เวลา 15:00 น. หลังจากพักผ่อนที่โรงแรมจนหายเหนื่อยก็ออกเดินทางไปหมู่บ้านกังหันลมซานเซ สคันส์ ที่เมือง Zaandam กันค่ะ นั่งรถไฟจาก Amsterdam Sloterdijk station ไปลงที่ Zaandijk Zaanse Schans station ใช้เวลาแค่ 12 นาที ก็มาถึงหมู่บ้านแล้วค่ะ ออกจากสถานีก็เดินต่ออีกประมาณ 800 เมตร
เดินตรงไปตามถนน Stationsstraat ที่อยู่ด้านหน้าสถานี
เมืองนี้เงียบสงบ อากาศดีมากค่ะ สองข้างทางไม่มีคนเลย
ด้านหลังคือโรงงาน ควันที่ลอยออกมามีกลิ่นกาแฟฟุ้งไปทั่วบริเวณ
เดินมาจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายจะเห็นป้ายแผนที่หมู่บ้าน
Cocoa Museum
เห็นกังหันลมหลังแรกอยู่ไม่ไกลค่ะ
สวนหน้าบ้านตกแต่งน่ารัก
กังหันลมหลังที่ 1
Mill De Bleeke Dood ( The Pale Death) : Flour Mill since 1656
กังหันลมอายุ 300 กว่าปี ตอนแรกเป็นโรงไม้ต่อมาใช้เป็นโรงโม่แป้งสาลี
ปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมจนสวยงาม
The Mill was renovated in 2001.
เลี้ยวขวาไปตามป้ายเพื่อขึ้นสะพาน
สวนหย่อมริมน้ำ ด้านหลังคือที่พักและร้านอาหาร
Zaan river
Julianabrug Zaandijk
สะพานข้ามแม่น้ำตรงไปถึงหมู่บ้าน
วิวบนสะพานสวยมากค่ะ
มองเห็นวิวมุมกว้างของกังหันลมและบ้านสีสวยริมน้ำ
ร้านอาหารริมน้ำ
วันนี้ฝนตกปรอยๆตลอด ท้องฟ้ามีเมฆครึ้ม ภาพเลยดูมืดนิดค่ะ
บ้านไม้สไตล์ดัทช์โทนเขียว น้ำตาล ตัดขอบสีขาวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ถ่ายรูปกันตรงกลางสะพานจนเพลิน
กังหันลมในหมู่บ้านนี้ มีทั้งหมด 9 หลัง
กังหันลมเก่าแก่ตั้งเรียงรายริมฝั่งแม่น้ำซาน
เชิงสะพานทางฝั่งขวามือมีกังหันลมอีกหลัง
เดินลงสะพานทางซ้ายมือ มีทางเดินชมวิวริมน้ำ
สวนหย่อมริมน้ำ
มุมนี้สวยมากค่ะ
เดินลอดใต้สะพานไปอีกฝั่ง
ไปชมกังหันลมหลังที่ 2
De Ooievaar
Oil Mill built in 1622
โรงสีน้ำมัน ได้รับการซ่อมแซมหลายครั้งปัจจุบันยังเปิดใช้งานอยู่
เรือนำเที่ยวชมกังหันลม
เดินลอดใต้สะพานกลับไปที่หมู่บ้าน
ร้านขายของที่ระลึก
บ้านไม้สีเขียวสไตล์ดัทช์
Museum Zaanse Tijd, the museum of the Dutch timepiece.
The Museum of the Dutch Clock
ด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ หน้าจั่วตกแต่งสวยมาก
ค่าเข้าชมคนละ 10 Euro.
พิพิธภัณฑ์นาฬิกาดัทช์
ฝั่งตรงข้ามเป็นคลองเล็กๆ มีบ้านสวยๆหลายหลัง
บ้านสีเขียว สะพานก็สีเขียว
Zaanse Schans is a beautiful town, known as an outdoor museum. Altogether, there are 35 houses, windmills, barns and museums that date back to the 18th and 19th century style.
