2.ชมรถไฟใต้ดิน,ตลาดอิสมาลอฟ,Kremlin,วิหารเซนต์ซาเวียร์

วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2560

เวลา 8:30 น.ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกเที่ยวกันต่อค่ะ เช้านี้ฝนตก ถ้าเที่ยวกลางแจ้งจะลำบากหน่อย 

ดังนั้นจึงวางแผนไปนั่งรถไฟใต้ดินกันค่ะ(Moskovsky Metropoliten) ออกจากโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้ายมีทางลงไปสถานีรถไฟใต้ดิน ประมาณ 5 นาที ก็มาถึงสถานีที่ใกล้ที่สุด เข้าไปซื้อตั๋วด้านในเลยค่ะ

 สถานีรถไฟใต้ดินของรัสเซียขึ้นชื่อว่าอยู่ลึกที่สุดในโลก บางสถานีลึกร่วม 75 เมตร กว่าจะลงบันไดเลื่อนไปถีงข้างล่างใช้เวลาพอสมควร เวลายืนให้ชิดขวาเพราะทางซ้ายจะมีคนที่รีบวิ่งลงค่ะ

วันนี้เราจะนั่งรถไฟชมสถานีรถไฟใต้ดิน(Metro) ที่สวยที่สุดในโลกค่ะ
ปัจจุบันมอสโกมี metro 12 สาย รวม 194 สถานี ความยากลำบากในการนั่งรถไฟที่นี่คือ ไม่มีป้ายสถานีเป็นภาษาอังกฤษเลย เป็นภาษารัสเซียล้วนๆ ต้องจำตัวหนังสือให้ดีๆ และนับสถานีว่าจะลงสถานีที่เท่าไร

รถไฟมาแล้วค่ะ ยืนรอไม่นานเพราะแต่ละขบวนให้บริการห่างกันอย่างน้อยที่สุด 1.5 นาที

วันนี้เป็นวันอาทิตย์คนใช้บริการไม่เยอะมาก ขอนั่งตรงที่ priority แป๊บนึงค่ะ

ภายในขบวนสะอาด แต่จำนวนที่นั่งน้อยมาก

ถึงสถานี Komsomolskaya มีความลึก 37 เมตร

 สถานีนี้มีผู้มาใช้บริการมากเพราะเชื่อมต่อกับอีก 3 สถานีใหญ่

มีความสวยงาม ได้รับรางวัล New York World's Fair  ตรงโถงกลางประดับด้วยโคมไฟห้อยขนาดใหญ่

ปลายชานชาลามีรูปปั้นของเลนิน

สถาปัตยกรรมบนเพดานแบบบาโรก(Baroque) ทาสีเหลืองตัดขอบขาวตกแต่งด้วยโมเสก
(Mosaique )และหินสีเป็นรูป เรื่องราวมากมาย ส่วนผนังและเสาตกแต่งด้วยหินอ่อน

นักท่องเที่ยวนิยมมาชมมาก จนได้รับการโหวตจากผู้ใช้บริการว่าสถานีนี้สวยที่สุด

สถานีต่อไป Novoslobodskaya มีความลึก 40 เมตร

ตกแต่งผนังด้วยกระจกสี (stainglass) จำนวน 32 บาน โดยฝีมือศิลปินชาวลัตเวีย

ปลายชานชาลา เป็นโมเสกหินอ่อนสีชมพูขลิบด้วยทองหลือง ฝีมือของ Pavel Korin

รูปนี้มีชื่อว่า "Peace Throughout the World"

โมเสกแต่ละบานมีกรอบเป็นทองเหลือง

รูปแต่ละบานไม่ซ้ำกันเลยค่ะ

กระจกทุกบานมีขนาดใหญ่มาก สูงประมาณ 4 เมตร

วันนี้ขึ้นลงรถไฟกันหลายเที่ยวเลยค่ะ สนุกมาก อากาศที่ใต้ดินก็เย็นสบาย

สถานี Kiyevskaya มีความลึก 53 เมตร

บนผนังปลายสุดชานชาลา มีภาพหินอ่อนของเลนินประดับอยู่

ความสวยงามอยู่ที่ภาพประดับผนังทั้งสองข้าง

ภาพการเฉลิมฉลองของประชาชน

ทุกภาพแสดงความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างชาวรัสเซียและชาวยูเครน

