เวลา 4:30 น.ส่งมะปรางขึ้นรถบัสไปเข้าค่ายที่ จ.เพชรบูรณ์
เวลา 7:30 น.ทานอาหารเช้าเป็นข้าวกล่องบนรถบัส
เวลา 13:00 น.ทานอาหารเที่ยงที่ครัวคุณสาหร่าย จ.ชุมพร
เวลา 20:00 น.ทานอาหารเย็นที่รังสิต จ.ปทุมธานี
เวลา 22:00 น.เดินทางถึงที่พัก The Cavalli Casa Resort จ.อยุธยา
วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561
เวลา 8:00 น.ทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินทางไปวัดไชยวัฒนาราม (ตามรอยละครบุพเพสันนิวาส)
วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านตะวันตกของเกาะเมือง
เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง(สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 5)โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173
ปัจจุบันมีอายุถึง 388 ปี พื้นที่กว้าง 160 เมตร ยาว 310 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดในวัดวัดไชยวัฒนาราม คือ "พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ"
ปรางค์ประธานตั้งอยู่โดดเด่นตรงกลางวัด
มีลักษณะเป็นปรางค์จัตรุมุข อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่มุมฐานมีปรางค์ประจำทิศอยู่ทั้ง 4 มุม
ยอดปรางค์เป็นรัดประคดซ้อน 7 ชั้น ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม
ลักษณะคล้ายกับปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้น
ลักษณะคล้ายกับปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้น
เดิมบริเวณนี้เป็นที่อยู่ที่สุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ของพระราชมารดาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
ในช่วงที่ยังไม่เสวยราชสมบัติ เมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แล้วจึงได้โปรดให้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญให้แก่พระราชมารดา
ในช่วงที่ยังไม่เสวยราชสมบัติ เมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แล้วจึงได้โปรดให้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญให้แก่พระราชมารดา
สถาปัตยกรรมของวัดไชยวัฒนาราม จะมีรูปแบบคล้ายกับศิลปะขอม
คือมีพระปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม
บางคนบอกว่าพระเจ้าปราสาททองสร้างที่นี่ขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเขมร
คือมีพระปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม
บางคนบอกว่าพระเจ้าปราสาททองสร้างที่นี่ขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเขมร
เมรุทิศเมรุราย ทรงยอดแหลมตั้งล้อมรอบพระปรางค์อยู่ 8 องค์
"ระเบียงคต" เป็นส่วนที่เชื่อมต่อเมรุทั้ง 4 ทิศเข้าด้วยกัน โดยที่ระเบียงคตนี้จะมีพระพุทธรูปปูนปั้น
ปางมารวิชัยเก่าแก่ตั้งอยู่มากกว่า 100 องค์ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นแบบโบราณอายุหลายร้อยปี
ปัจจุบันโดนตัดเศียรไปเกือบหมดแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในวัดวัดไชยวัฒนารามอีก เช่น พระอุโบสถ และภาพปูนปั้น
วัดไชยวัฒนาราม ถือว่าเป็นวัดสำคัญของสมัยอยุธยา เป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์หลังจากสมัยของพระเจ้าปราสาททอง และยังเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ หนึ่งในนั้นก็คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือพระมหาธรรมราชา และยังเป็นสถานที่ฝังศพของกวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย คือ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้ากุ้ง) พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและกรมหลวงอภัยนุชิตด้วย
แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านด้านหลังวัด
ฝั่งตรงข้ามคือพระตำหนักสิริยาลัย
วัดไชยวัฒนาราม ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2534
เดินชมรอบๆวัด
ค่าธรรมเนียมเข้าเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนาราม
สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี
การเข้าเที่ยวชม วัดไชยวัฒนาราม สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น.
