TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2561/12/10

ค่ายบูรณาการทักษะทางคณิตศาสตร์โครงการ SMA ญ.ว. ม.4 ที่เพชรบูรณ์

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561
เวลา 4:30 น.ส่งมะปรางขึ้นรถบัสไปเข้าค่ายที่ จ.เพชรบูรณ์
เวลา 7:30 น.ทานอาหารเช้าเป็นข้าวกล่องบนรถบัส
เวลา 13:00 น.ทานอาหารเที่ยงที่ครัวคุณสาหร่าย จ.ชุมพร
เวลา 20:00 น.ทานอาหารเย็นที่รังสิต จ.ปทุมธานี

เวลา 22:00 น.เดินทางถึงที่พัก The Cavalli Casa Resort จ.อยุธยา

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561
เวลา 8:00 น.ทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินทางไปวัดไชยวัฒนาราม (ตามรอยละครบุพเพสันนิวาส)

วัดไชยวัฒนาราม  ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านตะวันตกของเกาะเมือง

 เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง(สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 5)โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173
ปัจจุบันมีอายุถึง 388 ปี พื้นที่กว้าง 160 เมตร ยาว 310 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก

สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดในวัดวัดไชยวัฒนาราม คือ "พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ" 
ปรางค์ประธานตั้งอยู่โดดเด่นตรงกลางวัด

มีลักษณะเป็นปรางค์จัตรุมุข อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่มุมฐานมีปรางค์ประจำทิศอยู่ทั้ง 4 มุม

ยอดปรางค์เป็นรัดประคดซ้อน 7 ชั้น ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม 
ลักษณะคล้ายกับปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้น

เดิมบริเวณนี้เป็นที่อยู่ที่สุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ของพระราชมารดาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง     
ในช่วงที่ยังไม่เสวยราชสมบัติ เมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แล้วจึงได้โปรดให้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญให้แก่พระราชมารดา

สถาปัตยกรรมของวัดไชยวัฒนาราม จะมีรูปแบบคล้ายกับศิลปะขอม
 คือมีพระปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม
 บางคนบอกว่าพระเจ้าปราสาททองสร้างที่นี่ขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเขมร

เมรุทิศเมรุราย ทรงยอดแหลมตั้งล้อมรอบพระปรางค์อยู่ 8 องค์

"ระเบียงคต" เป็นส่วนที่เชื่อมต่อเมรุทั้ง 4 ทิศเข้าด้วยกัน โดยที่ระเบียงคตนี้จะมีพระพุทธรูปปูนปั้น
ปางมารวิชัยเก่าแก่ตั้งอยู่มากกว่า 100 องค์ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นแบบโบราณอายุหลายร้อยปี 
ปัจจุบันโดนตัดเศียรไปเกือบหมดแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในวัดวัดไชยวัฒนารามอีก เช่น พระอุโบสถ และภาพปูนปั้น

วัดไชยวัฒนาราม ถือว่าเป็นวัดสำคัญของสมัยอยุธยา เป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์หลังจากสมัยของพระเจ้าปราสาททอง และยังเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ หนึ่งในนั้นก็คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือพระมหาธรรมราชา และยังเป็นสถานที่ฝังศพของกวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย คือ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้ากุ้ง) พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและกรมหลวงอภัยนุชิตด้วย


แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านด้านหลังวัด

ฝั่งตรงข้ามคือพระตำหนักสิริยาลัย


วัดไชยวัฒนาราม ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
 ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2534

เดินชมรอบๆวัด

 ค่าธรรมเนียมเข้าเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนาราม 
สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี 
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี

การเข้าเที่ยวชม วัดไชยวัฒนาราม สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น.
 และจะมีการส่องไฟไปยังโบราณสถาน ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นไป

เดินชมจนรอบวัดแล้วก็ออกเดินทางไปลพบุรีต่อค่ะ

เวลา 9:30 น.ออกเดินทางไปลพบุรี

เวลา 12:30 น.เดินทางมาถึงทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี 

อากาศร้อนแดดจัดมาก ดอกทานตะวันเริ่มเหี่ยวแล้วค่ะ



ทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่มากกว่า 1400 ไร่ 

ที่นี่ถือว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่สวยที่สุดของจังหวัดลพบุรี

ตั้งอยู่บริเวณเขาจีนแล ใกล้วัดเวฬุวัน ต.โคกตูม ห่างจาก อ.เมืองลพบุรี 10 กิโลเมตร

เวลา 13:00 น.ออกเดินทางไปเพชรบูรณ์ค่ะ

เวลา  18:00 น. เดินทางถึงที่พัก โรงแรมอิมพีเรียลภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท เพชรบูรณ์

วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2561
เวลา 6:00 น.มะปรางตื่นเช้าออกมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น อุณหภูมิตอนเช้า 18 องศากำลังเย็นสบาย


เวลา 6:30 น.พระอาทิตย์ขึ้นแล้วค่ะ มีต้นไม้บังนิด

เวลา 7:30 น.อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกมาเดินเล่นรอบๆสระว่ายน้ำ



เวลา 8.30 น.ลงทะเบียนและทำกิจกรรมค่ายบูรณาการทักษะทางวิชาการคณิตศาสตร์
 โดยวิทยากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวร

เวลา 16.00 น.เลิกกิจกรรม พักผ่อนตามอัธยาศัย


เวลา 17:00 น.คุณครูพากลุ่มมะปรางนั่งรถสองแถวขึ้นไปภูแก้วพีค

นั่งรถมาสักพักก็มาถึงจุดชมวิวภูแก้วพีคแล้วค่ะ ถ้าเดินขึ้นคงหมดแรงเลยนะคะ

Phukaew Peak เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในพื้นที่รีสอร์ทภูแก้วแอดเวนเจอร์ปาร์ค 

เปิดให้เข้ามาเที่ยวชมได้ตั้งแต่ 6:00-20:00 น.
สำหรับร้าน Phukaew Peak Cafe จะเปิดให้บริการช่วงเช้าและช่วงเย็น

Phukaew Peak


ภูแก้วพีค เป็นจุดที่สามารถชมวิวได้ 180 องศา 

Spider Man


ภาพประกอบ

บนนี้มีจุดชมวิวสวยๆล้อมรอบด้วยดอกไม้ให้ถ่ายรูปได้หลายมุม 


รังนกนี้อยู่ค่อนข้างสูง แต่มะปรางไม่กลัวเพราะอยากถ่ายรูปมากกว่าค่ะ

เห็นแล้วกลัวหล่นจังเลย


sky walk ทำเป็นรูปมือ ยื่นออกไปให้เดินเล่นและถ่ายรูป




มองลงไปเห็นโรงแรมที่พักอยู่ด้านล่าง

มองวิวได้ไกลสุดตาเลยค่ะ

ทางขึ้นภูแก้วพีคค่อนข้างชัน ต้องใช้บริการรถรับส่งของภูแก้วรีสอร์ท 

มุมโปรดของมะปราง


สนุกมากๆ แกว่งชิงช้าแต่ละทีเหมือนจะหลุดจากยอดเขาเลยค่ะ




Phukaew Peak Cafe Khao Kho จุดชมวิวภูแก้วพีคคาเฟ่เขาค้อ
 เป็นร้านกาแฟและจุดชมวิวที่อยู่สูงสุดในพื้นที่ภูแก้วรีสอร์ทแอนด์แอดเวนเจอร์ปาร์ค



เด็กๆถ่ายรูปกันแบบสนุกสนานมากเพราะอากาศดีไม่มีแดดแล้ว

ยิ่งสูงยิ่งลมแรง



พอเริ่มมืดก็เริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ



เวลา 18:00 น.ยืนรอชมพระอาทิตย์ตก แต่กลัวจะมืดเกินคุณครูเลยให้กลับกันค่ะ

นั่งรถสองแถวกลับที่พัก

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2561
เวลา 7:30 น.เดินทางออกจากที่พักขึ้นไปเที่ยวเขาค้อ ใช้บริการรถสองแถวเพราะรถบัสขึ้นเขาไม่สะดวก คุณครูตามไปดูแลเด็กๆแต่ละคันด้วยค่ะ


รถสองแถวขับตามกันไปสิบกว่าคัน


เวลา 8:00 น.เดินทางถึงจุดชมวิวทะเลหมอก เขาค้อ ระยะทางจากที่พักประมาณ 20 กม.

จุดชมทะเลหมอกเขาค้อ

ทะเลหมอกมีให้ชมมากในช่วงปลายฝนต้นหนาวและฤดูหนาว โดยเฉพาะวันที่มีสภาพอากาศโปร่งท้องฟ้าสดใสจะได้เห็นภาพทะเลหมอกสีขาวที่ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าใส  

เขาค้อ คือ จุดหมายปลายทางหลักในการท่องเที่ยวที่ใครหลายคนสามารถมาเที่ยวได้อย่างง่ายดาย  มาเขาค้อต้องมาชมทะเลหมอก

เขาค้อ เป็นชื่อเรียกรวมบริเวณเทือกเขาน้อยใหญ่ของเทือกเขาเพชรบูรณ์ เหมือนเป็นทะเลภูเขา 
เช่น เขาค้อ เขาย่า เขาใหญ่ เขาตะเคียนโง๊ะ เขาหินตั้งบาตร เขาห้วยทราย เขาอุ้มแพร เป็นต้น

วันนี้มาถึงสายแดดจัดไม่เห็นทะเลหมอกแล้วค่ะ

โลเคชั่นในการชมทะเลหมอกส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำรัตนัย

บนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่พักและร้านอาหารหลายแห่ง


มีดอกไม้เมืองหนาวปลูกประดับอยู่ตลอดแนวลานชมวิว

ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็ขึ้นรถสองแถวเดินทางไปไหว้พระที่วัดใกล้ๆขึ้นไปทางเหนืออีกประมาณ 2 กม.