กรอบรูปเป็นปูนปั้นสีทองลวดลายสวยงาม

นั่งรอรถไฟเที่ยวต่อไป

ป้ายบอกสถานีถัดไปของทุกๆสถานี และบอกทิศทางด้วย (เป็นภาษารัสเซียหมด)

สถานี Ploshchad Revolyutsii

สุดชานชาลามีภาพวาดขนาดใหญ่แสดงถึงความแตกต่างของผู้ที่ได้รับชัยชนะและผู้ที่สูญเสีย

บนเพดานตกแต่งด้วยรูปภาพ 76 ชิ้น 

เป็นเรื่องราวของเด็กสู่นักกีฬา นักเรียนสู่ชาวนา คนงานสู่ทหาร

กรอบของทุกรูปประดับด้วยปูนปั้นสีขาวลวดลายอ่อนช้อย

สถานีนี้มีสองชั้น พอเดินขึ้นมาอีกชั้นจะเห็นรูปปั้นจำนวนมาก

รูปปั้นอันนี้คนจะมาลูบคลำเยอะมาก มีความเชื่อว่าถ้าได้รูปจมูกสุนัขแล้วจะโชคดี

โดนลูบจนจมูกมันวาวเลยค่ะ

รูปปั้นเหล่านี้สร้างเพื่อยกย่องวีรบุรุษในอดีต เช่น ทหาร บุคคลสำคัญต่างๆ

โคมไฟบนเพดานห้อยลงมาเหมือนตาชั่งเลยค่ะ

พวกเรามีเวลาจำกัดในการชม metro แต่ที่ได้ชมมาครึ่งวันนี้ก็รู้สึกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมใต้ดินที่สวยงาม ยิ่งใหญ่และอลังการมากที่สุดในโลกจริงๆค่ะ เพราะตอนเริ่มสร้าง สตาลินสั่งว่าต้องเป็นงานที่ทำให้ผู้มาชมต้องหยุดมองและชื่นชมความงามมากที่สุด เขาตั้งใจให้เป็น Palace for the People

เดินทางโดยรถไฟใต้ดินมาขึ้นที่สถานี MCC Izmaylovo เพื่อไปเที่ยวตลาดอิซมาลอฟ

Izmalov market มีชื่อเต็มๆว่า The Vernisage at Izmailovo

ด้านข้างตลาดมีลานจอดรถขนาดใหญ่

อาคารสีแดงด้านหลังคือห้องน้ำค่ะ เสียค่าเข้าห้องน้ำคนละ 30 รูเบิล แต่ไม่ต้องเสียค่าเข้าตลาด

เป็นตลาดขายของฝากและของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดของมอสโก ราคาต่อรองได้ตามความพอใจ

ข้างๆตลาดคือ Kremlin at Izmailovo

คำว่า kremlin มีความหมายว่าป้อมปราการ(fortress) ดังนั้นเราจะเห็นว่ามีเครมลินเต็มไปหมด

ที่นี่มีร้านขายของ ภัตตาคารและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ว้อดกา

ทานอาหารเที่ยงในเครมลินนี้เลยค่ะ ร้านหรูหราสวยมาก อาหารจานหลักมื้อนี้คือ ข้าวหมูตุ๋น ไข่เจียว

ขนมหวานคือ นโปเลียน เค้ก อร่อยมากๆๆค่ะ เป็นขนมขึ้นชื่อของรัสเซีย

ทานอาหารเสร็จก็เดินทางเข้าใจกลางเมืองมอสโก

ตอนบ่ายฝนหยุดตกแล้ว อากาศเย็นมาก

อาคารใหญ่ๆด้านหน้าคือ หอสมุดแห่งชาติรัสเซีย

เวลา 14:00 น.เดินทางมาถึงพระราชวังเครมลิน

ซื้อตั๋วแบบรวมเข้าชมทั้งโบสถ์และพิพิธภัณฑ์ ราคา 700 รูเบิล
ได้ตั๋วแล้วก็ผ่านเครื่องตรวจในห้องกระจกทางขวามือ
อนุญาติให้นำเข้าได้แค่กระเป๋าสะพายใบเล็กๆคนละ 1 ใบ

