เวลา 7:00 น.อาบน้ำ เก็บกระเป๋าเสร็จลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารด้านล่างค่ะ
ทานอาหารเสร็จ ระหว่างรอรถมารับก็เดินเล่นด้านนอกโรงแรม อากาศเย็นสบายดีค่ะ
AVILLION LEGACY MELAKA HOTEL
ตัวโรงแรมภายนอกสวยงามหรูหรามาก
เวลา 8:30 น.นั่งรถไปจตุรัสดัทช์กันค่ะ
Melaka World Herritage City
วันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ.2008 ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนให้มะละกาเป็นเมืองมรดกโลก
CHRIST CHURCH MELAKA
สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1753 สมัยที่ดัทช์เข้ามาครอบครองเมืองมะละกาเพื่อทดแทนโบสถ์เก่าของโปรตุเกสที่ถูกทำลายลง
Dutch Square บางคนก็เรียกว่าจตุรัสแดงเพราะตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบดัทช์สีแดง
Victoria Fountain
น้ำพุแบบอังกฤษที่สร้างถวายแด่พระราชินีวิคตอเรียในปี ค.ศ.1904
Stadthuys
ทางขวามือคืออาคารสตัดธิวส์ เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซียสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1650
มีลักษณะโดดเด่นด้วยอาคารสีแดงตัดกับหน้าต่างทรงสูงสีขาว
ปัจจุบันภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์
Tang Beng Swee Clocktower
หอนาฬิกา สร้างโดยเศรษฐีชาวจีนในปี ค.ศ.1886
Malaysia's oldest Protestant church.
Laksamana Road ตัวอาคารบนถนนนี้ก็เป็นสีแดงหมดเลยค่ะ
Melaka Art Gallery อยู่ทางด้านซ้ายของโบสถ์คริสต์
Malaysia Youth Museum
ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามจตุรัสดัทช์คือแม่น้ำมะละกา
เดินเรียบแม่น้ำชมอาคารสวยๆสองฝั่ง
ตลอดแนวถนนจะเห็นรถสามล้อถีบจอดให้บริการค่ะ
เดินตามริมแม่น้ำไปเรื่อยๆจนถึงท่าเรือเก่าของมะละกา
บริเวณนี้เป็นป้อมเก่า
ยังมีซากปรักหักพังเหลืออยู่
The Port of Malacca and the Malacca River
The Defence of Malacca
กังหันโบราณ
บริเวณริมแม่น้ำเป็นเหมือนสถานที่พักผ่อนของคนเมืองนี้ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะค่ะ
มีโรงแรมริมแม่น้ำใหญ่ๆหลายอันค่ะ
ทางเดินและแม่น้ำสะอาดมากๆค่ะ
บริเวณนี้เป็นจุดล่องเรื่อมะละกา จะเห็นเรือสีเหลืองลำใหญ่ๆจอดอยู่ข้างหน้า
Melaka River Cruise นั่งเรือชมวิว 2 ฝั่งแม่น้ำ ประมาณ 45 นาที คนละประมาณ 170 บาท
จากท่าเรือเดินแยกมาทางซ้ายมือจะพบกับเรือขนาดใหญ่
MUZIUM SAMUDERA พิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์มะละกา
Maritime Museum of Malacca
เรือสำเภาจำลองขนาดใหญ่ของชาวโปรตุเกสชื่อ Flora de Lamar (ของจริงได้จมน้ำไปแล้ว)
เดินชมรอบๆเรือ....มีขนาดใหญ่มาก
เรือมีความสูง 34 เมตร กว้าง 8 เมตร
เปิดทุกวัน ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท
ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเดินเรือ มีของใช้ทีเก็บมาจากเรือที่จมจัดแสดงด้วยค่ะ
ด้านข้างเรือก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ
เดินชมเสร็จก็ออกเดินทางต่อค่ะ
ขับรถผ่าน Church of St. Francis Xavier
เวลา 12:00 น.เดินทางมาถึงกัวลาลัมเปอร์
แวะซื้อของฝากที่ร้านขายช็อคโกแลต
มาดูต้นโกโก้กันค่ะ
ต้นนี้กำลังออกลูกขนาดใหญ่มาก ลูกสุกจะมีสีเหลือง(ห่อตาข่ายไว้)
COCOA
เพิ่งเคยเห็นลูกจริงๆใกล้ๆแบบนี้
ออกเดินทางต่อเข้าไปในตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ ตึกสูงๆและต้นไม้ปลูกคู่กันทั้งเมืองร่มรื่นดีค่ะ
ตึกแฝดเปโตรนาส ตั้งอยู่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง
Petronas Twin Tower
อาคารสูง 88 ชั้น ถือเป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก
บางคนเรียกอาคาร KLCC (Kuala Lumpur Convention Center)
ขับผ่าน KL Tower มีความสูง 421 เมตร
เดินทางต่อไปยังจตุรัสเมอร์เดก้า ( Merdeka Square ) เป็นสถานที่จัดงานพิธีสำคัญ
อาคารด้านข้างคือ Royal Selangor Club
ลานด้านหน้ามีเสาธงสูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 100 เมตร
Sultan Abdul Samad Building อาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2440 ตามพระนามของสุลต่านของรัฐ
วันนี้ปิดถนน เพราะจะมีการจัดงานวันชาติ( Nation Day Parade on August 31 )ที่บริเวณนี้ค่ะ
พวกเราเลยสามารถเดินถ่ายรูปได้สบาย
The building has a shiny copper dome and a clock tower which is 40 meters high.
