เวลา 14:00 น.เข้าสู่เขตออสเตรียแล้วค่ะ ตอนนี้เราเดินทางอยู่บนถนนไฮเวย์ Ost Autobahn
สองข้างทางเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เต็มไปด้วยกังหันลมจำนวนมาก
เวลา 15:00 น.แวะพักทานอาหารว่างและซื้อของที่เอ๊าท์เลทที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย
Designer Outlet Parndorf
เดินเล่นดูของจนเมื่อยแล้วก็แวะทานเครปร้อนๆก่อนค่ะ
Manner เวเฟอร์ชื่อดังของออสเตรีย อร่อยมากๆค่ะ
ช็อปโปรดของมะปราง
เดินเล่นไปกินไปตลอด
Outlet ที่นี่ใหญ่มากๆค่ะ สถานที่กว้างขวางตกแต่งสวยงาม
เวลา 17:00 น.ออกเดินทางต่อไปยังเวียนนา ระยะทางไม่ไกลประมาณ 50 กม.
เวลา 18:00 น.เดินทางมาถึงกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย
ตอนนี้พวกเราอยู่ในย่านเมืองเก่า อาคารรอบๆบริเวณนี้สวยคลาสสิกทุกหลัง
ตอนนี้พวกเราอยู่ในย่านเมืองเก่า อาคารรอบๆบริเวณนี้สวยคลาสสิกทุกหลัง
Operabrunnen : น้ำพุด้านข้างโอเปร่าเฮ้าส์
อุณหภูมิตอนนี้ประมาณ 8 องศา เดินกลางแจ้งจะหนาวมากค่ะ
เดินลัดเลาะใต้อาคารเพื่อทะลุไปถึงถนนหลังโอเปร่าเฮ้าส์
พอข้ามถนน จะพบกับ Cafe Mozart อยู่ทางขวามือ
ตึกหัวมุมด้านหลังคือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว เดินเข้าไปขอแผนที่ฟรีได้เลยค่ะ
บริเวณนี้คือ Albertinaplatz ตรงหัวมุมถนนมีอนุสาวรีย์ Archduke Albrecht
Albertina Museum คืออาคารใหญ่ด้านหลังอนุสาวรีย์เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นเลิศของเวียนนา
ด้านในมีภาพวาดและภาพถ่ายนับแสนชิ้น
ด้านในมีภาพวาดและภาพถ่ายนับแสนชิ้น
ถัดไปคือโบสถ์เซ็นต์ออกัสตินเห็นหอคอยสูงแหลม : Augustinerkirche
สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก
บริเวณนี้เดินเล่นได้ทุกถนน ทุกซอยเลยค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะมาก ช็อกโกแลตโมสาร์ทก็มาถึงที่นี่ค่ะ
เวลา 19:00 น.ไปทานอาหารเย็นกันค่ะ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน Führichgasse
มื้อนี้พวกเราทานที่ร้านอาหารชื่อดังของเวียนนา Restaurant Lubella
เมนูดังของร้านนี้คือ Pork ribs (ซี่โครงหมูย่าง) สั่งกันแทบทุกโต๊ะเลยค่ะ
ชิ้นใหญ่มากๆค่ะ สงสัยเป็นหมูยักษ์แน่ๆเลย555
เริ่มด้วยซุป จบด้วยไอศกรีมหวานอร่อย
เวลา 20:00 น.ทานอาหารเสร็จออกมาเดินเล่นกันอีกสักนิด
ตอนนี้พวกเราอยู่บนถนน Kärntner Straße : main shopping street in Vienna
สองข้างทางเต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร
Opernpassage : ลานด้านข้างโอเปร่าเฮ้าส์
เดินข้ามถนนมาอีกฝั่ง จะเห็นความสวยงามและใหญ่โตของโอเปร่าเฮ้าส์
Vienna Opera House : Staatsoper
สร้างขึ้นในสไตล์นีโอเรอเนสซองส์ เปิดทำการตั้งแต่ปี 1869
เวลา 21:00 น.เดินทางกลับที่พัก Austria Trend Hotel Bosei
วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561
เวลา 7:00 น.วันนี้ตื่นสายนิดค่ะ เพราะเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ได้ลูกอม 3 เม็ดจากโรงแรม
เวลา 8:00 น.ลงไปทานอาหารเช้า ขนมและผลไม้อร่อยมากค่ะ
ทานอาหารเสร็จก็ออกไปเดินเล่นรอบๆโรงแรม
อุณหภูมิประมาณ 10 องศา มีแดดอ่อนๆกำลังสบายมากๆค่ะ
เวลา 9:00 น.ออกเดินทางไปพระราชวังเชรินน์บรุนน์ค่ะ อยู่ห่างจากที่พักประมาณ 3 กม.
