วันนี้เป็นวันสุดท้ายในเวียดนามแล้วค่ะ ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นจากระเบียงห้องพัก
ตึกทางซ้ายมือมีชื่อว่าตึก BITEXCO เป็นตึกที่สูงที่สุดในโฮจิมินห์ซิตี้
นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 49
Bitexco Financial Tower มีความสูง 262 เมตร มีทั้งหมด 71 ชั้น ชั้นที่ 49 เรียกว่า Saigon Skydeck
เป็นกระจกใสมองเห็นวิวโฮจิมินห์ซิตี้ได้ 360 องศา ค่าขึ้นไปชมวิวคนละ สองแสนดอง
เมื่อคืนเราพักที่ Thien Tung Hotel ทำเลของโรงแรมดีมากค่ะ สามารถเดินเล่นในเมืองได้สะดวก
เวลา 8:00 น.คุณป๋าพาออกมาเดินเล่น หน้าโรงแรมทีเราพักคือตลาดเบนถัน(Ben Thanh Market)
เป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งของเมืองนี้เลยค่ะ คล้ายตลาดจตุจักรที่เมืองไทย
บริเวณนี้เป็นแยกขนาดใหญ่ มีรถมาจากทุกทิศทางเวลาเดินข้ามถนนต้องระวังอย่างมาก
General Science Library
ด้านในห้องสมุดประชาชนโฮจิมินห์ มีคนนั่งอ่านหนังสือกันหลายคน
เดินเล่นถ่ายรูปรอบๆห้องสมุด
เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00-17:00 น.
อาคารสีขาวทรงยุโรปสวยงาม สร้างขึ้นช่วง ค.ศ.1985-1990 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงท่านโฮจิมินห์
ด้านหน้ามีรถโบราณให้ถ่ายรูปได้ค่ะ
ด้านในแยกเป็นห้องหลายห้อง มีป้ายภาษาอังกฤษให้อ่านได้ค่ะ
แต่ละห้องแสดงถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง
ต้องใช้เวลาสักครึ่งวันกว่าจะเดินชมจนหมด
บริเวณนี้เหมือนเป็นศูนย์กลางของเมือง ถนนและทางเดินสะอาดสวยงามมากๆค่ะ
HO CHI MINH CITY HALL ศาลากลางโฮจิมินห์
อาคารสีเหลืองครีมสไตล์โคโลเนียล ฝรั่งเศส
เนื่องจากตึกมีขนาดใหญ่มาก พวกเราจึงต้องข้ามถนน ไปถ่ายภาพอีกฝั่งถนนจึงจะเก็บรูปได้ทั้งอาคาร
ด้านตรงข้ามเป็นสวนขนาดใหญ่
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ
แดดจัดและเริ่มร้อนมาก
ด้านหลังนี้คือรูปปั้นอดีตผู้นำประเทศเวียดนาม
ท่านโฮจิมินห์
บริเวณนี้เรียกว่าไซง่อนสแควร์ Saigon Square
ตอนพวกเรามาถึงเค้าเพิ่งปิดน้ำพุที่พุ่งจากพื้นไปค่ะ ถ่ายรูปมาไม่ทัน
บริเวณนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญและเป็นย่านการค้า การท่องเที่ยวของเมือง
เพราะมีศูนย์การค้า โรงแรมหรูๆอยู่โดยรอบ ที่สำคัญกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ด้วยค่ะ
Saigon Opera House โรงละครโอเปร่า
โรงละครเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ตัวอาคารสวยงามแบบฝรั่งเศส
ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า โรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ ( Municiple Theatre of Ho Chi Minh City)
ปัจจุบันยังเป็นสถานที่สำหรับจัดการแสดงและคอนเสิร์ตต่างๆ
ร้านสินค้าสุดหรูจากฝรั่งเศส
พวกเราใช้เวลาเดินเล่นชมเมืองกันประมาณ 3 ชม.แดดเริ่มจัดและเริ่มเหนื่อยแล้วค่ะ
เดินย้อนกลับที่พักทางเดิม
ร้านตัดชุดประจำชาติเวียดนาม
บุฟเฟต์อยู่ที่ชั้น 9 ของโรงแรม
