเล
ปลายสุดเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทะเล
ทรายที่นี่ไม่ขาวละเอียดเหมือนบ้านเรา แต่สะอาดดีค่ะ
Scheveningen is the most-visited beach resort in Holland. Its Pier is surrounded by a host of other attractions, such as SEA LIFE, Museum Sculptures at the Sea, the Circustheater and Holland Casino.
ชายหาดชีเวนนิงเกน อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเฮกเชื่อมติดกับทะเลเหนือ
เป็นสถานที่พักตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของเนเธอร์แลนด์
เดินขึ้นไปชมวิวด้านบนกันค่ะ ด้านหลังคือโรงแรม Kurhaus มีขนาดใหญ่มากตั้งอยู่ริมชายหาด
สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1885 ด้านในเป็นโรงแรมห้าดาว สปา คาสิโน มีการตกแต่งอย่างหรูหรา
ชายหาดมีความยาวประมาณ 2.4 ก.ม.
ด้านบนนี้ลมแรงมาก
Ferris wheel on the Pier
It is over 40 meters high and has 36 closed gondolas with air conditioning, including one luxury VIP gondola with a glass bottom. From the Ferris wheel visitors have a panoramic view of the sea,
the beach and The Hague's skyline.a ride on the Ferris wheel lasts 20 minutes.
Prices are
7 Euro for children under twelve
9 Euro for adults
24 Euro for families
55 Euro for the VIP gondola
ชิงช้าสวรรค์มีความสูงมากกว่า 40 เมตร และมีกอนโดลา 36 ตู้ (ตู้ VIP 1 ตู้ พื้นเป็นกระจก)
Zipline at the Pier
Visitors can zip line down the 55 meter high Bungy Tower on the Pier reaching a speed of 60-80 kilometres per hour. The total distance is 350 meters. The Zipline is suited for daredevils of all ages, but you have to weigh at least 1 kg. Zipping can be done alone, but it is also possible to do it with two people at the same time. In Spring, the Zipline is opened during the weekends and holidays from 11.00-20.00 hours. From April till September the Zipline is opened seven days a week.
Bungy Tower หอคอยด้านหลังคือที่ทำกิจกรรมผาดโผนให้นักท่องเที่ยวโหนสลิงโรยตัวข้ามทะเล
ลงมาด้านล่างด้วยความเร็ว 60-80 กม./ชม.เป็นระยะทาง 350 เมตร
Bungy Tower หอคอยด้านหลังคือที่ทำกิจกรรมผาดโผนให้นักท่องเที่ยวโหนสลิงโรยตัวข้ามทะเล
ลงมาด้านล่างด้วยความเร็ว 60-80 กม./ชม.เป็นระยะทาง 350 เมตร
ชายหาดชีเวนิงเกนในช่วงหน้าร้อนจะมีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำ อาบแดด และเล่นกีฬาทางน้ำกันมาก
ในวันปีใหม่ของทุกปีจะมีการจัดงาน New Year's Dive ที่ชายหาดนี้ด้วยค่ะ
พวกเราไม่ได้เดินไปจนสุดทางเพราะอากาศหนาวมาก ลมก็แรงจนคุณป๋าต้องมานั่งหลบลมค่ะ
The Pier offers shops, restaurants a picnic area and sun decks..
บนทางเดินนี้มีร้านอาหารเล็กๆและที่นั่งอาบแดดหลายร้านเลยค่ะ
ลงมาด้านล่างกันค่ะ
เดินเล่นสักพักก็ได้เวลากลับกันแล้วค่ะ
เดินย้อนกลับไปที่ป้าย Kurhaus แล้วนั่งรถรางสาย 9 เพื่อไปสถานีรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เวลา 18:00 น.ออกจาก Den Haag Centraal Station เดินทางกลับอัมสเตอร์ดัมใช้เวลาประมาณ 50 นาที
เวลา 19:00 น.มาถึง Amsterdam Centraal Station ไปหาอาหารเย็นทานกันค่ะ
เดินไปฝั่ง Chinatown Amsterdam
ตอนแรกคุณป๋าวางแผนว่าจะทานอาหารเย็นที่ร้านนี้ แต่คนรอคิวเยอะมากเลยไปหาร้านอื่นกันค่ะ
ย่านนี้มีร้านอาหารให้เลือกมากมายเลยค่ะ
Buddhist temple Fo Guang Shan
สรุปทานที่ร้าน Eat Mode Asian Restaurant
ข้าวผัดกุ้ง
ข้าวผัดไก่
ราเมนหมู
อาหารอร่อยถูกปากดีค่ะ
ทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นกันต่อค่ะ
ตอนนี้ประมาณสองทุ่มแล้ว ยังไม่มืดค่ะ
คืนนี้พวกเราจะพักที่อัมสเตอร์ดัมเป็นคืนสุดท้าย เลยขอเดินเล่นชมเมืองกันอีกสักรอบ
เวลา 21:00 น.เดินทางกลับที่พักค่ะ พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะเดินทางไปเบลเยี่ยมกัน