เวลา14:30 น.ได้เวลาออกเดินทางเที่ยวช่วงปิดเทอม ครั้งนี้เราไปเกาหลีกันค่ะ เริ่มต้นจากหาดใหญ่
ด้วยสายการบิน Lion Air ไปลงดอนเมือง เครื่องใหม่มากๆที่นั่งก็แคบเหมือนโลว์คอร์สแอร์เวย์ทั่วไปค่ะ
สั่งอาหารมาทานคนละชุด ของแม่ตุ๊กกับคุณป๋าเป็นข้าวกระเพราไก่ไข่เจียว ของมะปรางเป็นข้าวหมูทอดกระเทียม(แอบเอาไข่เจียวของแม่ไปด้วย) อาหารอร่อยค่ะ ทานอาหารอิ่มนั่งสักพักก็ถึง กทม.แล้ว
พอเครื่องลงก็ไปทำบุญและไหว้พระที่สมุทรปราการ
เวลา 21:30 น.เดินทางไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ คนหนาแน่นมากเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว
เครื่องดีเลย์เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี ได้ขึ้นเครื่องและออกเดินทางเวลาประมาณ 02:30 น.
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2557
เวลา 10:00 น.เดินทางถึงเกาหลีโดยสวัสดิภาพ ผ่าน ตม.รอรับกระเป๋าแล้วก็ขึ้นรถบัสออกเที่ยวกันเลยค่ะ
สนามบินอยู่ที่เมืองอินชอนซึ่งเป็นเกาะ เราต้องข้ามสะพานเพื่อเข้ามาบนแผ่นดิน
สองข้างทางเป็นดินโคลน มีสาหร่ายสีแดงเต็มไปหมด
หิวตาลายกันทุกคน เพราะท้องว่างตั้งแต่เมื่อคืน (บนเครื่องบินก็ไม่มีอาหารเสิร์ฟเลยค่ะ)
มื้อนี้เป็น ชาบู ชาบู สุกี้สไตล์เกาหลีบนหม้อไฟร้อนๆ
เป็นหมู่บ้านที่สร้างเพื่อประกอบภาพยนต์ซีรี่ย์ F4 เป็นฉากของ รร.มัธยมในเรื่องนี้
และจำลองบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในอังกฤษ ต้องเข้าไปซื้อตั๋วด้านในค่ะ
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2000 วอน เด็ก 1000 วอน
จะได้พาสปอร์ตคนละใบเอาไปผ่านด่าน ตม.จำลอง มีการพูดคุยและถามเป็นภาษาอังกฤษนิดนึง
ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยค่ะ พนักงานทุกคนก็พูดภาษาอังกฤษ
สำรวจแผนที่ก่อนเข้าชมด้านใน
ประตูทางเข้าใหญ่มาก มีเจ้าหน้าที่มายืนทักทาย say hello กับทุกคนเลยค่ะ
แผนที่และสถานที่เที่ยวของเมือง PAJU
ตั้งขึ้นเพื่อเป็นแคมป์ฝึกฝนด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งสนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลี
บรรยากาศโดยรอบสวยงามมากค่ะ จำลองตัวตึกแบบอังกฤษ
ช่วงนี้เป็นเทศกาลฮาโลวีนพอดี
เดินเล่นแวะถ่ายรูปได้หลายมุมเลยค่ะ คนน้อยดี มีรถรางสีแดงเหมือนในประเทศอังกฤษ
อากาศเย็นสบายประมาณ 20 องศา มีแดดอ่อนๆ
ใบไม้แดงไปหมด
เวลาเดินเล่นต้องระวังรถจักรยาน Railbike ด้วยนะคะ
Happy Halloween
ตรงกลางหมู่บ้านมีอาคารแบบยุโรปขนาดใหญ่เด่น ด้านหน้าเป็นวงเวียนน้ำพุ คนนิยมมาถ่ายรูปค่ะ
เดินจนทั่วหมู่บ้านแล้ว. ถึงเวลาที่รอคอย....ไปปั่น Rail Bike กันค่ะ
