ลงจากดอยตุง ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ตรงไปทาง อ.แม่จัน จนถึงแยกแม่สลองก็เลี้ยวขวาเข้าไปจากถนนใหญ่ประมาณ 10 กม.สังเกตุป้าย "ไร่ชาฉุยฟง" เส้นทางลาดยางตลอดขับสบายค่ะ
ผ่านไร่สับปะรดนางแล
ถึงแล้วค่ะ ไร่ชาฉุยฟง CHOUI FONG
คำว่า ฉุยฟง ในภาษาจีน หมายถึง ภูเขาที่เขียวชะอุ่ม
ขับรถขึ้นไปด้านบน มีที่จอดรถกว้างขวาง ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วเริ่มหิวไปทานอาหารกันก่อนค่ะ
ข้างนอกวิวสวยแต่ตอนนี้แดดแรงมาก พวกเราเลยเข้าไปนั่งด้านในค่ะ
สั่งอาหารมา 5 อย่าง สปาเกตตี้ ผัดหมี่เจ (พนักงานแนะนำว่าอร่อย)
ยำยอดใบชาทอดกรอบ ปีกไก่ราดซอส หมั่นโถชาเขียว
อาหารทุกเมนูจะมียอดอ่อนใบชาเป็นส่วนประกอบ
อาหารทุกเมนูจะมียอดอ่อนใบชาเป็นส่วนประกอบ
พวกเราเน้นอาหารค่ะ เพราะไม่ดื่มชาเขียวและไม่ทานเค้กชาเขียว
ทานอาหารเสร็จก็ออกมาชมไร่ชา
ไร่ชาฉุยฟงเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดีของบริษัท ฉุยฟงที จำกัด
ซึ่งเป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย
ไร่ชาฉุยฟง ปัจจุบันมี 2 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านพญาไพร ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง
และ อำเภอแม่จัน จังหวัด เชียงราย
พวกเรามาไร่ที่ที่เพิ่งเปิดล่าสุดและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ตั้งอยู่ใน อ.แม่จัน เชียงราย
ไร่ชานี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่
บรรยากาศของไร่ชาที่กว้างใหญ่ ปลูกโค้งวนไปตามไหล่เขา
ยอดอ่อนใบชา
เดินถ่ายภาพและชมความงามไร่ชาได้หลายจุด
เนินเขาด้านหลังเป็นโซนที่เพิ่งเปิดใหม่ มีเครื่องดื่มและเบเกอรี่ให้บริการ
ขับรถข้ามมาที่โซนใหม่กันค่ะ ที่เห็นในรูปคือโซนแรกที่เราเพิ่งไปถ่ายรูปและทานอาหารค่ะ
วิวไร่ชาตรงนี้ไม่สวยเท่าโซนแรก แต่ลานถ่ายรูปกว้างขวางดีค่ะ
เมฆฝนเริ่มตั้งเค้าดำมาเลย ฝนใกล้ตกแล้วค่ะ
รีบเก็บภาพแล้วออกเดินทางกลับค่ะ พอขึ้นรถฝนก็ตกหนักทันที
โชคดีที่ได้เก็บภาพและเดินเล่นในไร่ชาก่อนฝนตก
ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งหน้าไป อ.เมืองเชียงราย ฝนยังตกหนักตลอด
คุณป๋าเลยพาแวะ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พอเห็นป้ายทางเข้ามหาวิทยาลัยก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ
ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธรแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
เข้าไปชมด้านในกันค่ะ
เสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาท พร้อมแผ่นพับข้อมูล
The Sirindhorn Chinese Language and Culture Center
วันฝนตก ไม่มีคนเลยค่ะ เดินเล่นสบาย
ด้านในตกแต่งสวยมากๆค่ะ เหมือนเราเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านคนจีนเลย
ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนและมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สถาปัตยกรรมแบบจีน ตรงกลางเป็นสระน้ำขนาดใหญ่
รัฐบาลประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งใจสร้างศูนย์ฯนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 100 ปี
แห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปี พ.ศ.2543
มีการตกแต่งสวนด้วยต้นไม้และดอกไม้หลายชนิด ร่มรื่นเย็นสบาย
มีศาลาริมน้ำให้นั่งเล่นหลายหลัง
ศูนย์ฯแห่งนี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายแห่งไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างคนไทยและคนจีน
ห้องสมุดสถาบันขงจื่อ
กู่เจิง เครื่องดนตรีแบบโบราณของจีน เป็นเครื่องสายใช้มือดีด
วัสดุหลายอย่างนำเข้ามาจากประเทศจีน เช่น กระเบื้องหลังคา สิงโตหินอ่อนแกะสลัก
ม.แม่ฟ้าหลวงขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยสวยที่สุดในประเทศไทย โอบล้อมไปด้วยภูเขา
ขับรถผ่านโรงพยาบาล มีป้ายบอกทางไปวิหารพระเจ้าล้านทอง ขับขึ้นไปชมวิวบนภูเขากันค่ะ
วิหารพระเจ้าล้านทอง
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงเจริญพระชนมายุ50พรรษา
เป็นวิหารแบบเปิดโล่งไม่มีบานประตู ที่ปลายหลังคาแต่ละจุดมีลักษณะเหมือนหูช้าง
เสาทุกต้นในวิหารทาสีขาวตรงโคนปิดทองลวดลายสวยงาม
พระเจ้าล้านทองเป็นพระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ในวิหารโล่งและเย็นเราสามารถนั่งชมวิวสวยๆจากในวิหารได้เลยค่ะ