พวกเราเข้าทางประตูสวนด้านหลังพระราชวังค่ะ
Schlosspark Schönbrunn สวนนี้เข้าชมฟรีค่ะ
แผนที่ของสวนและพระราชวัง
วันนี้อากาศดีมีคนมาวิ่งออกกำลังกายในสวนหลายคนค่ะ
เดินผ่านป่ามาจนสุดทางเดินจะพบกับอาคารสีเหลืองอ่อน
อาคารนี้ลักษณะเหมือนซุ้มประตูใหญ่ๆตั้งโดดเด่นบนเนิน มีทางขึ้นทั้งสองข้าง
Schönbrunn Palace Garden Gloriette
Gloriette มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า little room
เดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงของสวนและพระราชวังได้ค่ะ ตรงกลางเป็นห้องอาหาร คาเฟ่ มีกระจกใสรอบด้าน
ป้ายด้านบนเขียนว่า
IOSEPHO II. AVGVSTO ET MARIA THERESIA AVGVSTA IMPERANTIB. ERECT. CIƆIƆCCLXXV.
("Erected under the reign of Emperor Joseph II and Empress Maria Theresa, 1775.")
The Gloriette in the Schönbrunn Palace Garden
ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดใหญ่ มองลงไปเห็นพระราชวังและตัวเมืองเวียนนา
เดินลงเนินไปเรื่อยๆ
มีม้านั่งชมวิวตลอดแนวด้านหน้าสระน้ำ
ถ่ายรูปไปเรื่อยๆระหว่างทางเดินลง
ย่านเมืองเก่าเวียนนาอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง
เดินจากสวนด้านบนลงมาถึงด้านล่างแล้วค่ะ
ถ้าเดินตรงไปตามทางข้างหลังประมาณ 100 เมตร จะพบกับ Roman Ruin
Neptune Foutain
น้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ด้านล่างของเนินเขา
Neptune and four Tritons
Imperial Zoo : ทางขวามือของน้ำพุคือสวนสัตว์ในพระราชวัง มีแพนด้ามาใหม่ด้วยค่ะ
ออกมายืนกลางสวนมองขึ้นไปบนเนินเขาที่พวกเราเพิ่งเดินลงมา
สุดปลายสวนคือพระราชวังเชรินน์บรุนน์
Palace and its Garden list on the World Heritage in 1996 , UNESCO
Palace and its Garden list on the World Heritage in 1996 , UNESCO
Schönbrunn Palace
พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับสบวร์ก (Habsburgs)
พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับสบวร์ก (Habsburgs)
ถ้ามาในฤดูใบไม้ผลิ ในสวนนี้จะเต็มไปดอกไม้สีสดใส ตกแต่งแบบสวนอังกฤษ
มีรูปปั้นขนาดเท่าคนจริง 32 รูปวางอยู่ทั้งสองข้างของสวน
พระราชวังนี้เริ่มสร้างครั้งแรกในสมัยจักรพรรดิ Joseph I ทรงคิดสร้างวังนี้ให้หรูหราเท่า
พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส ต่อมาก็ได้รับความเสียหายมากจากสงครามของอาณาจักรออตโตมัน
สมัยจักรพรรดิ Leopold I ได้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่
จนเสร็จสมบูรณ์ปี 1749 ในสมัยของจักรพรรดินี Maria Theresa