Rail Bike คือการปั่นจักรยานบนรางรถไฟค่ะ คันหนึ่งนั่งได้ 4 คน ราคาประมาณ 30,000 วอน
เลือกปั่นคันหน้าสุดเลยค่ะ จะได้เห็นวิวสวยๆ
จักรยานนี้ปั่นสบายไม่เหนื่อยค่ะ เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วย ปั่นชมวิวรอบๆหมู่บ้านก่อน
ปั่นเข้ามาในหมู่บ้าน
คุณป๋ากับมะปรางมีความสุข
ค่าเรือข้ามฟากและค่าเข้าชมเกาะ คนละ 8,000 วอน
คนรอเรือข้ามฟากเยอะมาก เดินเข้าไปรอเรือที่ท่าด้านในก่อนค่ะ
เรือมาแล้ว ลงได้เลยค่ะ เกาะนามิอยู่ในทะเลสาบ Cheongpyeong
ช่วงนี้เป็น high season จะเห็นว่าคนมาเที่ยวเยอะมากๆค่ะ. บนเรือลำนี้ก็เป็นร้อยเลย
ถึงแล้วค่ะ สาธารณรัฐนามิ----Naminara Republic
ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งเกาะแล้วค่ะ คนหลั่งไหลมาชมกันแน่นเกาะเลย
อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆแล้วค่ะ ตอนนี้ประมาณ 15 องศา
พวกเรารีบเดินเข้าไปด้านในสุดของเกาะก่อนค่ะ
บริเวณนี้เป็นจุดที่ถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุด
Ginkgo trees บ้านเราเรียกต้นแปะก๊วย ลูกที่ร่วงตามพื้นมีกลิ่นเหม็น
จนท.บอกว่าวันนี้เป็นวันที่ใบไม้เปลี่ยนสีเต็มที่ที่สุด เหลืองทุกต้นเลยค่ะ
พวกเราโชคดีมากมาตรงวันพอดี. แต่คนก็เยอะมากเหมือนกันแทบไม่มีภาพไหนที่ไม่ติดคนอื่นเลย
บนเกาะนี้จะมีสัญลักษณ์ของความรักหลายแห่งค่ะ สมชื่อ Namisum
Maple tree. ใบไม้สีแดง
เมเปิ้ล เขียว-ส้ม-แดง
เดินต่อมาเรื่อยๆถึงแนว Metasequola tree. เป็นฉากที่โด่งดังจากเรื่อง Winter love song
คนเยอะจนถ่ายรูปลำบากค่ะ
ใกล้ๆกันมีรูปปั้นของ พระ-นางในเรื่องยืนกอดกัน.
เราไม่ได้ถ่ายมานะคะ เพราะมีคู่รักหลายคู่ยืนต่อคิวยาวเชียว มีแต่ภาพป้ายที่พื้น
พวกเราหาเส้นทางหลบผู้คนเข้าไปเดินตรงกลางเกาะกันค่ะ
แถวนี้ใบไม้ก็สีสวย ไม่มีคนด้วยค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปอย่างสบายใจเลย
บนเกาะนี้มีกระรอกเยอะมาก
นั่งดูกระรอกแทะข้าวโพดอย่างอร่อย
บริเวณนี้จะมีร้านขายของหลายร้านเลยค่ะ
เข้าไปเดินเล่นในร้านได้
เดินต่อไปเรื่อยๆเข้าไปในป่าแล้วค่ะ
บริเวณนี้วิวสวยมากๆ ใบไม้เปลี่ยนสี มีฉากหลังเป็นภูเขา
เริ่มหนาวมากขึ้นๆแล้วค่ะ
ตอนนี้เวลาประมาณ 18:00 น.เริ่มมืดได้เวลาเดินกลับไปขึ้นเรือแล้วค่ะ
ขากลับแวะที่ Tomb of General Nami สุสานนายพลนามิ อยู่บริเวณด้านหน้าใกล้ทางเข้าเลยค่ะ
เวลา19:00น แวะทานอาหารเย็นค่ะ มื้อนี้คือ DUKKALBI ไก่ผัดเผ็ดบาร์บีคิว
เนื้อไก่เป็นชิ้นๆหมักแล้วนำมาผัดรวมกับกะหล่ำปลีบนกระทะยักษ์ ทานคู่กับผักสดและกิมจิ
อร่อยและหมดเรียบค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น