This buildings are the offices of Ministry of Information,Communications and Culture of Malaysia.
ปัจจุบันเป็นอาคารที่ทำการของรัฐบาล
สถาปัตยกรรมแบบมัวร์ (Moorish)
หอนาฬิกานี้เรียกว่าเป็นบิ๊กเบนของมาเลเซีย
วันนี้แดดจัดมากค่ะ เดินถ่ายรูปได้สักพักก็หมดแรง
เดินทางต่อไปยังพระราชวังแห่งชาติ
พระราชวังอิสตานาเนการา ISTANA NEGARA PALACE
เป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดี เข้าไปชมด้านในไม่ได้ค่ะ เลยต้องใช้วิธีซูมผ่านรั้ว
เป็นกลุ่มอาคารรูปโดมสีทอง มีเนื้อที่กว่า 100,000 ตารางกิโลเมตร
ทหารม้า
ทหารราบประจำพระองค์
เวลา 13:00 น. ทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร Malaysia Kitchen
เมนูดังของร้านคือ Roti Delight รสชาติเหมือนแกงกะหรี่ไก่บ้านเราค่ะ หวานๆทานกับขนมปัง
เส้นทางคดเคี้ยวมากๆขอแนะนำว่าควรทานยาแก้เมารถค่ะ ยิ่งสูงยิ่งหนาวหมอกเต็มสองข้างทาง
มองจากระยะไกลจะเห็นเส้นทางที่เราผ่านมาคดเคี้ยวในหุบเขา
เวลา 17:00 น. พวกเราก็เดินทางมาถึง ไร่ชาบารัต (Bharat)
ชาบารัตเป็นชาที่มีรสชาติดีที่สุดในมาเลเซีย
คุณป๋ากับมะปรางอ่อนเพลียเพราะทานยาแก้เมารถไปคนละเม็ด พอได้ลงมารับอากาศเย็นๆก็สบายขึ้น
เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ตรงห้องน้ำมีหน้าต่างให้ชมวิวของหุบเขาด้วยค่ะ....วิวสวยมากๆ
อากาศเย็นสดชื่น
ไร่ชานี้มีขนาดใหญ่มากตั้งอยู่ในหุบเขา cameron valley
ไร่ชาเขียวชอุ่ม ฉากหลังเป็นภูเขาหลายลูก
สวิสเซอร์แลนด์ของมาเลเซีย
ไร่ชามองดูเหมือนพรมสีเขียวขนาดใหญ่
ลงไปลุยไร่ชาถ่ายรูปกันค่ะ. มีป้ายเตือนห้ามเด็ดใบชานะคะ
บรรยากาศที่นี่งดงามมากซึ่งทำให้ จิมทอมสัน ราชาไหมไทย ก็มาหายสาบสูญที่นี่
ไร่ชาสวยงามทุกมุม
ยิ่งเย็นเริ่มมืดหมอกก็ยิ่งหนา
ถ้าที่นี่เป็นรีสอร์ทก็น่าจะดีนะคะ
เดินเล่นจนมืดแล้วค่ะ
เวลา 19:00น. เข้าที่พักโรงแรม Rosa Passadena hotel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น