เวลา 8:30 น.เดินทางถึงพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก
ตั้งอยู่บนยอดเขาค้อ ติดกับสำนักสงฆ์วิชมัยบุญญาราม ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
จากประเทศศรีลังกา ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 


เด็กๆเข้าไปไหว้พระด้านในเจดีย์

จุดเทียนใส่จานเป็นพุทธบูชา





ชาวเพชรบูรณ์ร่วมกันสร้างเจดีย์นี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 
และเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ

คนที่มาเที่ยวเขาค้อมักแวะมาสักการะพระพุทธรูปภายในเจดีย์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว


เด็กน้อยชาวเขามาเดินขายเครื่องประดับให้พี่ๆ

ไหว้พระและทำบุญเสร็จก็เดินทางขึ้นเหนือเพื่อไป "แทนรัก ทะเลหมอกรีสอร์ท"
 ระยะทางประมาณ 3 กม.


เวลา 9:00 น. เดินทางมาถึง แทนรัก ทะเลหมอกรีสอร์ท


บริเวณลานจอดรถมีของที่ระลึกขายมากมาย


ที่นี่เป็นรีสอร์ทมีวิวสวยงาม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปเดินเล่นได้ฟรีค่ะ


พวกเรารักกัน


วิวสวยฟ้าใส

รูปคู่กับคุณครู

ดอกไม้สวย






มุมถ่ายรูปเยอะมากค่ะ

แทนรัก ทะเลหมอก


รูปหมู่หลายๆรูป

วิวด้านล่างก็สวย สดชื่น

❤️

รูปหมู่กับคุณครู




เวลา 9:30 น.เดินทางขึ้นเหนือไปอีก ประมาณ 10 กม.เส้นทางคดเคี้ยว ลมก็แรง 
มะปรางบอกว่าผมฟูกระเซิงหมดเพราะนั่งด้านหลังกระบะ

เวลา 10:00 น.เดินทางมาถึงทุ่งกังหันลมเขาค้อ

บริเวณแคมป์สนจะสามารถมองเห็นกำหันลมโดดเด่นเป็นแนวยาว


จุดชมวิวกังหันลมเขาค้อ

 ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ  อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์   


ทุ่งกังหันลมนี้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเขาค้อที่สวยงามมาก


เสาแต่ละต้นสูงประมาณ 100 เมตร ใบพัดยาว 40 เมตร มีจำนวน 24 ต้น



โครงการทุ่งกังหันลมนี้มีเนื้อที่ 350 ไร่  อยู่บนเนินเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร 
 จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล

ลานเด็กเล่น

ด้านบนมีร้านค้า ร้านของฝากและร้านอาหาร

เวลา 10:30 น.เดินทางลงจากเขา



ผ่านเนินเขาสูงๆต่ำๆ

เดินทางขึ้นเหนือไปอีกประมาณ 30 กม.

เวลา 11:00 น เดินทางถึง Pino Latte Resort and Cafe


ระเบียงชมวิวด้านนอกร้านกาแฟ


นั่งหลบแดดชมวิว

ด้านนอกร้อนมากค่ะ


จุดชมวิวบริเวณร้านกาแฟ Pino Latte สามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วด้วยค่ะ 


รีสอร์ทอยู่ด้านล่างบริเวณริมหน้าผา




เวลา 11:30 น. เดินทางลงมายัง "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว"


วัดตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 
ท่ามกลางภูเขาสูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงราย

อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ 
พระพุทธรูปสีขาวซ้อนกัน 5 องค์ มีความใหญ่โตโดดเด่นงดงามมาก 


เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต
สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเป็นที่สืบพระศาสนาให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย
 เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ และคนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไป 


คำว่าผาซ่อนแก้ว เป็นชื่อยอดเขาที่ได้มาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านซึ่งมองเห็นลูกแก้วลอยลงมาจากฟ้าก่อนจะลับหายไปบริเวณถ้ำที่ยอดเขากลายเป็นความเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จลงมาและต่อมาก็เป็นที่ตั้งของ "พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว" ก่อนจะเปลี่ยนเป็น "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว"ในปัจจุบัน


บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และบริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน, ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป


เจดีย์มีสีสันสดใสเกิดจากการนำกระเบื้องสี,ถ้วยชามเบญจรงค์,มุก,ลูกปัด,แก้วแหวนเงินทอง
 สิ่งมีค่าต่างๆ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่งเป็นลวดลายที่สวยงาม
 เมื่อยามต้องแสงแดดทั่วทั้งอาณาบริเวณจะสะท้อนประกายงดงามราวกับวัดบนสรวงสวรรค์

บริเวณพื้นด้านหน้าเจดีย์ก็สวยงามมากค่ะ


เข้าไปชมด้านในเจดีย์

ระเบียงรอบๆเจดีย์ด้านบน

ตำนานของ"พระพุทธเจ้า 5 พระองค์"
ในสมัยอตีดกาล แม่กาเผือกออกไข่มา 5 ใบ ปรากฏว่าเกิดน้ำท่วมรัง ทำให้ไข่ทั้ง 5 ใบลอยตามน้ำไปและมีสัตว์ 5 ชนิดเก็บเอาไข่ไปฟักเลี้ยง ในภพชาติต่อมาลูกกาเผือกได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ 
1. พระกกุสันโธ ตามนามแม่เลี้ยงเป็นไก่
2. พระโกนาคมโน ตามนามแม่เลี้ยงเป็นนาค
3. พระกัสสโป ตามนามแม่เลี้ยงเป็นเต่า
4. พระโคตโม ตามนามแม่เลี้ยงเป็นโค (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
5. พระศรีอริยเมตไตรโย ตามนามแม่เลี้ยงเป็นราชสีห์ (พระพุทธเจ้าในยุคต่อไป)



ออกเดินทางขึ้นเหนือต่อไปยังภูทับเบิกระยะทางประมาณ 50 กม.


เวลา 14:00 น เดินทางถึงภูทับเบิก


ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ. เพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร 
ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของจังหวัด เพชรบูรณ์ 

ภูทับเบิกเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากเพราะเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542 เวลา 15.59 น. ณ สำนักสงฆ์บ้านทับเบิก เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้าถวายเป็นพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542
 เป็นสถานที่ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย


ภูทับเบิกมีความงามของทะเลภูเขาตามธรรมชาติ ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี 


ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆตัดกับยอดภูสีเขียว ทำให้คนนิยมมาชมทะเลหมอก


แวะซื้อมันเผาทานระหว่างนั่งรถกลับที่พัก

เวลา 17:00 น เดินทางถึงที่พัก

เด็กๆขอเล่นน้ำคลายร้อนหลังจากไปตากแดดกันมาทั้งวัน


วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม 2561
เวลา 6:30 น.ตื่นนอนตอนเช้ามะปรางออกมาเดินเล่นถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น



เวลา 6:50 น.พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า

เวลา 8:30 น.ออกเดินทางกลับ แวะซื้อของฝากจากเพชรบูรณ์
เวลา 13:00 น.แวะทานอาหารเที่ยงที่อยุธยา

เวลา17:30 น.เดินทางถึงตลาดน้ำอัมพวา


มะปรางเคยมาที่นี่แล้วจำทางได้ รีบพาเพื่อนๆขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานไม้ข้ามคลองอัมพวา

ตลาดน้ำเย็นวันศุกร์คนไม่หนาแน่นมากเหมือนวันเสาร์ อาทิตย์

ไม่ต้องเดินเล่นมาก จัดการสั่งอาหารทานกับเพื่อนๆเลยค่ะ


สั่งอาหารจากในเรือมานั่งทานด้านบน

อาหารเต็มโต๊ะเลยค่ะ เด็กกำลังโตต้องทานเยอะๆ

อาหารทะเลสด อร่อย ไม่แพง



กุ้งแม่น้ำตัวโต



ทานกันจนหมดเรียบ อิ่มสบายท้อง

ตบท้ายด้วยของหวาน ไอศกรีม

กว่าจะทานอาหารเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว



เรือนำชมหิ่งห้อย


เดินเล่นถ่ายรูปริมคลอง


วันนี้เดินสบายคนไม่เยอะ


ปลาทูแม่กลอง



แวะซื้อของฝาก




เวลา 20:00 น.เดินทางถึงที่พัก "เดอะเกรซอัมพวา"

เวลา 23:00 น.มะปรางดูข่าวว่าคืนนี้จะมีดาวตกเลยมานอนรอดูดาวตกกันกับเพื่อนๆ
ท้องฟ้าที่นี่ไม่มืดมองเห็นดาวตกไม่กี่ดวง ถ่ายรูปไม่ติดค่ะ แยกย้ายกันกลับห้องตอนตีสอง

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2561
เวลา 8:00 น.เดินทางกลับบ้าน
เวลา 22:00 น.เดินทางถึงหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น