ทางเข้าทางซ้ายนี้คือ Kutafiya Tower

The Trinity Tower

มีสัญลักษณ์ดาวแดงบนยอด

ด้านในหอคอยเป็นที่หลบลมหนาวได้ดีค่ะ ตอนนี้อากาศเย็นมาก ลมแรงด้วย

แผนที่ในพระราชวังเครมลิน เป็นภาษาอังกฤษ มีเลขบอกสถานที่ชัดเจน เดินไปตามทางได้เลยค่ะ

อาคารสีเหลืองด้านหลังคือ The Arsenal เป็นคลังแสง เก็บอาวุธของพระราชวัง มีทหารเฝ้าโดยรอบ 

ห้ามเดินเข้าไปไกล้เลยค่ะเพราะจะโดนเป่านกหวีดไล่ทันที

The State Kremlin Palace  สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จมาชมบัลเลต์ที่นี่ด้วยค่ะ

Sobornaya Square หรือ  The Cathedral Square

เป็นจตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวังเครมลิน ประกอบไปด้วย วิหาร โบสถ์ หอระฆัง และพระราชวัง

Cathedral of the Archangel Michael

เป็นสถานที่ฝังศพของพระราชวงศ์ มีหลุมศพทั้งหมด 47 อัน

Annunciation Cathedral

เป็น home church ใช้ประกอบพิธีในราชสำนัก และเป็นที่เก็บของมีค่าของราชวงศ์

The Faceted Chamber

อาคารสีเหลือง 3 ชั้นด้านหลังคือ ส่วนหนึ่งของพระราชวังเครมลิน Grand Kremlin Palace

Ivan the Great Bell Tower หอระฆังพระเจ้าอีวาน

มีความสูง 81 เมตร  ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในยุคนั้น 

และได้ออกกฏหมายห้ามก่อสร้างสิ่งใดๆสูงเกินหอระฆังนี้

ภายในหอนี้ มีระฆัง 21 ใบ

Cathedral of the Dormition

หรือเรียกอีกชื่อคือโบสถ์อัสสัมชัญ The Assumption Cathedral

เป็นวิหารหลักที่มีความสำคัญของรัสเซีย

เป็นสถานที่ในการปฏิญาณตนเพื่อรับตำแหน่งของซาร์

เข้าไปชมความงามด้านในโบสถ์ได้ แต่ห้ามถ่ายรูปค่ะ

เกาะรั้วดูพระราชวังค่ะ ที่นี่เคยเป็นที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Mission Impossible 4

ได้เวลาเข้าชมพิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แล้วค่ะ พวกเราจองเวลาไว้ตอน 15:00 น.

ด้านหน้าคือ Borovitskaya Tower ทางเข้า Armoury Chamber อยู่ทางขวามือ

เดินลงไปที่ชั้นใต้ดิน เพื่อฝากเสื้อโค้ทก่อนเข้าชมค่ะ ห้ามถ่ายรูปและวิดีโอด้านในพิพิธภัณฑ์
เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย เก็บสมบัติล้ำค่าของกษัตริย์ไว้จำนวนมาก

เก็บป้ายฝากเสื้อไว้ดีๆนะคะ เพราะต้องออกมาเอาเสื้อตอนชมเสร็จ
ด้านในสวยงามมาก มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย ใช้เวลาเดินชมร่วม 2 ชม.

ชมด้านในพิพิธภัณฑ์เสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกต่อค่ะ

The Tsar Bell ระฆังพระเจ้าซาร์

สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1733-1735

เป็นระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลก สูง 6.14 เมตร รัศมี 6.6 เมตร หนัก 200 ตัน

ยังไม่เคยถูกยกขึ้นไปแขวนบนหอระฆังเลย เพราะมีอุปสรรคในการสร้างมาก จนเกิดรอยแตกขึ้น

            ในปี ค.ศ.1836 ได้นำขึ้นมาจากหลุมหล่อ และมาตั้งไว้ริมทางเดิน สามารถเดินชมได้รอบเลยค่ะ

บนตัวระฆังมีงานปั้นนูนสไตล์บาร็อก เป็นภาพพระเจ้าซาร์  พระเยซู พระแม่มารี และบุคคลสำคัญอื่นๆ

ด้านหลังคือหอระฆังพระเจ้าอีวาน

The Tsar Cannon ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์

ด้านหลังปืนใหญ่คือ Cathedral of the Twelve Apostles

ปืนใหญ่นี้หล่อขึ้นในปี ค.ศ.1586 เป็นปืนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก

ปืนมีความยาว 5.34 เมตร เส้นผ่าศูนย์รอบนอก 120 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้อง 89 ซม.

