TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2559/05/03

1.ภูเขาไฟอิลจุลบง-ทุ่งดอกยูเซ เกาะเจจู

วันอังคารที่ 2 พ.ค.2559
เวลา 23:30 น.ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยสายการบิน Eastar Jet นั่งหลับๆตื่นๆบนเครื่องจนเวลาประมาณ 6:30น. กัปตันก็ประกาศว่าไม่สามารถนำเครื่องลงที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ เมืองปูซานได้ เนื่องจากมีพายุฝนและลมแรง จึงขอไปลงที่สนามบินในกรุงโซลแทน เลยต้องบินขึ้นเหนือไปอีกประมาณ 1 ชม.
วันพุธที่ 3 พ.ค.2559
 เวลา 7:30 น.เครื่องก็ลงจอดที่สนามบินกิมโป กรุงโซล อย่างปลอดภัย WELCOME TO KOREA




สนามบินนานาชาติกิมโปมีขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นานก็รับกระเป๋า ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ออกจากสนามบินได้เลยค่ะ




ทางสายการบินได้นำรถบัส VIP พาพวกเราเดินทางลงใต้ต่อไปยังเมืองปูซาน




มีเมฆฝนเป็นเพื่อนตลอดการเดินทาง 



คิดในแง่ดีคือได้นั่งรถชมวิวประเทศเกาหลีใต้จากเหนือจรดใต้เลยค่ะ 
ระยะทางจากโซลถึงปูซาน 332 กม.



เวลาประมาณ 15:30น.พวกเราก็เดินทางมาถึงเมืองปูซานแล้วค่ะ ดีใจมากๆ
สรุปใช้เวลาเดินทางจากประเทศไทยมาถึงปูซาน 16 ชม.



อากาศที่ปูซานตอนนี้เย็นสบายลมแรง ฝนหยุดตกแล้ว


แวะทานอาหารมื้อแรก(มื้อเที่ยง)กันที่ภัตตาคารใกล้ๆสนามบิน



พลุโกกิ ร้อนๆ



ทานกันแบบเติมไม่อั้นเลยค่ะ หิวมากๆ อดอาหารมาทั้งวัน เด็กได้เพิ่มไข่ดาวพิเศษ



ทานอาหารเสร็จก็เดินทางมายังสนามบินกิมแฮเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะเจจู
เช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินในประเทศ Air Busan



เช็คอินเสร็จก็เข้ามาเดินเล่นในเกท



เที่ยวบินดีเลย์ 4 ชม.เนื่องจากตอนเช้ามีพายุเข้าเลยเสียเวลาต่อเนื่องทุกเที่ยวบิน
นั่งรอจนมืดเลยค่ะ



เวลา 20:30น.เดินทางมาถึงเกาะเจจู



ทานอาหารเย็นที่โรงแรมเลยค่ะ
มื้อเย็นนี้เป็นบุฟเฟต์ซีฟู้ด ยกมาทั้งทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา สดอร่อยทุกอย่างค่ะ 
ที่เกาะเจจูขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่



ทานอาหารเสร็จก็เข้าที่พักรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าออกท่องเที่ยวกัน
ห้องพักสะอาดและใหม่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ที่พื้นก็มีฮีทเตอร์เดินแล้วอุ่นสบายเท้าดีค่ะ



เวลา 6:30 น ตื่นเช้าออกมาชมวิวที่ระเบียงห้องนอนบรรยากาศสวยมากๆอากาศเย็นสบาย
เห็นภูเขาฮัลลาอยู่ไกลๆ(Hallasan)



อาบน้ำ ทานอาหารเช้าที่ รร เสร็จก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกกันค่ะ
ที่พักของเราชื่อ SEA&HOTEL



ด้านหน้า รร. ติดทะเล(มีถนนกั้น) คืนนี้เราจะไปเดินเล่นที่ชายทะเลเจจูกันค่ะ




ด้านข้างโรงแรม น่าจะเป็น รร.อนุบาล มีสนามเด็กเล่น ตึกน่ารักมากๆค่ะ




เวลา 8:00 น. ออกเดินทางท่องเที่ยวกันค่ะ



ตลอดสองข้างทางสวยธรรมชาติมากๆ เกาะเจจูเป็นที่พักตากอากาศยอดนิยมของคนเกาหลี



บนเกาะนี้ลมแรงมาก ระหว่างนั่งรถจะเห็นกังหันลมอยู่มากมาย



ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็เดินทางมาถึงซองซาน อิลจุลบง (Seongsan ilchulbong) 
เป็นภูเขาไฟที่ระเบิดกลางทะเลและมีลาวาไหลมารวมตัวกับเกาะเจจู
ศึกษาแผนที่ด้านหน้าก่อนเดินขึ้นสู่ยอดเขาค่ะ






ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก(UNESCO WORLD HERITAGE)
 เป็นหนึ่งในสถานที่สวยงามของเกาะเจจู




ฟิตกันมาเต็มที่อากาศดีแบบนี้พวกเราจะไปพิชิตให้ถึงยอดเขาเลยค่ะ ความสูงประมาณ 200 เมตร




ค่าเข้าคนละ 2000วอน(ไม่แพงเลย)