In the town, there are 4 museums that operate and display the true history of the Netherlands.
บ้านแต่ละหลังมีการตกแต่งหน้าจั่วแตกต่างกัน
Albert Heijn Museum Shop
ประวัติและความเป็นมาซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังของเนเธอร์แลนด์
The biggest supermarket in Amsterdam.
The Albert Heijn Museum Shop brings to life a typical 19th century grocery store that was home to the famous Albert Heijn. The shop is constructed from two different buildings
and is a perfect example of how timed grocery stores once looked.
จำลองบรรยากาศร้านค้าของซุปเปอร์มาร์เก็ต Albert Heijn ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้เข้าชมฟรี
ร้านอาหาร
เดินชมบ้านสวยๆทั้งสองข้างทาง
ประตูทางเข้าหรูหรามาก
Miffy กระต่ายน้อยต้นกำเนิดจากเนเธอร์แลนด์
ตรงนี้คือท่าเรือนำเที่ยว มีตู้ขายตั๋วอยู่ด้านหลัง
กังหันลมสีเขียวทรงแปดเหลี่ยม
เข้าไปชมด้านในกันค่ะ
Indie's Welvaren Spice Warehouse.
De Huisman is a small octagonal mill at the Zaanse Schans and currently makes mustard.
เข้าชมฟรีค่ะ เงินที่ช่วยอุดหนุนสินค้าจะนำมาบำรุงรักษากังหันลมต่อไป
ชมวีดีโอ ประวัติและการทำงานของกังหันลม
De Huisman has been located on the Zaanse Schans since 1955.The mill was probably built in 1786 on the Blauwe Pad (Blue Path, now Claude Monet street) in Zaandam.
The mill has functioned as a snuff mill (milling tobacco), a mustard mill, and a saw mill.
กังหันลมหลังนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านมาตั้งแต่ ค.ศ.1955 แต่สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่ ค.ศ.1786
At the Zaanse Schans, the mill was converted again into a mustard mill, though it mills the mustard seeds in a modern, not wind-operated way. There are advanced plans for the mill to be restored to
a traditional mustard mill, and to give the public the opportunity to visit the mill.
ปัจจุบันกังหันนี้ใช้งานในการผลิตมัสตาร์ท และเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมการทำงานได้
This mill interior will offer you a wide selection of bio spices. From shaking of a working mill, sound of rustling bags, aroma of freshly ground cloves.
Experience the awesome display of technology from a couple of hundred years ago
that will show you how abundant power source and wind energy are being transformed into kinetic for their land reclaim projects
เดินชมการทำงานกลไกของล้อและเพลาที่หมุนทำงานตลอดเวลา
โครงสร้างหลักในนี้เป็นไม้เกือบหมด ดูแข็งแรงมากค่ะ
จากมุมนี้มองเห็นกังหันลมอีก 4 หลัง ตั้งเรียงอยู่ริมน้ำ
เครื่องเทศเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ จึงต้องมีการผลิตโดยใช้เครื่องทุ่นแรง
เส้นทางการเดินเรือ เพื่อส่งออกสินค้า
ถังไม้บรรจุเครื่องเทศชนิดต่างๆ
Souvenirs shop
อาคารกังหันลมทำด้วยไม้ทั้งหลัง
ซื้อของที่ระลึกเสร็จก็ออกมาเดินเล่นด้านนอก
บ้านไม้สีเขียวล้อมรอบด้วยคลอง
ในอดีตบริเวณนี้เป็นย่านอุตสาหกรรมที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์
มีกังหันลมประมาณ 900 หลัง เพื่อทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้โรงงานอุตสาหรรม
หงส์ขาวหาอาหารในน้ำที่เย็นจัดเพียงลำพัง
บ้านไม้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ
ปัจจุบันเหลือกังหันลมที่อนุรักษ์ไว้ 9 หลัง
กังหันลมบางหลังต้องเสียค่าเข้าชม
อาคารไม้สีดำคือ Zaans Gedaan Cacaolab (Workshop and Shop)
เป็นร้านผลิตและขายช็อคโกแลต วันนี้ปิดค่ะ (King's Day)
ห้องน้ำสวยเหมือนบ้านเลย55)
แม่เป็ดยืนเฝ้าลูกๆเล่นน้ำ
The Gekroonde Poelenburg is the name of the wood saw - paltrokmolen
transferred to the Zaanse Schans in 1964
กังหันลมสีเขียว คือโรงเลื่อยไม้
De Kat is the only remaining working windmill in the world which makes paint.