และจะมีการส่องไฟไปยังโบราณสถาน ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นไป
และจะมีการส่องไฟไปยังโบราณสถาน ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นไป
เดินชมจนรอบวัดแล้วก็ออกเดินทางไปลพบุรีต่อค่ะ
เวลา 9:30 น.ออกเดินทางไปลพบุรี
เวลา 12:30 น.เดินทางมาถึงทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี
อากาศร้อนแดดจัดมาก ดอกทานตะวันเริ่มเหี่ยวแล้วค่ะ
ทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่มากกว่า 1400 ไร่
ที่นี่ถือว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่สวยที่สุดของจังหวัดลพบุรี
ตั้งอยู่บริเวณเขาจีนแล ใกล้วัดเวฬุวัน ต.โคกตูม ห่างจาก อ.เมืองลพบุรี 10 กิโลเมตร
เวลา 13:00 น.ออกเดินทางไปเพชรบูรณ์ค่ะ
เวลา 18:00 น. เดินทางถึงที่พัก โรงแรมอิมพีเรียลภูแก้ว ฮิลล์ รีสอร์ท เพชรบูรณ์
วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2561
เวลา 6:00 น.มะปรางตื่นเช้าออกมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น อุณหภูมิตอนเช้า 18 องศากำลังเย็นสบาย
เวลา 6:30 น.พระอาทิตย์ขึ้นแล้วค่ะ มีต้นไม้บังนิด
เวลา 7:30 น.อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกมาเดินเล่นรอบๆสระว่ายน้ำ
เวลา 8.30 น.ลงทะเบียนและทำกิจกรรมค่ายบูรณาการทักษะทางวิชาการคณิตศาสตร์
โดยวิทยากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวร
เวลา 17:00 น.คุณครูพากลุ่มมะปรางนั่งรถสองแถวขึ้นไปภูแก้วพีค
นั่งรถมาสักพักก็มาถึงจุดชมวิวภูแก้วพีคแล้วค่ะ ถ้าเดินขึ้นคงหมดแรงเลยนะคะ
Phukaew Peak เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในพื้นที่รีสอร์ทภูแก้วแอดเวนเจอร์ปาร์ค
เปิดให้เข้ามาเที่ยวชมได้ตั้งแต่ 6:00-20:00 น.
สำหรับร้าน Phukaew Peak Cafe จะเปิดให้บริการช่วงเช้าและช่วงเย็น
Phukaew Peak
ภูแก้วพีค เป็นจุดที่สามารถชมวิวได้ 180 องศา
Spider Man
ภาพประกอบ
บนนี้มีจุดชมวิวสวยๆล้อมรอบด้วยดอกไม้ให้ถ่ายรูปได้หลายมุม
รังนกนี้อยู่ค่อนข้างสูง แต่มะปรางไม่กลัวเพราะอยากถ่ายรูปมากกว่าค่ะ
เห็นแล้วกลัวหล่นจังเลย
sky walk ทำเป็นรูปมือ ยื่นออกไปให้เดินเล่นและถ่ายรูป
มองลงไปเห็นโรงแรมที่พักอยู่ด้านล่าง
มองวิวได้ไกลสุดตาเลยค่ะ
ทางขึ้นภูแก้วพีคค่อนข้างชัน ต้องใช้บริการรถรับส่งของภูแก้วรีสอร์ท
มุมโปรดของมะปราง
สนุกมากๆ แกว่งชิงช้าแต่ละทีเหมือนจะหลุดจากยอดเขาเลยค่ะ
Phukaew Peak Cafe Khao Kho จุดชมวิวภูแก้วพีคคาเฟ่เขาค้อ
เป็นร้านกาแฟและจุดชมวิวที่อยู่สูงสุดในพื้นที่ภูแก้วรีสอร์ทแอนด์แอดเวนเจอร์ปาร์ค
เด็กๆถ่ายรูปกันแบบสนุกสนานมากเพราะอากาศดีไม่มีแดดแล้ว
ยิ่งสูงยิ่งลมแรง
พอเริ่มมืดก็เริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ
เวลา 18:00 น.ยืนรอชมพระอาทิตย์ตก แต่กลัวจะมืดเกินคุณครูเลยให้กลับกันค่ะ
นั่งรถสองแถวกลับที่พัก
วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2561
เวลา 7:30 น.เดินทางออกจากที่พักขึ้นไปเที่ยวเขาค้อ ใช้บริการรถสองแถวเพราะรถบัสขึ้นเขาไม่สะดวก คุณครูตามไปดูแลเด็กๆแต่ละคันด้วยค่ะ
รถสองแถวขับตามกันไปสิบกว่าคัน
เวลา 8:00 น.เดินทางถึงจุดชมวิวทะเลหมอก เขาค้อ ระยะทางจากที่พักประมาณ 20 กม.
จุดชมทะเลหมอกเขาค้อ
ทะเลหมอกมีให้ชมมากในช่วงปลายฝนต้นหนาวและฤดูหนาว โดยเฉพาะวันที่มีสภาพอากาศโปร่งท้องฟ้าสดใสจะได้เห็นภาพทะเลหมอกสีขาวที่ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าใส
เขาค้อ คือ จุดหมายปลายทางหลักในการท่องเที่ยวที่ใครหลายคนสามารถมาเที่ยวได้อย่างง่ายดาย มาเขาค้อต้องมาชมทะเลหมอก
เขาค้อ เป็นชื่อเรียกรวมบริเวณเทือกเขาน้อยใหญ่ของเทือกเขาเพชรบูรณ์ เหมือนเป็นทะเลภูเขา
เช่น เขาค้อ เขาย่า เขาใหญ่ เขาตะเคียนโง๊ะ เขาหินตั้งบาตร เขาห้วยทราย เขาอุ้มแพร เป็นต้น
วันนี้มาถึงสายแดดจัดไม่เห็นทะเลหมอกแล้วค่ะ
โลเคชั่นในการชมทะเลหมอกส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำรัตนัย
บนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่พักและร้านอาหารหลายแห่ง
มีดอกไม้เมืองหนาวปลูกประดับอยู่ตลอดแนวลานชมวิว
ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็ขึ้นรถสองแถวเดินทางไปไหว้พระที่วัดใกล้ๆขึ้นไปทางเหนืออีกประมาณ 2 กม.
