เวลา 7:30 น.ออกเดินทางด้วยรถหกล้อเหมือนเดิมเพื่อลงจากพระธาตุอินทร์แขวน ขาลงใช้เวลาไม่นานประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงคิมปูนแคมป์ เปลี่ยนเป็นรถบัสคันเดิม เดินทางเข้าไปในเมืองหงสาวดี
เวลา 10:00น. เดินทางมาถึงเจดีย์ชเว-มอร์ดอร์ (Shwe Mordore Pagoda) หรือพระธาตุมุเตา
เจดีย์นี้ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี มีอายุเก่าแก่กว่า 2600 ปี
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยมาสักการะหลายครั้ง และ ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ ตามประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์
ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน (สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของชาวพม่า)
พระเจดีย์สูง 114 เมตร (สูงกว่าพระเจดีย์ชเวดากอง 14 เมตร) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า
ชื่อพระเจดีย์ แปลว่าจมูกร้อน เนื่ิองจากมีความสูงมากจึงต้องแหงนหน้ามองจนจมูกโดนแสงแดดเผา
ตอนนี้องค์พระเจดีย์กำลังมีการบูรณะอยู่ค่ะ เลยยังเห็นความงามได้ไม่เต็มที่
ไหว้พระประจำวันเกิด รดน้ำ ทำบุญ
บริเวณรอบๆพระเจดีย์
ไหว้พระในวิหาร
รอบๆพระธาตุมีวิหารและศาลาภายในประดิษฐานพระพุทธรูปจำนวนมากให้กราบไหว้
เดินชมรอบพระธาตุจนครบ 1 รอบ
บริเวณนี้เป็นจุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ ด้านหลังทางขวามือคือยอดพระเจดีย์ที่หักตกลงมา
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2473 เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
ยอดพระเจดีย์นี้มีน้ำหนักมหาศาล ตกลงมาที่พื้นล่างแต่ยอดฉัตรยังคงสภาพเดิมไม่แตกกระจายออกไป จึงเป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์
เราสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์ที่หักลงมาเพื่อความเป็นสิริมงคล
เปรียบเสมือนการค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป
อำลาพระธาตุมุเตา พระเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองหงสาวดี
เวลา 12:00 น.ทานอาหารเที่ยงในเมืองหงสาวดี
ก่อนออกจากเมืองหงสาวดี ไกด์แนะนำว่าต้องลองทานแตงโมหงสาฯก่อนกลับค่ะ
เราจะเห็นร้านขายแตงโมตลอดสองข้างทาง แตงโมที่นี่ลูกใหญ่และหนักมากๆ
แตงโม ภาษาพม่าเรียกว่า พแยตี
รสชาติหวานฉ่ำอร่อยค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆแบบนี้เลย
คนพม่าบอกว่าแตงโมที่อร่อยต้องมาจากหงสาวดีค่ะ
เวลา 15:00 น.เดินทางมาถึงเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คืออนุสาวรีย์พลอย เป็นวงเวียนใหญ่อยู่กลางเมืองเลยค่ะ
แวะช็อปปิ้ง ที่ตลาดโบโจ๊กอองซาน ( Bogyoke Aung San). หรือตลาดสก็อต (Scot Market)
เป็นตลาดเก่าแก่ของพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก็อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
ลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง
สินค้ามีหลากหลายเช่น เครื่องเงิน ภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ หยก ผ้าทอ แป้งทานาคา ขนม ฯลฯ ตลาดนี้ปิดทุกวันจันทร์
เวลา 17:00 น.เดินทางมาสักการะพระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี (Kyauk Htatgyi Buddha)
ด้านหน้ามีร้านขายดอกไม้อยู่ร้านเดียว
หรือที่คนไทยเรียกว่า พระนอนตาหวาน
ภาพนี้คือพระพุทธรูปองค์เดิมก่อนที่จะบูรณะจนงดงามแบบปัจจุบัน
พระพุทธรูปปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต
เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า
ตรงนี้จะมีบันไดปีนขึ้นมาให้ถ่ายรูปมองเห็นองค์พระทั้งองค์
ด้านข้างมีองค์พระนอนจำลองขนาดเล็กให้กราบไหว้ด้วยค่ะ
เวลา 19:00 น. ทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารกลางเมืองย่างกุ้ง เมนู สลัดกุ้งมังกร เป็ดปักกิ่ง
เจดีย์นี้บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่พระสงฆ์อินเดียได้นำมาเมื่อ 2000 ปีก่อน
ทางเข้าชมพระธาตุจะเป็นทางแคบๆ ผนังด้านในทาสีทอง
มีช่องเล็กๆให้มองพระธาตุด้านในค่ะ
คนส่วนมากมาที่นี่เพื่อขอพรกับ นัดโบโบยี หรือที่คนไทยเรียกว่า เทพทันใจ เป็นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์
เครื่องสักการะของมะปรางเป็นแบบหรูนิดค่ะ กล้วยและมะพร้าวมีสีทองวางบนถาดทองด้วยค่ะ
การสักการะขอพรเทพทันใจต้องทำตามขั้นตอนด้วยนะคะ
สุดท้ายก็เอาหน้าผากไปแตะที่นิ้วชี้ของนัตโบโบยี ขอพรในใจ
ออกมาเดินไหว้พระด้านนอกค่ะ
เจดีย์โบตาทาวน์ยามค่ำคืนเปิดไฟแล้วมีสีทองสวยงามมากค่ะ
มะปรางไม่พลาดการรดน้ำไหว้พระประจำวันเกิด
เดินชมรอบเจดีย์
เดินข้ามถนนมาสักการะเทพกระซิบ มีนามว่า อะมาดอว์เมี๊ยะ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ ผลไม้
การขอพรต้องเข้าไปกระซิบเบาๆห้ามคนอื่นได้ยิน
จัดกระเป๋าเพื่อเดินทางกลับวันนี้ค่ะ
เวลา 7:00 น.ทานอาหารเช้าที่โรงแรม ทริปปีใหม่นี้พวกเราโชคดีมากค่ะได้พักโรงแรมเรือ 2 คืน
เวลา 8:00 น.ออกเดินทางไปวัดพระหินขาว คนไทยนิยมเรียกว่า พระหินอ่อน
รูปวาดการเคลื่อนย้ายพระหินอ่อน
Lawka Chantha Abaya Labamuni Buddha Image
สร้างจากหินขาวที่มีลักษณะมันวาว สีขาว สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 60 ตัน
พระหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดในพม่า
รอบๆวัดสะอาดสวยงามค่ะ
บาตรหินอ่อนขนาดใหญ่
มะปรางตกใจเสียงระฆัง(ที่ตีเอง)
ด้านหน้าทางขึ้นวัดมีสิงห์สองตัวขนาบบันได
เดินข้ามถนนมายังปางช้างเผือก
มีช้างเผือกเชือกงามที่งามที่สุดในพม่าจำนวน 3 เชือก มีผิวสีเหลืองทอง
ชื่อ ประวัติและลักษณะของช้างทั้ง 3 เชือก