ลูกกระสุนด้านล่าง 4 ลูก หนักลูกละ 1 ตัน ปืนกระบอกนี้ไม่เคยใช้งานเลย

ด้านข้าง มีปืนขนาดเล็กวางเรียงกัน 10 กระบอก

ทุกกระบอกมีประวัติการสร้างติดไว้ด้านล่าง

The Ivan Square

The Senate ที่ทำงานของประธานาธิบดีรัสเซีย

The Savior's Tower

เดินย้อนกลับทางเดิม

ออกทางประตูที่เข้ามาตอนแรกค่ะ

ยืนรอรถบัสด้านนอกกำแพงพระราชวัง

ลานขนาดใหญ่ตรงนี้เป็นที่นับเวลาย้อนหลังเปิดงานบอลโลก 

FIFA World Cup 2018 ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพ

รูปปั้นของคาร์ล มาร์กซ์ บิดาแห่งคอมมิวนิสต์

เวลา 17:30 น. เดินทางมาถึงมหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์

The Cathedral of Christ the Savior

เป็นโบสถ์ Orthodox ที่สูงที่สุดในโลก

และเป็นวิหารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย

รอบๆวิหาร มีรูปหล่อโลหะเป็นรูปกษัตริย์และนักรบโบราณ สวยงามมาก

ประตูขนาดใหญ่สลักลวดลายงดงาม

ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ห้ามถ่ายรูปด้านในเด็ดขาด ตรงทางเข้าตรวจกระเป๋าละเอียดเลยค่ะ

ชมความสวยงามในวิหารเสร็จแล้วก็ออกมาเดินชมความงามด้านนอกค่ะ

ด้านหลังคือที่ขายของที่ระลึก

ในสมัยของสตาลินมีการทำลายวิหารนี้ทิ้งเพื่อล้มล้างศาสนา

ในปี ค.ศ.1995 ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ด้วยเงินบริจาคของผู้ศรัทธาโดยใช้แบบแปลนเดิม 

แล้วเสร็จในปี ค.ศ.2000

ด้านล่างเป็นที่จอดรถใต้ดิน

เดินอ้อมไปด้านหลังวิหาร จะพบกับสะพานข้ามแม่น้ำมอสโก เป็นสะพานคนเดิน

บนสะพานนี้เป็นจุดชมวิวของแม่น้ำมอสโก คนนิยมมาถ่ายรูปกัน

วิวทางฝั่งขวา

รูปปั้นพระเจ้าปีเตอร์มหาราชตั้งอยู่กลางแม่น้ำ

โรงงานช็อคโกแลตชื่อดังของรัสเซีย Alonka ที่เป็นรูปหน้าเด็กค่ะ

วิวทางฝั่งซ้าย

มองเห็นพระราชวังเครมลินอยู่ไม่ไกล

เดินเล่นไปจนสุดสะพานแล้วก็เดินกลับ

ที่รัสเซียจะมีการก่อสร้างรูปปั้นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จำนวนมาก

วิหารนี้สร้างครั้งแรกในสมัยของพระเจ้า Alexander ที่ 1

 เพื่อฉลองชัยชนะเหนือกองทัพของนโปเลียนแห่งฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1812 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี

เป็นวิหารที่สำคัญของนิกายรัสเซียนออโธดอกซ์ ใช้ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญ

ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงมอสโกครบ 850 ปี

เก็บรูปสุดท้ายกับมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย

ทางขวามือคือ BoiShoi Theater เป็นโรงละครบัลเลต์และโอเปร่าที่มีชื่อเสียงระดับโลก

เวลา 19:00 น. ทานอาหารที่ภัตตาคารจีน เสร็จแล้วก็กลับที่พัก