TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2561/10/01

1.อุทยานฟร็อกเนอร์ สวนวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculture Park)-Oslo

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2561

เวลา 7:30 น.ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม


ทานอาหารเสร็จก็ออกไปเดินเล่นรอบๆโรงแรม

โรงแรมนี้มีจุดเด่นตรงโดมสีเงินขนาดใหญ่เหมือนลูกโลก มองเห็นแต่ไกลเลยค่ะ


เช้านี้อุณหภูมิ 14 องศาเซลเชียส มีแดดอ่อนๆ เย็นสบาย ใส่เสื้อกันหนาวบางๆก็อุ่นแล้วค่ะ


เวลา 8:30 น.ออกเดินทางไปเมืองคาลสตัท (Karlstad)

เวลา 10:30 น.แวะพักรถที่เมือง Arboga ห่างจากสต็อกโฮมประมาณ 150 กม.


ซื้ออาหารว่างและเข้าห้องน้ำในร้านแม็คโดนัลด์



แผนที่ท่องเที่ยวเมือง Arboga

เดินเล่นในสวนเล็กๆ




ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีนิดหน่อย




ออกเดินทางต่อค่ะระยะทางยังอีกยาวไกล วันนี้จุดหมายของเราคือกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ 

เวลา 12:30 น.เดินทางถึงเมือง Karlstad พักทานอาหารเที่ยงในตัวเมือง

คาลสตัทเป็นเมืองเล็กๆอยู่ระหว่างเมืองสต็อคโฮม(สวีเดน) และ เมืองออสโล(นอร์เวย์)

สมอเรือใหญ่




คนในเมืองนิยมใช้จักรยาน

เมืองนี้จะเงียบๆเพราะเป็นเหมือนเมืองผ่านระหว่างสองประเทศ

สถานีรถไฟเมืองคาลสตัท Karlstad Central Railway Station

เวลา 13:30 น.ออกเดินทางไปออสโล


เมืองนี้อยู่ริมทะเลสาบ มองไปด้านข้างเห็นโบสถ์และย่านเมืองเก่า



เวลา 15:00 น.เดินทางมาถึงเมือง Töcksfors ใกล้จุดผ่านแดนระหว่างประเทศ 
แวะพักรถเพื่อเข้าห้องน้ำและซื้อของก่อนค่ะ


ร้านค้าปลอดภาษี มีเสื้อผ้า,ของที่ระลึก และอาหารขาย
เอาเงินสวีเดนที่เหลือมาใช้ให้หมดค่ะ เพราะที่นอร์เวย์ใช้เงินคนละสกุลกัน


ซื้อของเสร็จก็เดินเล่น




เลยไปอีกนิดก็เป็นประเทศนอร์เวย์แล้วค่ะ




เวลา 15:30 น.เดินทางเข้าสู่ประเทศนอร์เวย์ อีกประมาณ 100 กม.ก็จะถึงออสโล

วิวสองข้างทางจะเปลี่ยนไปจากสวีเดน


ทุ่งหญ้าสีเขียวตัดกับบ้านไม้สีแดงน่ารัก


ดินแดนแห่งฟยอร์ด




วัวนมกินหญ้าอย่างสบายใจ


โรงนาขนาดใหญ่


เส้นทางจะขับขึ้นไปทางเหนือ เริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสีมากขึ้น


โบสถ์เล็กๆในป่า


เวลา 17:00 น.เดินทางมาถึงออสโล วันนี้อากาศดี มีแดด ไปชมอุทยานฟรอกเนอร์กันก่อนค่ะ
เดินเข้ามาทางประตูด้านหน้าจะพบกับ Gustav Vigeland Statue
ด้านหลังอนุสาวรีย์คือ Vigeland Visitors' Centre ขายของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม

Frogner Park (Frognerparken)
พวกเราเดินผ่านทางเข้าหมายเลข 1 เข้ามาอยู่ด้านในบริเวณหมายเลข 2 
เดินตรงเข้าไปด้านในสวนวิกเกอร์แลนด์กันเลยค่ะ

วิกเกอร์แลนด์พาร์ค หรือ สวนปฏิมากรรมวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park)
 ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ (Frogner Park) ในเมืองออสโล เข้าชมฟรีทุกวัน

เดินมาถึงสะพานแล้วค่ะ 

The Bridge Zone
สะพานยาว 100 เมตร กว้าง 15 เมตร มีประติมากรรม 58 รูป


 Most of the statues in the park are made of Iddefjord granite.

ทั้งสองฝั่งราวสะพานมีประติมากรรมงานแกะจากหินแกรนิต บางส่วนเป็นงานหล่อด้วยสำริด 


212 sculptures in bronze, granite and wrought iron.

 ผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ (Gustav Vigeland) ปฏิมากรชื่อดังชาวนอร์เวย์
นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์

The unique sculpture park is Gustav Vigeland's lifework.


Permanent sculpture installation created by Gustav Vigeland between 1924 and 1943.

รูปหล่อสำริดอันโด่งดังของสวนนี้ ชื่อ Angry Boy

The Angry Boy (Sinnataggen in Norwegian)

เด็กน้อยเคยโดนขโมยตัดมือซ้ายออกไป เลยต้องทำมามือมาใส่ให้ใหม่ 
คนจึงนิยมไปจับมือเพื่อปลอบใจจนมือข้างซ้ายแวววาว

The Girl ตั้งอยู่ข้างๆกัน


The Vigeland Park is the world's largest sculpture park.



Most of the sculptures are placed in 5 units along an 850 meter long axis.

