เวลา 23:30 น.ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยสายการบิน Eastar Jet นั่งหลับๆตื่นๆบนเครื่องจนเวลาประมาณ 6:30น. กัปตันก็ประกาศว่าไม่สามารถนำเครื่องลงที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ เมืองปูซานได้ เนื่องจากมีพายุฝนและลมแรง จึงขอไปลงที่สนามบินในกรุงโซลแทน เลยต้องบินขึ้นเหนือไปอีกประมาณ 1 ชม.
วันพุธที่ 3 พ.ค.2559
เวลา 7:30 น.เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินกิมโป กรุงโซล อย่างปลอดภัย WELCOME TO KOREA
สนามบินนานาชาติกิมโปมีขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นานก็รับกระเป๋า ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ออกจากสนามบินได้เลยค่ะ
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงยอดเขาแล้วค่ะ ปริมาณคนด้านบนไม่มากเหมือนด้านล่างเพราะอาจมีคนขึ้นมาไม่ไหวก็ย้อนกลับลงไปก่อน
เวลา 7:30 น.เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินกิมโป กรุงโซล อย่างปลอดภัย WELCOME TO KOREA
สนามบินนานาชาติกิมโปมีขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นานก็รับกระเป๋า ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ออกจากสนามบินได้เลยค่ะ
มีเมฆฝนเป็นเพื่อนตลอดการเดินทาง
คิดในแง่ดีคือได้นั่งรถชมวิวประเทศเกาหลีใต้จากเหนือจรดใต้เลยค่ะ
ระยะทางจากโซลถึงปูซาน 332 กม.
เวลาประมาณ 15:30น.พวกเราก็เดินทางมาถึงเมืองปูซานแล้วค่ะ ดีใจมากๆ
สรุปใช้เวลาเดินทางจากประเทศไทยมาถึงปูซาน 16 ชม.
อากาศที่ปูซานตอนนี้เย็นสบายลมแรง ฝนหยุดตกแล้ว
แวะทานอาหารมื้อแรก(มื้อเที่ยง)กันที่ภัตตาคารใกล้ๆสนามบิน
พลุโกกิ ร้อนๆ
ทานกันแบบเติมไม่อั้นเลยค่ะ หิวมากๆ อดอาหารมาทั้งวัน เด็กได้เพิ่มไข่ดาวพิเศษ
ทานอาหารเสร็จก็เดินทางมายังสนามบินกิมแฮเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะเจจู
เช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินในประเทศ Air Busan
เช็คอินเสร็จก็เข้ามาเดินเล่นในเกท
เที่ยวบินดีเลย์ 4 ชม.เนื่องจากตอนเช้ามีพายุเข้าเลยเสียเวลาต่อเนื่องทุกเที่ยวบิน
นั่งรอจนมืดเลยค่ะ
เวลา 20:30น.เดินทางมาถึงเกาะเจจู
ทานอาหารเย็นที่โรงแรมเลยค่ะ
มื้อเย็นนี้เป็นบุฟเฟต์ซีฟู้ด ยกมาทั้งทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา สดอร่อยทุกอย่างค่ะ
ที่เกาะเจจูขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่
ทานอาหารเสร็จก็เข้าที่พักรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าออกท่องเที่ยวกัน
ห้องพักสะอาดและใหม่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ที่พื้นก็มีฮีทเตอร์เดินแล้วอุ่นสบายเท้าดีค่ะ
เวลา 6:30 น ตื่นเช้าออกมาชมวิวที่ระเบียงห้องนอนบรรยากาศสวยมากๆอากาศเย็นสบาย
เห็นภูเขาฮัลลาอยู่ไกลๆ(Hallasan)
อาบน้ำ ทานอาหารเช้าที่ รร เสร็จก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกกันค่ะ
ที่พักของเราชื่อ SEA&HOTEL
ด้านหน้า รร. ติดทะเล(มีถนนกั้น) คืนนี้เราจะไปเดินเล่นที่ชายทะเลเจจูกันค่ะ
ด้านข้างโรงแรม น่าจะเป็น รร.อนุบาล มีสนามเด็กเล่น ตึกน่ารักมากๆค่ะ
เวลา 8:00 น. ออกเดินทางท่องเที่ยวกันค่ะ
ตลอดสองข้างทางสวยธรรมชาติมากๆ เกาะเจจูเป็นที่พักตากอากาศยอดนิยมของคนเกาหลี
บนเกาะนี้ลมแรงมาก ระหว่างนั่งรถจะเห็นกังหันลมอยู่มากมาย
ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็เดินทางมาถึงซองซาน อิลจุลบง (Seongsan ilchulbong)
เป็นภูเขาไฟที่ระเบิดกลางทะเลและมีลาวาไหลมารวมตัวกับเกาะเจจู
ศึกษาแผนที่ด้านหน้าก่อนเดินขึ้นสู่ยอดเขาค่ะ
ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก(UNESCO WORLD HERITAGE)
เป็นหนึ่งในสถานที่สวยงามของเกาะเจจู
ฟิตกันมาเต็มที่อากาศดีแบบนี้พวกเราจะไปพิชิตให้ถึงยอดเขาเลยค่ะ ความสูงประมาณ 200 เมตร
ค่าเข้าคนละ 2000วอน(ไม่แพงเลย)
มีคนเกาหลีและนักท่องเที่ยวมาที่นี่เยอะมาก
NEW 7 WONDERS OF NATURE
เตรียมน้ำดื่มและลูกอมให้พร้อมก็ลุยเลยค่ะ
ด้านล่างจะเป็นพื้นหินราบ มีราวให้จับสองข้างเพื่อความปลอดภัยตลอดทางเพราะลมแรงมาก
คนผอมๆปลิวตามลมได้เลยค่ะ
แวะถ่ายรูปพักเหนื่อยไปเรื่อยๆค่ะ
มองลงไปจะเห็นตัวเมืองเจจู
ยิ่งสูงยิ่งลมแรง
ทางฝั่งตะวันออกติดทะเล
เดินขึ้นมาถึงทางแยก
ทางด้านขวามือเป็นทางลง ส่วนทางขึ้นอยู่ทางซ้าย
บันไดไม่ชันเดินสบายค่ะ
ระหว่างทางมีห้องน้ำไว้บริการด้วยค่ะ
ยังยิ้มได้เพราะอากาศไม่ร้อน ลมเย็นสบาย
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงยอดเขาแล้วค่ะ ปริมาณคนด้านบนไม่มากเหมือนด้านล่างเพราะอาจมีคนขึ้นมาไม่ไหวก็ย้อนกลับลงไปก่อน
ด้านหลังนี้คือปากปล่องภูเขาไฟที่ดับตัวลงแล้ว เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำมากกว่า 100,000ปี
เป็นแอ่งใหญ่ตรงกลาง ขอบด้านข้างยกตัวขึ้น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 600 เมตร ลึก 90 เมตร
ตรงปากปล่องเป็นขอบหิน 99 หยัก จึงดูเหมือนมงกุฏยักษ์
ขนาดใหญ่ประมาณสนามฟุตบอล 6 สนาม ไม่สามารถใช้กล้องธรรมดาเก็บภาพความกว้างทั้งหมดได้ค่ะ
ดีใจมากๆได้มาเหยียบปากปล่องภูเขาไฟแล้ว แถมวันนี้อากาศดี ฟ้าเปิดแดดอ่อนๆลมเย็น
หญ้าสีเขียวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเป็นประกายสวยที่สุดเลยค่ะ ถ้ามาแต่เช้าจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น
ที่งดงามจนมีคนขนานนามว่า ยอดเขาแห่งรุ่งอรุณ Sunrise Peak
-v
ขอบคุณข้อมูลและภาพมุมสูงจากเวป Jeju Tourism Organization
ด้านล่างที่เห็นคือหมู่บ้านซองซานโพ
วิวบนยอดเขาสวยงามมากมองไปได้ไกลสุดตา 360 องศาเลยค่ะ
จุดสูงสุดไม่กล้าไปยืนค่ะ
เดินเล่นสักพักก็ต้องเดินลงแล้วค่ะ
บันไดชันนิดแต่เดินสบายมีราวให้จับตลอดทาง
หยุดถ่ายรูปพักเหนื่อยตลอดทางค่ะ
ทางลงด้านล่างมีทางแยกไปทำกิจกรรมหลายอย่างค่ะ ทั้งนั่งเรือและขี่ม้า
ด้านล่างเป็นหมู่บ้านชาวประมงมีทางลงให้ไปเดินเล่นได้ค่ะ
มีบริการนั่งเรือชมวิวรอบๆเกาะ
ที่ด้านล่างจะมีนักดำน้ำหญิง Haenyeo มาโชว์การแสดงดำน้ำลงไปเก็บสัตว์ทะเลขึ้นมาขาย
JEJU WOMAN DIVER PERFORMANCE รอบการแสดงมีตอนบ่ายค่ะ พวกเราอดดู
ช่วงนี้เป็นฤดุใบไม้ผลิ ต้นหญ้าเขียวสดใส ดอกไม้บานเต็มทุ่งสวยงามมากๆค่ะ
ดอกหญ้าสีม่วงหวานๆเต็มไปหมด
ลมแรงผมปลิวกระจาย
ลงมาถึงด้านล่างแล้วค่ะ สรุปใช้เวลาขึ้นลงเขาประมาณ 60 นาที
แวะซื้อน้ำส้มคั้นเจจูมาลองทานค่ะ รสชาติหวานนิดๆ
เดินทางต่อมายังทุ่งดอกยูเซ(ที่ญี่ปุ่นเรียกว่าทุ่งดอกเรป)
ทุ่งสีเหลืองอร่ามริมทะเล
อยู่ไม่ห่างจากซองซานอิลจุลบงค่ะ
ช่วงนี้มีฝนตกหนักทำให้ต้นดอกยูเซล้มไปเยอะค่ะ
ดูใกล้ๆเหมือนดอกกวางตุ้งบ้านเรา
หินคุณปู่ฮารูบัง
เก็บภาพกันไม่เบื่อเลยค่ะ
ต้นส้มเจจูลูกใหญ่เปลือกหนา
จบที่มุมถ่ายรูปสุดฮิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น