สังเกตุใต้ชายคาจะรองรับด้วย คันทวย หรือนาคาตัน ซึ่งแกะสลักไม้สักเป็นรูปพญานาคปิดทอง
ออกมาชมวิวด้านหน้าวิหาร
สนามหญ้าเขียวสด เมฆลอยต่ำสวยมากๆค่ะ
เวลา 16:00น. เดินทางกลับเข้าเมืองเชียงราย ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำกก ไปวัดห้วยปลากั้งกันค่ะ
ที่ตั้ง 553 ม.3 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย วัดตั้งอยู่บนเนิน มองเห็นเจ้าแม่กวนอิมโดดเด่นมากค่ะ
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวองค์ใหญ่ตั้งอยู่บนเนินหญ้าสีเขียว เรียกว่า เนินพระโพธิสัตว์
ข้างๆกำลังก่อสร้างพระอุโบสถสีขาว
ลวดลายปูนปั้นงดงามคล้ายวัดร่องขุ่น
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัดคือ "พบโชคธรรมเจดีย์"
เป็นเจดีย์สูง 9 ชั้น ทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดง
มีเนินเขารายล้อมอยู่รอบๆ มองเห็นวิวสวยงาม
เมฆลอยต่ำ เหมือนเรายืนบนเมฆเลยค่ะ
พระอุโบสถอยู่ข้างๆเจดีย์
เจ้าแม่กวนอิมมีความสูง 69 เมตร ขึ้นไปด้านด้วยลิฟต์ 23 ชั้น
ด้านล่างที่เราเห็นคือ ภัตตาคารพบโชค เป็นโรงอาหารให้กินฟรีค่ะ
เข้าไปด้านในเจดีย์กันค่ะ
ชั้นที่ 1
เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพรขนาดใหญ่ แกะสลักด้วยไม้จันทน์หอมที่นำมาจาก จีน อินเดีย พม่า
ชั้นที่ 5 เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ
ชั้นที่ 6 หลวงพ่อโต พรหมรังสี
ชั้นที่ 7 พระพุทธรูปปางนาคปรก
ชั้นที่ 8 พระสังกัจจายน์
ชั้นที่ 9 พระอิศวร
พวกเราขึ้นไปแค่ชั้น 4 ก็หมดแรงแล้วค่ะ
วัดพระแก้ว แต่เดิมมีชื่อว่า วัดป่าเยี้ย เป็นจุดที่ค้นพบพระแก้วมรกต
และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตเป็นเวลา 45 ปี
พระพุทธรัตนกร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล หรือพระหยกเขียงราย
เป็นพระพุทธรูปหยกที่สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุ
ครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2533
พ.ศ.1977 ได้เกิดฟ้าผ่าลงองค์พระเจดีย์ พังทลายพบพระแก้วมรกตซ่อนในพระเจดีย์
หลังจากนั้นได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานที่ ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรีและที่สุดท้ายคือ วัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่เป็นเจดีย์หุ้มทองเหลืองอร่ามทั้งองค์
พระอุโบสถวัดพระแก้ว อยู่ด้านหน้าองค์พระเจดีย์
ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของ พระเจ้าล้านทอง
เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงรายเคารพนับถือเป็นอันมาก
วัดพระสิงห์เชียงราย พระอารามหลวง
เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงราย ในอดีตเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์
พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทยสมัยเชียงแสน โครงสร้างทำด้วยไม้เนื้อแข็ง
พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง เนื้อสำริดปิดทอง ปางมารวิชัย
หอพระสิงห์ ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์(พระสิงห์)จำลอง ศิลปะเชียงแสนปางมารวิชัย
พวกเราไม่ได้เข้าไปไหว้เพราะปิดแล้วค่ะ
วัดกลางเวียง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย
วนหาที่จอดรถอยู่นานเลยเดินเข้าทางด้านหลังวัดค่ะ
พระธาตุช้างค้ำตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร
พระธาตุมีรูปแบบร่วมสมัย ประดับซุ้มด้วยพระพุทธรูปจำนวนมาก ฐานเจดีย์ประดับด้วยช้างทรงเครื่อง
ด้านหลังวัดมีบ่อน้ำโบราณ
วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงรายจึงมีการสถาปนาสะดือเวียง หรือเสาหลักเมือง
ปัจจุบันเสาหลักเมืองเก่าได้ล้มไปนานแล้ว
ในปี พ.ศ.2535 จึงมีการสร้างเสาหลักเมืองขึ้นมาใหม่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปทรงฟักทองยอดแหลม
วิหารวัดกลางเวียง เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์สวยงามมากๆค่ะ
ด้านในประดิษฐานพระประธาน ลงรักปิดทองเหลืองอร่าม
เวลา 18:30 น.หาที่จอดรถแล้วไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินเชียงรายกันค่ะ
เดินผ่านโบสถ์คริสต์หลังใหญ่มาก
เย็นนี้ทานอาหารที่ ร้านภูแล ร้านกว้างขวางนั่งสบายไม่ค่อยมีคนเพราะวันนี้มีถนนคนเดินค่ะ
ทานอาหารเสร็จก็ไปเดินย่อยอาหารกันต่อ