กังหันลมทางขวามือ ใช้ผลิตสี(เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลก)
Catharina Hoeve (Cheese farm)
Demonstration of cheese-making.
De Haal (อดีตโรงนาฟาง)เข้าไปชมการผลิตชีสด้านในค่ะ มีชีสหลายชนิดให้ลองชิมและจำหน่าย
Henri Willig cheese: from Gouda to goat and herb cheeses.
ฟาร์มเล็กๆด้านหลัง เลี้ยงเป็ด ไก่ และแพะ
กังหันโม่แป้ง
Wevershuis
บ้านสีเขียวด้านหลังคือโรงทอผ้า
Kooijman Wooden Shoe Workshop
ด้านในคือแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับรองเท้าไม้ที่มีชื่อเสียงมากของเนเธอร์แลนด์ เข้าชมฟรีค่ะ
The Wooden Shoe Workshop was the first company to be set up at the Zaanse Schans.
One of the Netherlands’s biggest and best clog collections at clog museum in Zaanse Schans.
พิพิธภัณฑ์รองเท้าไม้
The oldest clog that has ever been found in the Netherlands has been dated by universities to around 1250 AD.
จัดแสดงประวัติความเป็นมาของรองเท้าไม้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
clog-making demonstrations.
ชมการผลิตรองเท้าไม้
1.The machine traces the shape of a model clog.
เลือกขนาดไม้ให้พอดีกับขนาดรองเท้า
2.The system is more or less identical to the copying of keys. Based on the model shoe, a block of wood is copied into a clog shape using quickly revolving knives.
เอาไม้มาใส่ในเครื่องที่มีรองเท้าต้นแบบ เหมือนการปั๊มกุญแจ
เครื่องจะทำการหมุน ตัด ขัด อย่างรวดเร็ว จนได้รองเท้าที่เหมือนต้นแบบเป๊ะ
3.A second machine uses the same technique to trace and cut out the inside of the clog using razor-sharp rotating drills.
4.The frame with the model and the clog tilts so that the drills can get into the nose of the clog and hollow out the inside.
เอารองเท้าที่ได้มาใส่เครื่องตัวที่สอง เพื่อทำการเจาะรูสำหรับสวม
5.The heel and point of the roughly hollowed clog are cut into the correct shape using a paalmes, a special clog-making tool. This is still done by hand.
เสร็จแล้วก็เอาออกมาตัดตกแต่งด้วยมือจนเรียบร้อย สวยงาม
6.The inside and outside of the shoe are made smooth using a grinding belt.
7.In order to be able to work with the wood, it must be made up of approximately 60% water.
ขั้นตอนสุดท้ายต้องเป่าน้ำออกจากรองเท้าไม้ เพราะในไม้นั้นควรจะมีน้ำอยู่ประมาณ 60%
Wooden Clog
The greatest collection clogs and wooden shoes in all colors and shapes.
เลือกลายที่ชอบแล้วลองสวมก่อนซื้อได้ค่ะ
Soft Clog
Wooden Tulip
ซื้อของเสร็จก็ออกมาถ่ายรูปด้านนอกกันค่ะ
มุมมหาชน รูปสุดท้ายก่อนกลับค่ะ
พวกเราไม่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ Zaans Museum ค่ะ เพราะฝนเริ่มตกฟ้ามืด
เวลา 17:30 น.เดินกลับทางเดิม ไปขึ้นรถไฟกลับที่พักค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น