พระราชวังมีสีเหลือง เรียกว่า เหลืองเทเรซา เพราะเป็นสีที่พระองค์ทรงโปรด
เดินอ้อมไปด้านหน้าพระราชวัง ด้านหลังคือซุ้มกุหลาบ กำลังแตกยอดอ่อนๆรอบานในฤดูใบไม้ผลิ
ในสวนด้านข้างก็ยังมีสระน้ำและน้ำพุหลายอัน
เวลา 10:30 น.ถึงรอบเวลาที่พวกเราจองเข้าชมภายในพระราชวังแล้วค่ะ
ด้านในห้ามถ่ายรูป ต้องฝากกระเป๋าใบใหญ่และเป้ไว้ด้านหน้าทางเข้า
รูปจาก wikipedia and https://www.wien.info
ภายในพระราชวังมีห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง แต่เปิดให้ชมแค่ไม่กี่สิบห้อง
ห้องนี้ถือว่าโดดเด่นมาก Great Gallery
ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และอีกมากมาย มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายให้ฟังตลอดการเดินชมค่ะ
ใช้เวลาเดิมชมด้านในไม่ถึง 1 ชม.ก็เสร็จค่ะ เอากระเป๋าด้านหน้าแล้วเดินออกมาได้เลย
ด้านหน้ามีพิพิธภัณฑ์เด็กด้วยค่ะ
ไปเดินเล่นที่ลานกว้างหน้าพระราชวัง ตอนนี้มีตลาดนัดด้วยค่ะ
Easter Festival
มีของแต่งบ้านน่ารักๆและร้านอาหารเต็มไปหมดเลย
คนมาเดินเล่นเยอะมาก ตำรวจก็เดินตรวจความเรียบร้อยไปทั่วงาน
มาเดินตลาดแบบนี้แล้วได้ฟีลกว่าเดินตามห้างเยอะเลยค่ะ
เดินเล่นจนทั่วก็เดินออกทางประตูด้านหน้าค่ะ มีเสาโอเบลิสก์อยู่ตรงประตูสองข้าง
ตอนนี้ใกล้เที่ยงคนเริ่มมาชมพระราชวังกันมากแล้วค่ะ เมื่อเช้าพวกเรามาแต่เช้าเลยสบายคนไม่แออัด
บริเวณนี้เป็นสถานีรถไฟใต้ดินหน้าพระราชวัง คนเลยพลุกพล่านหน่อย
เวลา 12:00 น.ออกมานั่งคอยรถบัสเพื่อเดินทางเข้าเมือง
เวลา 13:00 น.เดินทางมาถึงกลางเมืองเก่าเวียนนาที่พวกเราได้มาเดินเล่นเมื่อคืนนี้
รถม้าเต็มเมืองเลยค่ะ
ทั้งรถม้าและรถยนต์ใช้ถนนร่วมกัน
เดินไปตามถนน Bognergasse เข้าสู่ใจกลางเมืองเก่า เต็มไปด้วยอาคารหรูหราสวยงาม
เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน Graben ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงของเวียนนา
จุดเด่นของถนนนี้คืออนุสาวรีย์ยอดสีทอง ศิลปะแบบบาโรค
Pestsäule : Plague Column
สร้างขึ้นหลังจากมีการระบาดของกาฬโรคในปี 1679
เดินตรงไปจนสุดถนน graben มีสถานีรถไฟใต้ดิน Stephansplatz อยู่ทางขวามือ
เลี้ยวซ้ายไปจะพบกับ ลานกว้างด้านหน้าวิหารเซ็นต์สเตฟานส์
Stephansplatz
St.Stephen's Cathedral : Domkirche St.Stephan
วิหารนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าเวียนนามานานกว่า 800 ปี
ยอดหอคอยสูงปลายแหลมตั้งอยู่ทางทิศใต้ มีความสูง 136 เมตร
ยอดบนสุดประดับด้วยมงกุฏทองกับเหยี่ยวคู่ (สัญลักษณ์ของราชวงศ์ฮับสบวร์ก)
หอคอยนี้มีบันได 343 ขั้น เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ทางขึ้นอยู่ข้างหลังนี้ค่ะ
