ส่งท้ายปีเก่า 2558 สู่ปีใหม่ 2559 คุณป๋าพาพวกเราไปไหว้พระสักการะมหาบูชาสถานที่พม่ากันค่ะ
เวลา 10:00 น. ออกเดินทางสู่เมื่องย่างกุ้ง ประเทศพม่า ด้วยสายการบินไทยสไมล์
พอเครื่องขึ้นสักพัก พนักงานก็เสิร์ฟอาหารเช้า มีขนมและน้ำครบค่ะ
เวลา 11:00 น.เดินทางถึงสนามบินมิงกลาดง เมืองย่างกุ้ง เมียนมาร์ (เวลาที่พม่าช้ากว่าเมืองไทย
30 นาที) ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเสร็จก็ขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางเลยค่ะ
ไกด์ของเราทริปนี้ ไกด์พม่าเป็นผู้ชายชาวไทยใหญ่ ชื่อบุญมา พูดไทยเก่งค่ะ
ก่อนออกนอกเมืองแวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคารอาหารไทย ร้าน SOMBOON SEA FOOD
อาหารเต็มโต๊ะเลยค่ะ หิวจัดรีบทาน (ลืมถ่ายก่อนทาน)
ทานอาหารเสร็จก็เดินทางสู่เมืองสิเรียม(Thanlyin) อยู่ห่างจากย่างกุ้ง 45 กม.
ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชม.กว่าๆ (รถติดมาก)
ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี
ผู้สร้างเจดีย์ได้อธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์
ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นเกาะ
เจดีย์ถูกคลุมด้วยเสื่อเพราะกำลังมีการบูรณะอยู่ค่ะ
เข้าไปนมัสการพระพุทธรูปแกะสลักศักดิ์สิทธิ์บริเวณพระเจดีย์
นมัสการพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องจักรพรรดิประดิษฐานบนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดทองคำทองเปลว
อาคารแสดงภาพที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายพระสุบินของพระเจ้าปเสนทิโกศล จำนวน 16 ข้อ
ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงบอกว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นในยุคที่ศาสนาเสื่อมลง ในปัจจุบันก็เกิดหลายอย่างแล้ว
ส่วนที่สำคัญบนเกาะนี้คือ ส่วนมุขที่ยื่นไปในน้ำด้านหลังพระเจดีย์
เป็นที่ประดิษฐานของ พระอุปคุต
ตามตำนานเล่าว่าหลังจากพระอุปคุตปราบช้างตกมันแล้ว พระเจ้าอโศกจึงถวายภัตตาหารแต่ใกล้จะเลยเวลาฉันแล้ว ท่านจึงกล่าวว่า "หยุดก่อนเถิดท่านพระอาทิตย์ เพิ่งปฏิบัติกิจเสร็จยังไม่ได้ฉันอาหารเลย" พระอาทิตย์ก็หยุดรอ
พระอุปคุตจึงมองพระอาทิตย์ไปด้วยและฉันอาหารไปด้วย เพื่อห้ามไม่ให้พระอาทิตย์เคลื่อนเกินศรีษะ
ดังนั้นจึงนิยมสร้างเป็นรูปพระมือขวาล้วงบาตรเงยหน้ามองพระอาทิตย์
ชาวพม่าเชื่อว่า พระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้ตลอดและมีโชคลาภ
เครื่องแต่งกายของกษัตริย์พม่าสมัยโบราณ
เดินชมจนทั่วก็ได้เวลานั่งเรือข้ามฟากกลับค่ะ
เวลา 15:00 น.นั่งรถกลับเข้าเมืองย่างกุ้ง
เวลา 17:00 น.เดินทางมาถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
ระหว่างรอขึ้นลิฟท์เพื่อไปที่เจดีย์ก็ขอเก็บภาพระยะไกลหน่อยค่ะ ทางขึ้นทั้ง 4 ทิศ จะมีวิหารโถง
สร้างด้วยเครื่องไม้หลังคาทรงปราสาทปิดทองล่องชาดประดับกระจกทั้งหลัง
พวกเราขึ้นลิฟท์เข้ามาทางด้านหลังพระเจดีย์ ส่วนถ้าเดินขึ้นบันไดจะเข้าทางด้านหน้าพระเจดีย์
เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง (ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง) แห่งลุ่มน้ำอิระวดี
ไกด์บอกว่าเราขึ้นมาช่วงเย็นแบบนี้เป็นเวลาดีที่สุดเพราะอากาศไม่ร้อนมากเวลาเดินไม่ร้อนเท้า
และเราจะสามารถเห็นพระเจดีย์หลายสีสันจากเย็น-พระอาทิตย์ตก-มืด
ซื้อดอกไม้ช่อใหญ่พิเศษไหว้พระเจดีย์
เดินหามุมพระเจดีย์ที่สวยที่สุด...คือบริเวณลานอธิษฐาน...แล้วปักหลักตั้งกล้องเลยค่ะ
พระอาทิตย์จะตกแล้ว
มีความสูงถึง 326 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ 8 เส้น
เจดีย์นี้มีทองคำโอบหุ้มอยู่รวมน้ำหนักถึง 1100 กก. ยอดฉัตรประดับด้วยเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่า
กว่า 5,548 เม็ด โดยเฉพาะเพชรเม็ดใหญ่ขนาด 76.6 กะรัต
รอบองค์พระเจดีย์มีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้ง 8 ทิศ 8 องค์
มีป้ายชื่อวันเป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ ใครเกิดวันไหนก็ไปสรงน้ำพระประจำวันเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ไปเดินชมความงามรอบพระเจดีย์สักรอบค่ะ
รอบๆพระเจดีย์มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้มากมายทุกมุมเลยค่ะ
อาคารแสดงภาพถ่ายของเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda Photo Gallery)
ทุกศาลาละลานตาไปด้วยสีทอง อิ่มบุญและอิ่มทองมากๆค่ะ
ชาวพม่ามากราบไหว้กันเยอะมากเพราะถือว่าการมากราบไว้บูชาเจดีย์ชเวดากองเป็นประจำ
จะนำมาซึ่งบุญกุศลอันเป็นหนทางสู่การหลุดพ้นทุกข์โศกโรคภัยทั้งปวง
คนที่นี่นิยมนำของสีทองมาทำบุญ ขนาดมะพร้าวยังทาสีทองเลยค่ะ
จับดูแล้วเป็นลูกมะพร้าวของจริงค่ะ
รอบองค์พระเจดีย์รายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างกว่าร้อยหลัง มีทั้งสถูปบริวาร วิหารทิศ
วิหารรายและศาลามากมาย
เดินจนครบรอบพระเจดีย์แล้วค่ะ ไกด์บอกว่าระยะทางโดยรอบประมาณ 1 กม.
ไกด์พาเดินอ้อมมาจุดตำแหน่งพิเศษ เพื่อชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตร
โดยจุดชมแต่ละระยะจะได้เห็นสีแตกต่างกันออกไปเช่น สีเหลือง น้ำเงิน ส้ม แดง
แปลกมากๆค่ะ ต้องมองด้วยตาเปล่านะคะ ถ่ายรูปไม่ติด
พระพุทธรูปที่มีพระพักตร์งดงามที่สุด
ขออำลาพระเจดีย์ชเวดากองที่ลานอธิษฐาน ซึ่งเป็นจุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ
เวลา 20:00 น. เดินทางออกจากเจดีย์ชเวดากอง
พวกเรามีความสุขมากค่ะได้ไหว้พระวันส่งท้ายปีเก่าในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้
แวะทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
เวลา 21:00 น.คืนนี้เราพักที่โรงแรมเรือระดับ 5 ดาว Vintage Luxury Hotel
ลองทายว่าในถังนี้มีอะไร?
เป็นตู้เย็นค่ะ
ห้องน้ำมีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง มีเครื่องทำน้ำอุ่นและอ่างอาบน้ำด้วยค่ะ(ไม่ได้เก็บภาพมา)
สิ่งที่เก๋ไก๋ที่สุดในห้อง ที่มะปรางให้ความสนใจมากๆคือ กระจกบานนี้ค่ะ
กระจกพิมพ์ลายแผนที่โลกไว้อย่างละเอียด ถ่ายภาพได้ไม่ชัดค่ะ
มีเตาผิงในห้องด้วย!!
มะปรางลองจับแล้วไม่ร้อนค่ะ...เพราะเป็นจอภาพเคลื่อนไหว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น