ทานอาหารเช้าเสร็จ ออกมาเดินเล่นหน้าโรงแรมค่ะ เงียบสงบเชียวเพราะสองข้างทางเป็นร้านขายอาหารและเครื่องดื่มเวลากลางคืน เมื่อคืนวันศุกร์เห็นคนนั่งดื่มกินกันจนดึก

เวลา8:00 น. ออกเดินทางเข้ากรุงโซลกันค่ะ ใช้เวลาประมาณร่วม 1 ชม. ขับผ่านพระราชวังเคียงบก

มาถึงพิพิธภัณฑ์สาหร่ายโซงฮัก

ที่ชั้น 1 จัดแสดงนิทรรศการสาหร่ายเกาหลี และขั้นตอนการผลิตสาหร่าย

เดินอ่านเองได้หมดเลยค่ะ เพราะมีเขียนบรรยายไว้ถึง 4 ภาษา คือ เกาหลี จีน อังกฤษ และไทย

เสร็จแล้วก็เลือกชมผลิตภัณฑ์สาหร่ายและอาหารทะเล
ซื้อสินค้าเสร็จก็มีการบรรจุให้อย่างดีเลยค่ะ

ไปเดินชมชั้นบนกันต่อค่ะ
ชั้น 2 เป็นห้องทำข้าวห่อสาหร่าย
ชั้น 3 เป็นห้องใส่ชุดประจำชาติเกาหลี(ฮันบก) และถ่ายรูป 3 มิติ
มีชุดให้เลือกเปลี่ยนมากมายหลายร้อยชุดเลยค่ะ จะเปลี่ยนกี่ชุดก็ได้นะคะ

สองพ่อลูกเปลี่ยนชุดกันเร็วมาก
ครอบครัวเกาหลี???
มะปรางไม่รอช้ารีบไปโพสต์ท่าถ่ายรูปเลยค่ะ

ทุกรูปจะเป็นรูปเกาหลีสมัยโบราณ สวยคลาสสิกเข้ากับชุดดีค่ะ
มะปรางรีบเก็บทุกภาพเลยค่ะ
บรรยากาศทุกอย่างเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในหนังเกาหลีเลยค่ะ

หน้าเธอเจ้าเล่ห์มากกก
จิ้งจอกเก้าหาง


รูปครอบครัว...ก่อนกลับค่ะ

ด้านหน้ามีชุดเกาหลีให้ซื้อกลับมาได้นะคะ

เวลา 13:00 น. ไปทานอาหารเที่ยงกันค่ะ ในกรุงโซลอากาศเริ่มร้อน
มื้อนี้คือ บิบิมบับ (Bibimbap) ข้าวยำเกาหลีในถ้วยหิน ทานพร้อมกับชาบู ชาบู บนหม้อไฟร้อนๆ

แม่ตุ๊กชอบมื้อนี้ที่สุดเลยค่ะ ข้าวยำอร่อยมากๆ ทานเข้ากันกับซุปร้อนๆ
ทานอาหารเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ระหว่างนั่งรถก็เห็นแท็กซี่ใส่มงกุฎด้วย....คือแท็กซี่ดีเด่นค่ะ
เวลา 15:00 น. เดินทางมาถึงภูเขานัมซาน รอขึ้นกระเช้า Namsan Cable Car
วันนี้เป็นวันหยุดคนมารอต่อคิวขึ้นกระเช้ากันเยอะมาก เสียเวลายืนต่อคิวประมาณ 1.30 ชม.

ในกระเช้ามีคนอัดแน่นพอสมควร พยายามยืนชิดๆกระจกจะได้เห็นวิวค่ะ

ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็ถึงยอดเขานัมซาน

เดินขึ้นบันไดอีกนิดไปที่ฐานหอคอย ใครจะขึ้นหอคอยก็ซื้อตั๋วตรงนี้เลย
ด้านบนเขาใบไม้เปลี่ยนสีหมดแล้ว


หอคอยนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซลเลยค่ะ และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลีอีกหลายเรื่อง
เป็นที่ที่คู่รักนิยมมากันมาก...ด้านบนนี้อากาศดีลมเย็นค่ะ

การคล้องกุญแจคู่รัก เป็นการแสดงความรักที่มั่นคงของคู่หนุ่มสาวเกาหลี
หอคอยอีกสักรูปก่อนกลับ
ด้านล่างของหอคอย เป็นพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์
พิพิธภัณฑ์นี้เป็นการจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเกาหลีในยุคโบราณถึงปัจจุบัน
ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 8000 วอน


เรามีเวลาไม่มากเลยไม่ได้เข้าค่ะ ซื้อนมกล้วยทานแล้วนั่งเล่นสักพัก

ได้เวลากลับแล้วค่ะ พวกเราเดินลงเพราะไม่อยากรอต่อคิวกระเช้าแล้ว

ระหว่างเดินลงก็ได้ชมวิวไปตลอดทาง

มะปรางเริ่มหิวจัดโอติม1อันก่อนค่ะ

ตลาดเมียงดงนี้มีขนาดใหญ่และของถูกมากค่ะ


มื้อเย็นเราทานอาหารในเมียงดงเลยค่ะ เมนูนี้คือ จิมดัก( Jjimdak ) หรือเรียกว่าไก่อบวุ้นเส้น
เป็นอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของเกาหลี โดยนำไก่มาผัดรวมกับวุ้นเส้น มันฝรั่ง แครอท พริก และซอสดำ
กลิ่นคล้ายไก่พะโล้ ทานกับข้าวสวย อร่อยดีค่ะ ไก่นุ่ม แต่จานใหญ่มากทานกันไม่หมด

เข้าพักที่ย่านทงแดมุน Golden Forest River Hotel
ห้องพักแคบมาก (ต้องเอากระเป๋าเดินทางยัดไว้ใต้เตียง) เพราะอยู่ใจกลางกรุงโซล
ห้องแคบแต่สะอาด อุปกรณ์ของใช้ครบทุกอย่าง

























































ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น