วิหารดั้งเดิมสร้างในสไตล์โรมาแนสก์
มีหอคอยคู่หน้า (Giant Doorway) ที่ไม่โดนทำลายช่วงสงครามโลกครั้งที่2
หลังคาวิหารทำมาจากกระเบื้องโมเสกจำนวนมากกว่า 250,000 แผ่น เรียงเป็นลวดลายเรขาคณิต
เข้าไปชมด้านในวิหารกันค่ะ ชมฟรี
ด้านในใหญ่โตอลังการดีค่ะ
มีรั้วเหล็กกั้นไว้ เข้าไปชมด้านในสุดไม่ได้ค่ะ
วิหารบางส่วนถูกทำลายในช่วงสงครามโลก ปัจจุบันได้บูรณะใหม่สไตล์โกธิค
วิหารบางส่วนถูกทำลายในช่วงสงครามโลก ปัจจุบันได้บูรณะใหม่สไตล์โกธิค
ตามเสามีรูปปั้นทางศาสนาประดับอยู่มากมาย
แท่นบูชาหลักอยู่ด้านในสุด มีผ้าสีขาวกั้นไว้ ต้องมีตั๋วถึงเข้าไปชมด้านในได้ค่ะ
ออร์แกนสำหรับบรรเลงเพลงสวด
รูปปั้นตามเสามีความละเอียดสวยงามทุกอันเลยค่ะ
ด้านหลังคือทางลงไปสุสานใต้ดิน ต้องเสียเงินถึงจะลงไปชมได้ค่ะ
ชมภายในเสร็จก็ออกมาด้านนอก เดินอ้อมไปอีกด้านของวิหาร
ส่วนนี้คือวิหารทางด้านเหนือ มีหอคอยหลังคาทรงกลมเขียว
อาคารด้านที่อยู่ตรงข้ามหอคอยนี้คือพิพิธภัณฑ์ Dom Museum
หอคอยด้านนี้มีลิฟต์พาขึ้นไปชมระฆังยักษ์ด้านบนค่ะ
เราอยู่ตำแหน่งสีแดง กำลังวางแผนว่าจะไปเที่ยวตรงไหนก่อนดี
ตอนนี้เวลาบ่ายสองแล้วเริ่มหิวค่ะ สรุปทานอาหารเที่ยงกันก่อนดีกว่า
ร้านอาหารที่หาทานง่ายและรวดเร็วที่สุด ... พิซซ่า... ชิ้นใหญ่มากถ้าทานคนละชิ้นไม่หมดแน่ๆ
พิซซ่าร้อนๆแป้งบางกรอบอร่อยค่ะ
ทานอาหารเสร็จ เดินออกจากจตุรัสย้อนกลับไปที่ถนน Graben
มีคนมาเดินเล่นเยอะมากเพราะถนนนี้เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย
เป็นโบสถ์เก่าแก่ของเวียนนาสร้างตั้งแต่ปี 792 และมีการสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 18 สไตล์บารอค
มียอดโดมขนาดใหญ่สีเขียวเด่นเห็นแต่ไกล เข้าชมฟรีนะคะ
จากโบสถ์เดินตรงไปตามถนน Habsburgergasse
แวะถ่ายรูปข้างทางนิดค่ะ
เดินจนสุดจะพบกับถนน Reitschulgasse ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปจตุรัส Albertinaplatz
พวกเราเลี้ยวขวาเพื่อมาพระราชวังฮอฟบวร์ก
จตุรัสหน้าพระราชวังคือ Michaelerplatz
ตั้งชื่อตามโบสถ์เซ็นต์ไมเคิลที่อยู่ตรงข้ามพระราชวัง
Michaelskirche
Hofburg Palace
พระราชวังฮอฟบวร์ก เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮับสบวร์ก
พระราชวังฮอฟบวร์ก เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮับสบวร์ก
ตรงนี้คือประตูทางเข้าพระราชวัง
สถานีรถม้าชมเมืองอยู่ตรงทางเข้าเลยค่ะ
พระราชวังนี้มีการต่อเติมหลายส่วนตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ปัจจุบันหลายส่วนจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม
