ขับรถออกจากสามเหลี่ยมทองคำตามเส้น 1290 ไปทางแม่สาย จนถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1 ขับตรงไปเรื่อยๆจนเห็นป้ายบอกทางเข้า อ.แม่ฟ้าหลวง ก็เลี้ยวขวาตามเส้น 1149
ระยะทางขึ้นสู่ดอยตุงประมาณ 17 กม.เป็นทางลาดยางขึ้นเขาที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก
เวลา 18:00 น.เดินทางถึงจุดชมวิว กม.12 สูงจากระดับน้ำทะเล 874 เมตร
พระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้าแล้วค่ะ อากาศก็เริ่มเย็นลง
เลยจากตรงนี้ไปจะมีทางแยกขึ้นสู่พระธาตุดอยตุง กม.17.5
แต่ตอนนี้เริ่มมืด เส้นทางขึ้นเขาก็แคบและชันพวกเราเลยไม่ได้ไปไหว้พระธาตุค่ะ
พวกเรามาถึงมืดแล้วเลยไม่ได้เก็บภาพที่พักด้านนอก ต้อง รีบเช็คอินเอาของเข้าไปเก็บในห้อง
แล้วออกมาทานอาหารเย็น ก่อนที่ห้องอาหารจะปิดค่ะ
เมนูวันนี้ ปลาทับทิมทอดกระเทียม เห็ดกรอบยำภูแล ต้มข่าไก่ใส่เห็ด
อาหารอร่อยมากๆค่ะทานกันจนหมดเรียบเลย นั่งทานกันจนเหลือโต๊ะสุดท้ายร้านจะปิดแล้วค่ะ
คุณป๋าจองห้องดีลักซ์เตียงแฝด วิวภูเขา ชั้นสอง พร้อมเตียงเสริม
ห้องกว้าง สะอาด และใหม่มากเพราะเพิ่งรีโนเวทไปไม่นานค่ะ
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ มีฟรีไวไฟ
น้ำดื่ม ชา กาแฟ ทานฟรีค่ะ
วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2559
เวลา 6:30 น.เมื่อคืนนอนหลับสบายมากๆเลยตื่นสาย ไม่ทันได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
เปิดประตูระเบียงออกมามีแต่หมอกและหมอก
รีบทำธุระส่วนตัวแล้วออกไปเดินเล่นกันค่ะ
อากาศตอนเช้าสดชื่นเย็นสบาย
ดอยตุง ลอด์จ เดิมเป็นสำนักงานและที่พักของหน่วยอนุรักษ์ต้นน้ำที่ 31 กรมป่าไม้
เมื่อเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุงฯ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จฯมาประทับทรงงานที่พระตำหนักดอยตุงแต่ละครั้งเป็นระยะเวลาหลายเดือน บางคราวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ
พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯมาเฝ้าเยี่ยม จึงสร้างบ้านพักขึ้นใหม่ในบริเวณนี้ สำหรับขบวนเสด็จและ
พนักงานของโครงการฯ
บ้านพักดังกล่าวสร้างเสร็จในปี 2540 หลังจากที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต
ทางผู้บริหารโครงการฯ จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานอนุญาตสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เปิดเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาอยู่บนดอยตุง
และนำรายได้ไปดูแลรักษาห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
อาคารที่พักด้านหลังกำลังรีโนเวทเลยปิดกั้นไว้ค่ะ เลยเหลือที่พักอยู่แค่อาคารเดียว
ทำให้คนเข้าพักเต็มตลอด ต้องจองล่วงหน้าค่ะ
ศาลาชมวิว
วันนี้มีแต่วิวหมอกค่ะ
อยากลองเล่นรถคันนี้บ้าง มีวางไว้หลายอันเลย แต่ก็กลัวทำของเค้าพังค่ะ
ไปส่องผีเสื้อกันดีกว่าค่ะ
ผีเสื้อแปลกๆเต็มเลย
ถ้ามีชิงช้าสักตัวก็ดีนะคะ
ด้านล่างคือห้องอาหารเช้าค่ะ
ทานอาหารเช้าที่ศาลาลีลาวดี อยู่ติดกับสำนักงาน