ตั้งอยู่บนยอดเขาค้อ ติดกับสำนักสงฆ์วิชมัยบุญญาราม ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
จากประเทศศรีลังกา ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เด็กๆเข้าไปไหว้พระด้านในเจดีย์
จุดเทียนใส่จานเป็นพุทธบูชา
ชาวเพชรบูรณ์ร่วมกันสร้างเจดีย์นี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539
และเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ
คนที่มาเที่ยวเขาค้อมักแวะมาสักการะพระพุทธรูปภายในเจดีย์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว
เด็กน้อยชาวเขามาเดินขายเครื่องประดับให้พี่ๆ
ไหว้พระและทำบุญเสร็จก็เดินทางขึ้นเหนือเพื่อไป "แทนรัก ทะเลหมอกรีสอร์ท"
ระยะทางประมาณ 3 กม.
เวลา 9:00 น. เดินทางมาถึง แทนรัก ทะเลหมอกรีสอร์ท
บริเวณลานจอดรถมีของที่ระลึกขายมากมาย
ที่นี่เป็นรีสอร์ทมีวิวสวยงาม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปเดินเล่นได้ฟรีค่ะ
พวกเรารักกัน
วิวสวยฟ้าใส
รูปคู่กับคุณครู
ดอกไม้สวย
มุมถ่ายรูปเยอะมากค่ะ
แทนรัก ทะเลหมอก
รูปหมู่หลายๆรูป
วิวด้านล่างก็สวย สดชื่น
❤️
รูปหมู่กับคุณครู
เวลา 9:30 น.เดินทางขึ้นเหนือไปอีก ประมาณ 10 กม.เส้นทางคดเคี้ยว ลมก็แรง
มะปรางบอกว่าผมฟูกระเซิงหมดเพราะนั่งด้านหลังกระบะ
เวลา 10:00 น.เดินทางมาถึงทุ่งกังหันลมเขาค้อ
บริเวณแคมป์สนจะสามารถมองเห็นกำหันลมโดดเด่นเป็นแนวยาว
จุดชมวิวกังหันลมเขาค้อ
ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ทุ่งกังหันลมนี้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเขาค้อที่สวยงามมาก
เสาแต่ละต้นสูงประมาณ 100 เมตร ใบพัดยาว 40 เมตร มีจำนวน 24 ต้น
โครงการทุ่งกังหันลมนี้มีเนื้อที่ 350 ไร่ อยู่บนเนินเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร
จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล
ลานเด็กเล่น
ด้านบนมีร้านค้า ร้านของฝากและร้านอาหาร
เวลา 10:30 น.เดินทางลงจากเขา
ผ่านเนินเขาสูงๆต่ำๆ
เดินทางขึ้นเหนือไปอีกประมาณ 30 กม.
เวลา 11:00 น เดินทางถึง Pino Latte Resort and Cafe
ระเบียงชมวิวด้านนอกร้านกาแฟ
นั่งหลบแดดชมวิว
ด้านนอกร้อนมากค่ะ
จุดชมวิวบริเวณร้านกาแฟ Pino Latte สามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วด้วยค่ะ
รีสอร์ทอยู่ด้านล่างบริเวณริมหน้าผา
เวลา 11:30 น. เดินทางลงมายัง "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว"
วัดตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
ท่ามกลางภูเขาสูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงราย
อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
พระพุทธรูปสีขาวซ้อนกัน 5 องค์ มีความใหญ่โตโดดเด่นงดงามมาก
เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต
สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเป็นที่สืบพระศาสนาให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย
เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ และคนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไป
สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และเป็นที่สืบพระศาสนาให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย
เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ และคนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไป
คำว่าผาซ่อนแก้ว เป็นชื่อยอดเขาที่ได้มาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านซึ่งมองเห็นลูกแก้วลอยลงมาจากฟ้าก่อนจะลับหายไปบริเวณถ้ำที่ยอดเขากลายเป็นความเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จลงมาและต่อมาก็เป็นที่ตั้งของ "พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว" ก่อนจะเปลี่ยนเป็น "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว"ในปัจจุบัน
บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และบริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน, ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป
เจดีย์มีสีสันสดใสเกิดจากการนำกระเบื้องสี,ถ้วยชามเบญจรงค์,มุก,ลูกปัด,แก้วแหวนเงินทอง
สิ่งมีค่าต่างๆ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่งเป็นลวดลายที่สวยงาม
เมื่อยามต้องแสงแดดทั่วทั้งอาณาบริเวณจะสะท้อนประกายงดงามราวกับวัดบนสรวงสวรรค์
สิ่งมีค่าต่างๆ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่งเป็นลวดลายที่สวยงาม
เมื่อยามต้องแสงแดดทั่วทั้งอาณาบริเวณจะสะท้อนประกายงดงามราวกับวัดบนสรวงสวรรค์
บริเวณพื้นด้านหน้าเจดีย์ก็สวยงามมากค่ะ
เข้าไปชมด้านในเจดีย์
ระเบียงรอบๆเจดีย์ด้านบน
ตำนานของ"พระพุทธเจ้า 5 พระองค์"
ในสมัยอตีดกาล แม่กาเผือกออกไข่มา 5 ใบ ปรากฏว่าเกิดน้ำท่วมรัง ทำให้ไข่ทั้ง 5 ใบลอยตามน้ำไปและมีสัตว์ 5 ชนิดเก็บเอาไข่ไปฟักเลี้ยง ในภพชาติต่อมาลูกกาเผือกได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์
1. พระกกุสันโธ ตามนามแม่เลี้ยงเป็นไก่
2. พระโกนาคมโน ตามนามแม่เลี้ยงเป็นนาค
3. พระกัสสโป ตามนามแม่เลี้ยงเป็นเต่า
4. พระโคตโม ตามนามแม่เลี้ยงเป็นโค (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
5. พระศรีอริยเมตไตรโย ตามนามแม่เลี้ยงเป็นราชสีห์ (พระพุทธเจ้าในยุคต่อไป)
ออกเดินทางขึ้นเหนือต่อไปยังภูทับเบิกระยะทางประมาณ 50 กม.
เวลา 14:00 น เดินทางถึงภูทับเบิก
ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ. เพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร
ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของจังหวัด เพชรบูรณ์
ภูทับเบิกเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากเพราะเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542 เวลา 15.59 น. ณ สำนักสงฆ์บ้านทับเบิก เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้าถวายเป็นพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542
เป็นสถานที่ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ภูทับเบิกมีความงามของทะเลภูเขาตามธรรมชาติ ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี
ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆตัดกับยอดภูสีเขียว ทำให้คนนิยมมาชมทะเลหมอก
แวะซื้อมันเผาทานระหว่างนั่งรถกลับที่พัก
เวลา 17:00 น เดินทางถึงที่พัก
เด็กๆขอเล่นน้ำคลายร้อนหลังจากไปตากแดดกันมาทั้งวัน
วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม 2561
เวลา 6:30 น.ตื่นนอนตอนเช้ามะปรางออกมาเดินเล่นถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น
เวลา 6:50 น.พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า
เวลา 8:30 น.ออกเดินทางกลับ แวะซื้อของฝากจากเพชรบูรณ์
เวลา 13:00 น.แวะทานอาหารเที่ยงที่อยุธยา
เวลา17:30 น.เดินทางถึงตลาดน้ำอัมพวา
มะปรางเคยมาที่นี่แล้วจำทางได้ รีบพาเพื่อนๆขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานไม้ข้ามคลองอัมพวา
ตลาดน้ำเย็นวันศุกร์คนไม่หนาแน่นมากเหมือนวันเสาร์ อาทิตย์
ไม่ต้องเดินเล่นมาก จัดการสั่งอาหารทานกับเพื่อนๆเลยค่ะ
สั่งอาหารจากในเรือมานั่งทานด้านบน
อาหารเต็มโต๊ะเลยค่ะ เด็กกำลังโตต้องทานเยอะๆ
อาหารทะเลสด อร่อย ไม่แพง
กุ้งแม่น้ำตัวโต
ทานกันจนหมดเรียบ อิ่มสบายท้อง
ตบท้ายด้วยของหวาน ไอศกรีม
กว่าจะทานอาหารเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว
เรือนำชมหิ่งห้อย
เดินเล่นถ่ายรูปริมคลอง
วันนี้เดินสบายคนไม่เยอะ
ปลาทูแม่กลอง
แวะซื้อของฝาก
เวลา 20:00 น.เดินทางถึงที่พัก "เดอะเกรซอัมพวา"
เวลา 23:00 น.มะปรางดูข่าวว่าคืนนี้จะมีดาวตกเลยมานอนรอดูดาวตกกันกับเพื่อนๆ
ท้องฟ้าที่นี่ไม่มืดมองเห็นดาวตกไม่กี่ดวง ถ่ายรูปไม่ติดค่ะ แยกย้ายกันกลับห้องตอนตีสอง
วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2561
เวลา 8:00 น.เดินทางกลับบ้าน
เวลา 22:00 น.เดินทางถึงหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น