(SiSi คือพระนามของจักรพรรดินีเอลิซาเบธ)
รูปปั้นงดงามประดับอยู่ตรงทางเข้าพระราชวัง เดินเข้าไปชมด้านในกันค่ะ
The Spanish Riding School
ทางซ้ายมือคือโรงเรียนสอนขี่ม้าแบบสเปน ด้านในเปิดให้ชมโชว์ตามเวลา
ขวามือคือทางไปชมวังจักรพรรดิและพิพิธภัณฑ์
Kaiserapartments (Imperial Apartment)ด้านในจัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของราชวงศ์ฮับสบวร์ก
SiSi Museum จัดแสดงเรื่องราวของจักรพรรดินีเอลิซาเบธ(ผู้เลอโฉม)
รอบๆเป็นร้านขายของที่ระลึก
เดินออกมาถึงลานกว้างด้านในพระราชวัง In der Burg (Inner Castle Square)
อาคารทางขวามือคือพิพิธภัณฑ์ Hofburg Palace Silver collection
Kaiser Franz I
รูปปั้นของจักรพรรดิฟรานซ์ โยเซฟ ที่ 1
ที่ฐานมีรูปปั้น 4 รูปที่แสดงถึง สันติสุข อำนาจ ศรัทธา ความยุติธรรม
Cafe Hofburg
ประตู Schweizertor สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นทางเข้าสู่ Swiss Wing
ด้านในคือพระราชวัง Schweizerhof เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวังฮอฟบวร์ก
บางทีเรียกว่าพระราชวังเก่า ( Alte Burg) ด้านในมีโบสถ์เก่าด้วยค่ะ
เดินตามรถม้าออกไปด้านนอกค่ะ
พอพ้นซุ้มประตูจะพบกับลานกว้างใหญ่ มีสนามหญ้าสีเขียว
Heldenplatz (Hero's Square)
พระราชวังใหม่อยู่ทางซ้ายมือ
Neue Burg พระราชวังใหม่
พระราชวังนี้สร้างเพิ่มเติมก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1881-1913
ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์หลายอย่าง ค่าเข้าชมคนละ 9 ยูโร
ด้านหน้ามีพระบรมรูปทรงม้าของเจ้าชายออยเกินแห่งซาวอย
Prince Eugene of Savoy Statue (Prinz Eugen-Equestrian Statue)
แม่ทัพผู้สร้างเกียรติประวัติของเวียนนาในสงครามกับออตโตมันแห่งตุรกี ในปี 1683
เดินตามรถม้าไปเรื่อยๆค่ะ555
มีอนุสาวรีย์อีกอันอยู่ตรงข้ามพระราชวังใหม่
อนุสาวรีย์ทรงม้าของอาร์คดยุคชาร์ล ตั้งหันหน้าเข้าหากัน 2 อัน
Archduke Charles Statue ( Erzherzog Karl-Equestrain Statue)
เดินออกจากพระราชวังทางประตู Burgtor
Äußeres Burgtor เป็นประตูทางทิศใต้ของพระราชวัง
เดินข้ามถนน Burgring ไปฝั่งตรงข้าม
ถนนนี้เป็นหนึ่งในถนนวงแหวน (Ringstrasse)ที่วิ่งรอบเมืองเก่า ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง
จตุรัสขนาดใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพระราชวังคือ Maria-Theresian-Platz
พวกเรายังไม่แวะชมภายในจตุรัสนี้ค่ะ เดินต่อไปตามถนนวงแหวนเส้นเดิม
ถนนนี้มีทั้งรถรางและรถบัสชมเมืองวิ่งผ่านค่ะ