อาหารเยอะมากๆค่ะ มีทั้งอาหารเวียดนาม อาหารไทย อาหารจีน ซีฟู้ด ปิ้งย่าง
เวลา 13:00 น.ไปชมวัดจีนในย่านไชน่าทาวน์ ชื่อวัดเทียนเฮา Thien Hau Temple
วัดนี้สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยชาวพุทธกวางตุ้งสร้างอุทิศให้กับแม่พระผู้คุ้มครองชาวเรือ
หรือเทพีเทียนหาว
WAR REMNANTS MUSEUM
เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.1975 ในตอนแรกใช้ชื่อว่า Exhibition House for US and Puppet crime
ด้านหน้าจัดแสดงเครื่องบินรบชนิดต่างๆ
มีรายละเอียดและประวัติความเป็นมาทุกลำ
ตกทอดมาตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม มีทั้งของจีน และสหรัฐอเมริกา
ด้านหลังพิพิธภัณฑ์จัดแสดงที่คุมขังและทรมานนักโทษ
Tiger cages เอาไว้คุมขังและทรมานนักโทษทางการเมือง
ดูของจริงแล้วมาดูบรรยายรูปภาพ หดหู่เศร้าใจมากๆค่ะ
สงครามเวียดนามอยู่ในช่วง ค.ศ.1957-1975 เป็นสงครามระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้
โดยเวียดนามเหนือได้รับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซีย ส่วนเวียดนามใต้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา
ทางอเมริกาได้ส่งเหรียญทหารผ่านศึกจำนวน 8 เหรียญมาให้เวียดนามตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 1990
ขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็มีห้องต่างๆหลายห้อง
รูปภาพแสดงถึงความพิการของเด็กๆชาวเวียดนามจากสารเคมีดังกล่าว
Agent Orange คือสารเคมี Digoxin
ห้องแสดงอาวุธหลากหลายชนิดในสงคราม
ชั้นสามมีห้องฉายวีดีโอของเหตุการณ์สงครามเวียดนาม
พิพิธภัณฑ์นี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะชาวยุโรปและอเมริกา
เป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ วิหารแห่งแม่พระผู้ปฎิสนธินิรมล
(Basilica of Our Lady of the Immaculate Conception )
โบสถ์คาทอลิคที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นหนึ่งในมรดกของเมืองจากยุคอาณานิคมฝรั่งเศส
หอระฆังคู่มีความสูง 60 เมตร ด้านหน้ามีรูปปั้นพระแม่มารี
มีเรื่องเล่าว่าในปี ค.ศ.2005 รูปปั้นนี้หลั่งน้ำตาออกมาหลายวัน
โบสถ์นี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1880 ใช้เวลาประมาณ 5 ปีจึงสร้างเสร็จ
เพราะวัสดุที่ใช้สร้างอาคารทั้งหมดนำมาจากฝรั่งเศส
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน มีการจัดพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์
ตัวโบสถ์มีสีส้มสวยงามโดดเด่น
ด้านตรงข้ามโบสถ์คือ สำนักงานไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Central Post Office)
ตัวอาคารสีเหลืองสดใสมากๆค่ะ
ข้ามถนนไปเยี่ยมชมกันค่ะ
อาคารนี้ออกแบบโดย Gustave Eiffel สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1891
ด้านในใหญ่อลังการด้วยเพดานกระจกโค้งยาวตลอดแนวโถงของอาคาร รองรับด้วยเสาเหล็กสีเขียว
สุดโถงมีรูปวาดท่านโฮจิมินห์ขนาดใหญ่
สองข้างของอาคารเป็นร้านขายของฝากและของที่ระลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น