มีคนเกาหลีและนักท่องเที่ยวมาที่นี่เยอะมาก 




NEW 7 WONDERS OF NATURE




เตรียมน้ำดื่มและลูกอมให้พร้อมก็ลุยเลยค่ะ



ด้านล่างจะเป็นพื้นหินราบ มีราวให้จับสองข้างเพื่อความปลอดภัยตลอดทางเพราะลมแรงมาก 
คนผอมๆปลิวตามลมได้เลยค่ะ



แวะถ่ายรูปพักเหนื่อยไปเรื่อยๆค่ะ





มองลงไปจะเห็นตัวเมืองเจจู






ยิ่งสูงยิ่งลมแรง




ทางฝั่งตะวันออกติดทะเล




เดินขึ้นมาถึงทางแยก




ทางด้านขวามือเป็นทางลง ส่วนทางขึ้นอยู่ทางซ้าย





บันไดไม่ชันเดินสบายค่ะ



ระหว่างทางมีห้องน้ำไว้บริการด้วยค่ะ




มีจุดชมวิวตลอดทางสามารถชมวิวผ่านกล้อง หยอดเหรียญครั้ง 200วอน








Unique Rocks 










ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกระยะทางและความสูงจากน้ำทะเลด้วยค่ะ






ยังยิ้มได้เพราะอากาศไม่ร้อน ลมเย็นสบาย




ในที่สุดพวกเราก็มาถึงยอดเขาแล้วค่ะ ปริมาณคนด้านบนไม่มากเหมือนด้านล่างเพราะอาจมีคนขึ้นมาไม่ไหวก็ย้อนกลับลงไปก่อน






ด้านหลังนี้คือปากปล่องภูเขาไฟที่ดับตัวลงแล้ว เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำมากกว่า 100,000ปี



 เป็นแอ่งใหญ่ตรงกลาง ขอบด้านข้างยกตัวขึ้น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 600 เมตร ลึก 90 เมตร 
ตรงปากปล่องเป็นขอบหิน 99 หยัก จึงดูเหมือนมงกุฏยักษ์



ขนาดใหญ่ประมาณสนามฟุตบอล 6 สนาม ไม่สามารถใช้กล้องธรรมดาเก็บภาพความกว้างทั้งหมดได้ค่ะ




ดีใจมากๆได้มาเหยียบปากปล่องภูเขาไฟแล้ว แถมวันนี้อากาศดี ฟ้าเปิดแดดอ่อนๆลมเย็น




หญ้าสีเขียวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเป็นประกายสวยที่สุดเลยค่ะ ถ้ามาแต่เช้าจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น
ที่งดงามจนมีคนขนานนามว่า ยอดเขาแห่งรุ่งอรุณ Sunrise Peak





-v
 ขอบคุณข้อมูลและภาพมุมสูงจากเวป Jeju Tourism Organization



ด้านล่างที่เห็นคือหมู่บ้านซองซานโพ



วิวบนยอดเขาสวยงามมากมองไปได้ไกลสุดตา 360 องศาเลยค่ะ



จุดสูงสุดไม่กล้าไปยืนค่ะ



เดินเล่นสักพักก็ต้องเดินลงแล้วค่ะ




บันไดชันนิดแต่เดินสบายมีราวให้จับตลอดทาง





หยุดถ่ายรูปพักเหนื่อยตลอดทางค่ะ





ทางลงด้านล่างมีทางแยกไปทำกิจกรรมหลายอย่างค่ะ ทั้งนั่งเรือและขี่ม้า




ด้านล่างเป็นหมู่บ้านชาวประมงมีทางลงให้ไปเดินเล่นได้ค่ะ





บางคนที่เดินขึ้นยอดเขาไม่ไหวก็ลงมาเดินเล่นที่ด้านล่างนี้กันค่ะ






มีบริการนั่งเรือชมวิวรอบๆเกาะ




ที่ด้านล่างจะมีนักดำน้ำหญิง Haenyeo มาโชว์การแสดงดำน้ำลงไปเก็บสัตว์ทะเลขึ้นมาขาย




JEJU WOMAN DIVER PERFORMANCE  รอบการแสดงมีตอนบ่ายค่ะ พวกเราอดดู





ช่วงนี้เป็นฤดุใบไม้ผลิ ต้นหญ้าเขียวสดใส ดอกไม้บานเต็มทุ่งสวยงามมากๆค่ะ




ดอกหญ้าสีม่วงหวานๆเต็มไปหมด






ลมแรงผมปลิวกระจาย




ลงมาถึงด้านล่างแล้วค่ะ สรุปใช้เวลาขึ้นลงเขาประมาณ 60 นาที




แวะซื้อน้ำส้มคั้นเจจูมาลองทานค่ะ รสชาติหวานนิดๆ





เดินทางต่อมายังทุ่งดอกยูเซ(ที่ญี่ปุ่นเรียกว่าทุ่งดอกเรป)





ทุ่งสีเหลืองอร่ามริมทะเล




อยู่ไม่ห่างจากซองซานอิลจุลบงค่ะ




ช่วงนี้มีฝนตกหนักทำให้ต้นดอกยูเซล้มไปเยอะค่ะ




ดูใกล้ๆเหมือนดอกกวางตุ้งบ้านเรา



หินคุณปู่ฮารูบัง




เก็บภาพกันไม่เบื่อเลยค่ะ








ต้นส้มเจจูลูกใหญ่เปลือกหนา












จบที่มุมถ่ายรูปสุดฮิต




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น