พวกเราไม่ขึ้นรถโดยสารเพราะอยากเดินชมเมืองและถ่ายรูปไปตลอดทาง
เดินลัดเลาะไปตามอาคารทั้งสองข้างของถนนมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย
ผ่านอุทยาน Grete-Rehor-Park ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ของ 3 ผู้ก่อตั้งรัฐออสเตรีย
Republic Monument
ถัดจากอุทยานก็จะพบกับจตุรัส Schmerlingplatz อยู่ข้างอาคารรัฐสภาออสเตรีย
มีรั้วเหล็กกั้นรอบอาคารเพราะกำลังมีการบูรณะอยู่ค่ะ
Austrain Parliament Building : อาคารรัฐสภาออสเตรีย
สร้างเสร็จในปี 1883 ใช้เป็นที่ประชุมสภาออสเตรีย
มีรูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกรีก ประกอบด้วยเสาต้นใหญ่ รูปปั้นและห้องโถง
มีรูปแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกรีก ประกอบด้วยเสาต้นใหญ่ รูปปั้นและห้องโถง
Pallas Athena Brunnen
น้ำพุเทพีเอธีนา(เทพีแห่งสติปัญญา)ตั้งอยู่โดดเด่นหน้าอาคาร
มือขวาถือรูปปั้นเทพีไนกี้(เทพีแห่งชัยชนะ)สีทอง
พวกเราได้แต่เดินชมด้านหน้า ไม่สามารถเข้าไปชมความงามของอาคารและรูปปั้นนับร้อยอันได้
ถนนด้านหน้าอาคารรัฐสภานี้คือ Doctor-Karl-Renner-Ring
มีรูปปั้นศรีษะของท่านอยู่ด้านหน้าสวน
Rathaus Park
ถัดจากอาคารรัฐสภาคือสวนขนาดใหญ่ มีม้านั่งกระจายทั่วสวน
Rathaus : ศาลาว่าการเมืองเวียนนา
Vienna City Hall สร้างในปี 1872-1883 เป็นอาคารสไตล์โกธิค ตอนแรกพวกเรานึกว่าเป็นวิหารค่ะ555 ลักษณะเด่นคือมียอดสูงแหลม เรียกว่า Rathausmann
อาคารหลังนี้ใหญ่มาก ด้านในมีถึง 1,575 ห้อง ปัจจุบันเป็นที่ทำงานของนายกเทศมนตรี
ปกติจะมีการจัดงานที่ลานด้านหน้านี้เป็นประจำ เช่นช่วงหน้าหนาวก็จัดเป็นลานสเก็ตน้ำแข็ง
Burg theatre : โรงละครบวร์ก อยู่ตรงข้ามศาลาว่าการเลยค่ะ
ถนนด้านหน้านี้คือ Universitätsring เพราะเลยไปคือ University of Vienna
ข้ามถนนไปชมโรงละครกันค่ะ อาคารทางซ้ายมือคือ Cafe Landtmann
รถซุปเปอร์คาร์จอดโชว์ข้างโรงละคร ขอไปถ่ายรูปคู่นิดค่ะ
เมื่อก่อนโรงละครนี้อยู่ที่ Michaelerplatz สร้างเสร็จและเปิดในปี 1741 เพราะพระนางมาเรียเทเรซ่าต้องการให้อยู่ติดกับพระราชวังฮอฟบวร์ก และได้ย้ายมาอยู่ตรงนี้ในปี 1888 สร้างสไตล์เรอเนสซองส์
เดินชมรอบนอกด้านข้างโรงละคร
ข้างๆโรงละครทางปีกขวาคืออุทยานของพระราชวัง : Volksgarten
สวนนี้มีขนาดใหญ่มาก
เดินออกจากสวนเข้าสู่ถนน Löwelstraße เพื่อกลับไปในเขตพระราชวัง
เดินออกมาถึงจตุรัสด้านหน้า Michaelerplatz
เดินตรงไปยังถนน Graben ด้านหลังคือร้านอาหารชื่อดังของที่นี่ค่ะ : Julius Meinl am Graben