อาหารเช้า ขนมปัง แยมหลากชนิด ผลไม้ น้ำผลไม้ สลัด
ดริปคอฟฟี่
อาหารเช้ามีให้เลือกสองอย่างคือข้าวต้มปลา หมู และอเมริกันเบรคฟาสต์
เวลา 8:00 น. อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ขับรถขึ้นมาจอดด้านใน ไปเที่ยวในสวนกันค่ะ
ไปชมสวนแม่ฟ้าหลวงกันก่อนค่ะ
เช้านี้บนดอยตุงปกคลุมไปด้วยหมอกทั่วบริเวณ
ตรงนี้คือครัวพระตำหนักที่เรามาทานอาหารเย็นเมื่อวานค่ะ
ตั๋วเข้าชมสวน 3 ใบ
แผนที่ท่องเที่ยวบนดอยตุง
พวกเราเข้าชมสวนเป็นคนแรกเลยค่ะ
เช้านี้ขอเน้นแต่รูปดอกไม้นะคะ
สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนดอกไม้ประดับนานาพรรณ
มีดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกชัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่างๆ
นอกจากนั้นยังมีไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลื้อยอีกมากมายกว่า 70 ชนิด
Doi tung tree top walk
ถ้ามีเวลาก็น่าไปลองเดินเล่นนะคะ
วันนี้พวกเราเน้นชมดอกไม้ด้านล่างค่ะ
กระท่อมชาวเขาจำลอง
วันนี้น้ำขุ่นแดงเลยมองไม่เห็นปลาสักตัวเลยค่ะ
ดอกรักเร่ขนาดใหญ่
รักเร่หลากสีเป็นแนวยาว
ชิงช้าสวรรค์ 4 ที่นั่ง
รถเข็นดอกไม้
ดอกไม้ละลานตาทุกมุม
ยุ้งข้าวจำลอง
โรงเรือนกล้วยไม้รองเท้านารี
มีรองเท้านารีหลากสีหลายพันธุ์
สวนหิน
เขาวงกต Maze Garden
สวนไม้ดัด
สวนแม่ฟ้าหลวง หรือสวนดอยตุง เป็นสวนไม้ดอกไม่ประดับเมืองหนาว สูง 950 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534
บริเวณที่ตั้งของสวน สามารถปลูกดอกไม้เมื่องหนาวได้ สมเด็จย่าจึงมีพระราชประสงค์ให้ปลูก
เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีโอกาสไปต่างประเทศได้รู้จักและชื่นชมดอกไม้ที่สวยงามแปลกตา
ดอกไม้ที่สวนนี้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดทุกวันของปี
กลางสวนมีงานประติมากรรม ของนางมิเซียม ยิบอินซอย โดยสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงพระราชทานนามชื่อว่า "ความต่อเนื่อง" (Continuity) สื่อถึงการทำงานใดๆ จะสำเร็จได้ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2536 สวนแม่ฟ้าหลวง ได้รับรางวัล พาตา โกลด์ อวอร์ด (PATA Gold Award)
ประเภทรางวัลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเอเชีย - แปซิฟิก
ภายในสวนได้รับการออกแบบตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนับหมื่นอย่างสวยงาม
ราวกับผืนพรมธรรมชาติที่แปลเปลี่ยนไปตามทุกฤดูกาล ละลานตาด้วยแปลงไม้ดอก และไม้พุ่ม
ฝนเริ่มตกแล้วค่ะ
เข้ามานั่งหลบฝนใต้ซุ้มไม้
ฝนตกหนักมากๆค่ะ พวกเราลืมพกร่มเลยต้องยืนรอออกไปข้างนอกไม่ได้
ครั้งนี้พวกเราคงไม่ได้ไปชมพระตำหนักเลยเอาภาพเก่าตอนที่พวกเรามาเที่ยวดอยตุงครั้งแรก
เดือนตุลาคม พ.ศ.2552
พระตำหนักดอยตุง
วิวสวยๆหน้าพระตำหนัก
เวลา 10:30 น.ฝนก็ยังไม่หยุดตก พวกเราเลยต้องลุยฝนกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านพัก
เช็คเอ้าท์เสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น