รูปปั้นในสวนนี้แบ่งเป็น 5 โซน
1.The Main gate
2. The Bridge with the Children's playground
3. The Fountain
4. The Monolith plateau
5. The Wheel of Life.


Dancing Woman

ข้างหน้าคือโซน 3 และ 4


โซนน้ำพุ เต็มไปด้วยสวนดอกไม้สดชื่นมากๆค่ะ

สวนกุหลาบหลากสีหลายพันธุ์ และหอมด้วยค่ะ

ถ้ามาหน้าหนาวจะไม่มีสวนดอกไม้แบบนี้


น้ำพุกลางสวนดอกไม้

มีทางเดินร่มรื่นทางซ้ายมือ


เส้นทางไปพิพิธภัณฑ์ Vigeland Museum and Oslo City Museum เปิดเวลา 11:00-16:00 น.

ตอนนี้พิพิธภัณฑ์ปิดแล้วค่ะ พวกเราเลยเดินเล่นถ่ายรูปในสวน

ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยกว่านี้อีกนะคะ

Frogner Pond 

เดินต่อมายังน้ำพุกลางสวน


The Fountain (Fontenen)

The fountain is surrounded by 20 trees with sculptures. 

 Sculptures show the four stages of life: childhood, adulthood, parenthood and old people. 
The last tree contains a skeleton as a symbol of death.

ประติมากรรมต้นไม้ 20 ต้น มีคนอยู่ตรงลำต้น


รอบๆฐานของน้ำพุก็มีรูปนูนต่ำประดับจำนวนมาก





เนินด้านหลังคือ  The Monolith plateau 

เดินขึ้นไปด้านบนกันต่อค่ะ




ดอกไม้สีสันสดใสประดับอยู่ทุกมุม






เดินขึ้นไปทีละชั้น ยังไม่ถึงชั้นบนสุดค่ะ


มองย้อนกลับไปที่ทางเข้า






มองเห็นยอดโบสถ์อยู่ใกล้ทางเข้า




เดินขึ้นบันไดอีกชั้นก็จะถึงลานด้านบนสุดแล้วค่ะ



ประตูทางเข้าด้านหน้าเป็นเหล็กดัดลวดลายรูปผู้ชาย



The Monolith Plateau is a platform in the north of Frogner Park made of steps 
that houses the Monolith totem itself.

เสาโมโนลิทเป็นรูปแกะสลักชิ้นสำคัญของผู้สร้าง

เสาสูง 14.12 เมตร แต่ถ้ารวมฐานข้างล่างด้วยจะสูง 17.3 เมตร
มีรูปแกะสลักมนุษย์ปีนป่ายทั้งหมด 121 ร่าง 


At the highest point in Frogner Park lies the park's most popular attraction
The Monolith (Monolitten)

The name derives from the Latin word monolithus, 
from the Greek  μονόλιθος (monolithos), μόνος meaning "one" or "single" and λίθος "stone"
mono=one ,lith=stone

เสานี้แกะสลักจากหินแกรนิตเพียงแท่งเดียว



รอบๆเสาก็มีรูปแกะสลักอีก 36 รูป ตั้งอยู่ตามขั้นบันได

ดูใกล้ๆแล้วจะเห็นความละเอียดของงานแกะสลัก

เสานี้ใช้เวลาในการแกะนานถึง 14 ปี




เดินชมรูปรอบๆเสา


ประตูทางออกด้านหลังเป็นเหล็กดัดลวดลายรูปผู้หญิง




โบสถ์ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของสวนคือ Kulturkirken Jakob (St. James Church of Culture)


The park was not completed before Vigeland’s death in 1943. 

เดินออกมายังโซนสุดท้ายของสวน
At the end of the installation's axis there is a sundial, forged in 1930 

นาฬิกาแดด

ที่ฐานเป็นรูป 12 จักรราศี



เดินมาจนสุดทางเดิน


panorama view


 วงล้อแห่งชีวิต
เป็นสัญลักษณ์ของความไม่มีที่สิ้นสุด การเวียนว่าย ตาย เกิด หรือวัฎจักรแห่งธรรมชาติ


 The Wheel of Life (Livshjulet).


Wheel of Life stone sculpture, carved 1933–1934.
The wheel depicts 4 adults, a child and a baby.

The baby and child are on opposite sides.

The main theme in the park is the circle of life.



Gustav Vigeland เสียชีวิตในปี ค.ศ.1943 และเค้าได้นำเอาคำเฉลยปริศนาของสวนนี้เก็บไว้ในแคปซูล
จะเปิดได้หลังจากเค้าตายครบ 100 ปี ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีก 25 ปี พวกเราก็จะได้รู้คำตอบกัน

เวลา 18:30 น.เดินทางเข้ามาทานอาหารเย็นในเมืองออสโล


อาคารสวยทุกหลังเลยค่ะ

มาถึงร้านอาหารแล้วค่ะ

ร้านเล็กๆแต่ด้านในสวยค่ะ

เริ่มด้วยสลัดผัก ปิดท้ายด้วยข้าวไก่ย่างอร่อยดีค่ะ

เวลา 20:00 น.ทานอาหารเสร็จพระอาทิตย์เพิ่งจะตก ฟ้ายังไม่มืดเลยค่ะขอเดินเล่นชมเมืองสักพัก

อาคารสวยเหมือนปราสาท


อากาศเริ่มหนาวมาก เดินไปขึ้นรถบัสเพื่อกลับที่พัก

เวลา 20:30 น.กลับที่พัก อาบน้ำพักผ่อนค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น