บริเวณสุดถนน Graben เป็นลานกว้าง เหมือนเป็นจุดนัดพบมีม้านั่งยาวให้นั่งเล่น
ข้างหน้าคือน้ำพุ Josefsbrunnen
ขอนั่งพักขาก่อนค่ะ วันนี้เดินเยอะมากหมดแรง นั่งมองคนเดินพลุกพล่านเพลินดี ตรงนี้มี free Wifi
ร้านไอติมเจลาโต้ Zaoni
มะปรางบอกว่าหนาวๆต้องกินไอศกรีมค่ะ
นั่งพักทานขนมแล้วก็ได้เวลาช็อปปิ้งค่ะ
เวลา 17:00 น.เดินไปขึ้นรถบัสที่ถนนวงแหวนด้านนอกค่ะ
เดินผ่านพระราชวังทางเดิม
ตอนนี้เวลาเย็นแล้วอากาศเริ่มหนาวมากขึ้น
Welt Museum Wien อยู่ที่ปีกขวาของพระราชวังใหม่
ข้ามถนนไปเดินเล่นที่จตุรัสมาเรียเทเรซ่าค่ะ
อาคารใหญ่ทางซ้ายมือคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ : Kunsthistorisches Museum
Museum of Art History ก่อตั้งระหว่างปี 1872-1891
เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของโลกที่สะสมงานวิจิตรศิลป์และมัณฑนศิลป์
ทางขวามือคือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา :Naturhistorisches Museum
Museum of Natural History Vienna
ส่วนจัดแสดงด้านในประกอบด้วยวัตถุกว่า 30 ล้านชิ้น ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ติดอันดับโลกเลยค่ะ
Maria-Theresien-Platz เป็นจตุรัสที่สำคัญของเวียนนา เดินทางมาสะดวกเพราะมีรถผ่านหลายสาย
ตรงกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์ของจักรพรรดินีมาเรียเทเรซ่าขนาดใหญ่ตั้งอยู่
Maria Theresien Monument : The largest Habsburg monument in Vienna
Maria Theresien Monument : The largest Habsburg monument in Vienna
ด้านหลังคือพิพิธภัณฑ์ Museumsquartier(MQ) เป็นหนึ่งในศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เวลา 18:00 น.ถึงเวลาที่เราต้องจบทริปนี้ที่เวียนนาแล้ว ยืนรอรถบัสเพื่อไปสนามบินค่ะ
ภาพสุดท้ายก่อนอำลาเวียนนา เมืองสวยงามที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
เวลา 18:30 น.เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติเวียนนา
Flughafen Wien สนามบินนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 20 กม.
เวลา 19:30 น.สนามบินที่นี่มีขนาดไม่ใหญ่ค่ะ เช็คอินเสร็จ ผ่าน ตม.ใช้เวลาไม่นาน เข้ามานั่งรอด้านใน
เริ่มหิวแล้วทานอาหารเย็นกันก่อนค่ะ มะปรางเลือกร้าน Cafe Johann Strauss
ไส้กรอกชีสเวียนนา ปลา และมันฝรั่งทอด อร่อยมากๆค่ะ
เวลา 21:30 น.ออกเดินทางสู่กรุงเทพ
วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2561
เวลา 8:00 น.แวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา
เวลา 19:00 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