เวลา 7:00 อาบน้ำแต่งตัว แพ็คกระเป๋าเสร็จรีบลงมาทานอาหารเช้า
วันนี้เที่ยวเกาหลีเป็นวันสุดท้าย คืนนี้ต้องเดินทางกลับแล้วค่ะ
ด้านหน้าโรงแรมเป็นแม่น้ำฮัน (HAN River) ไปเดินเล่นชมวิวได้ค่ะ
แต่เช้านี้อากาศเย็น...เลยไม่อยากไปรับลมหนาวเพิ่มอีกแล้ว
เวลา 8:00 น.ไปเดินเล่นบริเวณแถวๆพระราชวังเคียงบกกันค่ะ
ตรงนี้คือถนนเซจงโร( Sejong-ro street) เป็นถนนสายหลัก ยาวไปจนถึง Gwanghwamun Gate
อนุสาวรีย์แม่ทัพลีซุนชิน (Statue of Admiral Yi Sun-shin)
ระหว่างที่เดินถ่ายรูปก็มีตำรวจเดินมาไล่พวกเราให้ออกจากบริเวณนี้. ตกใจค่ะนึกว่าทำอะไรผิด!!!
แต่สักพักก็เข้าใจ.....เป็นช่วงเวลาเปิดน้ำพุ รอบอนุสาวรีย์ค่ะ. ถ้าออกมาไม่ทันเปียกกันหมดแน่ๆ
พระราชวังเคียงบก ( Gyeongbok Palace )ถือว่าเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุด
และยังมีทำเลที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าเพราะมีภูเขาพูกักซานเป็นฉากหลัง
บริเวณนี้เรียกว่าจตุรัสควางฮวามุน ( Gwanghwamun square). เป็นลานกว้างกลางถนนก่อนถึงประตูเข้าพระราชวัง มักมีการจัดงานบ่อยๆค่ะ ตึกทางซ้ายมือคือ ศูนย์ศิลปะการละครเซจง ( Sejong center)
อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงตั้งโดดเด่นตรงกลางจตุรัส
เราไม่มีโปรแกรมเข้าไปชมพระราชวังเคียงบกค่ะ เลยเดินเล่นสักพักก็กลับ
ถึงแล้วค่ะ Cheong gye cheon ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของลำคลองทางฝั่งตะวันตก
ทางด้านขวามือคือชองเกพลาซ่า
มีปฏิมากรรมหอยหลอดขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่น
บริเวณนี้เป็นลานกว้างเรียกว่าจตุรัสชองเก (Cheonggye Square) ตอนนี้ก็มีการจัดงานอยู่ด้วยค่ะ
ด้านบนลำคลองมีน้ำพุและเขื่อนน้ำตก นั่งเล่นได้สบายดีค่ะ
ถ้าตอนกลางคืนจะเปิดไฟสวยไปอีกแบบ
คลองนี้เป็นคลองโบราณมีความยาวร่วม 6 กม.ไหลผ่านใจกลางเมือง สองข้างเป็นห้างดังมากมาย
เป็นแหล่งพักผ่อนกลางกรุงโซลที่คนนิยมมากันมาก น้ำในคลองก็ใสสะอาด
สองฝั่งเป็นกำแพงหินและต้นไม้ร่มรื่นตลอดแนว มีทางเดินข้ามคลองเป็นระยะ
มีจุดโยนเหรียญอธิษฐานด้วยค่ะ. โยนไปแล้วไม่ลงตรงกลางเลย
สามารถเดินขึ้นไปต่อสถานีรถไฟใต้ดินได้หลายจุด
ตอนนี้เวลาประมาณ 9:30 น. ดงฮวาดิวตี้ฟรีเปิดแล้ว แม่ตุ๊กขอเข้าไปซื้อของด้านในนิดนึงก่อนเดินทางต่อ
เวลา 10:30 น. เดินทางมายังพระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)
รีบเดินมาที่ประตูทางเข้าหลักแทฮันมุน ( Daehanmun Gate )
กำลังมีการแสดงผลัดเปลี่ยนเวรทหารยามพอดีเลยค่ะ
การแสดงใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เมื่อการแสดงจบไปขอถ่ายรูปข้างๆเหล่าทหารได้ค่ะ
ทหารทุกคนรูปร่างสูงใหญ่มาก
Daehanmun Gate เป็นประตูทางเข้าหลักอยู่ตรงข้ามกับ Seoul City Hall
สองข้างทางใบแปะก๊วยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วค่ะ
ถึงแล้วค่ะ เดินเข้าไปด้านในเลย
พระตำหนัก Hamnyeongieon and Deokhongieon
พระที่นั่งชุงวาจอน (Junghwajeon )
เดินถ่ายรูปรอบๆพระที่นั่ง
ด็อกซูกุง มีความหมายว่า พระราชวังแห่งอายุยืนยาวและมั่นคง
พระราชวังนี้เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดจากสมัยราชวงศ์โชซอน
ที่นี่เป็นพระราชวังแห่งเดียวที่มีอาคารรูปแบบตะวันตกอยู่ด้วย
เรียกว่าห้องโถงซกโชจอน ( Seokjojeon )
เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลวง ซึ่งเก็บสิ่งของเครื่องใช้ในพระราชวังสมัยโชซอน
พระราชวังนี้มีขนาดไม่ใหญ่ใช้เวลาไม่นานก็เดินจนครบรอบแล้วค่ะ
ออกไปเดินรอบนอกพระราชวังค่ะ
มีร้านขายขนมและน้ำด้วยค่ะนั่งพักได้ ตรงนี้มี Application ของพระราชวังให้ดาวน์โหลดได้นะคะ
พระราชวังนี้มีชื่อเสียงในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยนะคะ
พวกเราเลยเดินถ่ายภาพตามมุมสวยๆที่ต้นแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ทางด้านทิศใต้นอกพระราชวังมีถนนเลียบกำแพงหิน ( Stonewall Street )
มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและความโรแมนติก เพราะสองข้างทางจะมีต้นแปะก๊วยปลูกเป็นแนวยาว
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเต็มไปด้วยสีเหลืองทั่วทั้งถนนเลยค่ะ
เวลา 13:00 น. เดินทางมาที่ย่านฮงแด
ทานอาหารกลางวันกันก่อนค่ะ มื้อนี้เป็น BBQ BUFFET ซีฟู๊ดปิ้งย่างสไตล์เกาหลี
มีอาหารให้เลือกเยอะมากๆค่ะ ทานกันไม่ไหว ถ้าเป็นมื้อเย็นน่าจะดีกว่านี้
ทานเสร็จก็เดินเล่นกันต่อค่ะ ย่านนี้จะอยู่ใกล้ ม.ฮงอิก จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าของวัยรุ่นเกาหลี
มีร้านไดโซะเกาหลีด้วยค่ะ
ย่านฮงแดจะมีสินค้าแบบวัยรุ่นขายเยอะมากไม่เหมือนที่เมียงดง
พิพิธภัณฑ์ 3 มิติ ( Trick eye Museum)
ลงไปเดินเล่นที่ชั้นใต้ดินเลยค่ะ
บริเวณด้านนอกมีมุมให้ถ่ายรูปได้ฟรีค่ะ
Santorini Seoul Gallery
เดินเล่นถ่ายรูป(ฟรี). ที่บริเวณชั้นล่างได้ค่ะ
เวลา 16:00 น.ได้เวลาเดินทางไปสนามบินแล้วค่ะ. มะปรางดีใจจะได้กลับบ้านแล้ว
เวลา 18:00 น.เดินทางมาถึงสนามบินอินชอน
เช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จ คุณป๋าต้องไปจัดการขอคืนภาษีที่ตู้ tax refund ในสนามบิน (เสียเวลาพอสมควร) มื้อเย็นเลยทานอาหารง่ายๆค่ะ