แม่ตุ๊กเห็นข่าวว่ามีทุ่งทานตะวันบานที่สงขลา นั่งท่องเที่ยวไปชมกันเยอะมาก ตั้งแต่เดือน พค.แล้ว
ต้องรีบไปดูหน่อยค่ะก่อนที่จะร่วงโรยหมด
ออกจากบ้านตอน 15:00 น.แดดร้อนจัด ขับรถไปจนถึงห้าแยกน้ำกระจาย เลี้ยวขวาไปทางเกาะยอ จะเห็นสี่แยก รพ.สงขลา ก็เลี้ยวซ้ายไปตาม ถนนสายติณสูลานนท์ ขับตรงไปเรื่อยๆ เลียบทะเลสาบ วิวสวยค่ะ
ทางซ้ายมือ มีสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา แวะถ่ายรูปประตูเมืองสงขลาก่อนค่ะ
ถึงแล้วทุ่งทานตะวัน อยู่ริมถนนสงขลาพลาซ่า 1
ไม่มีคนเลย
นายกเทศมนตรีนครสงขลา เปิดเผยว่า สำหรับทุ่งทานตะวันแห่งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการเมืองคาร์บอนต่ำ ของเทศบาลนครสงขลา เพื่อคืนธรรมชาติ สร้างความสดใส ได้ทำการปลูกต้นทานตะวัน ประมาณเกือบ 2 หมื่นต้น โดยทยอยปลูกทั้งหมด 3 รุ่น ในพื้นที่กว่า 3 ไร่ โดยจะใช้ระยะเวลาปลูกทั้งหมดประมาณ 50 วัน หรือประมาณต้นเดือนพฤษภาคม 2557 ทุ่งทานตะวันแห่งนี้ จะมีดอกทานตะวันบานสะพรั่งเต็มทุ่ง
เรามาตอนดอกร่วงโรยแล้วค่ะ เก็บภาพกับมุมถ่ายรูปก็ได้
อากาศร้อนแผดเผามาก ถ้ามาตอนเช้าน่าจะดีกว่า
ยังดีที่มีมุมกับป้ายให้ถ่ายรูป
ทานตะวันไม่ค่อยชูดอก ต้องช่วยยกนิดนึง
อากาศร้อนแต่เด็กยังยิ้มได้
มีแต่เรา 3 คน มาเดินในทุ่งนี้
ต้นโดนเหยียบ ทำลายไปมาก
ปีหน้าค่อยมาแก้มืออีกทีค่ะ
ไปต่อกันที่ “วัดแหลมพ้อ” จะอยู่เชิงสะพานติณสูลานนท์
พอข้ามสะพานอันแรกก็จะเห็น “องค์พระนอน”เด่น ให้ขับไปอีกประมาณ 200 เมตรก็จะเจอทางเข้าวัด เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลยค่ะ
“วัดแหลมพ้อ” หรือที่หลายๆ คนเรียก “วัดพระนอนแหลมพ้อ"
เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างตั้งแต่เมื่อปีพ.ศ. 2330 หรือประมาณในสมัยรัชกาลที่ 3
“องค์พระนอน” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีชื่อว่า “สมเด็จเจ้าเกาะยอ”
ศาลา เจ้าแม่กวนอิม
ศาลา พระถังซำจั๋ง
ศาลา พระพรหม
มีมุมให้สักการะมากมายค่ะ
เจดีย์คู่สีทอง
“หอระฆัง” ก่ออิฐถือปูน ตัวหอเป็นทรงสี่เหลี่ยมยอดปิรามิดซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป
“เจดีย์” ตั้งอยู่ทิศเหนือของอุโบสถ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ขนาด 9x9 เมตร ฐานซุ้มต่อกับบันไดทางขึ้นเป็นลักษณะเตี้ยๆ ยกพื้นคล้ายระเบียง สามารถเดินได้รอบองค์เจดีย์ มุมขอบประดับด้วยเจดีย์องคเล็กๆ 4 องค์ องค์ระฆังของเจดีย์ประธานตั้งอยู่บนฐานปัทม์ต่อกันเป็นชั้นๆ
ด้านล่างฐานเจดีย์มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น
“อุโบสถ” ที่มีรูปแบบศิลปกรรมตามพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอุโบสถมีระเบียงโดยรอบ หลังคาชั้นเดียวต่อด้วยปีกนกมุงด้วยกระเบื้องดินเผาประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา และหสงหงส์ หน้าบันหลังคาทางด้านหน้าประดับปูนปั้นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ หน้าบันด้านหลังประดับปูนปั้นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ส่วนหน้าบัณช่องหน้าต่างและประตูมีรูปปั้นรูปเทพพนมอยู่ท่ามกลางลายพรรณพฤกษา
ไปเดินเล่นที่ริมทะเล ด้านข้างวัดค่ะ
ทะเลสาบสงขลา
มองเห็นสะพานติณฯ อยู่ไม่ไกล
ลมเย็นสบายค่ะ
วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่กว่า 200 ปี ครั้งหนึ่งในอดีตพระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ทรงประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือหน้าวัด อีกทั้งมีประติมากรรมที่เก่าแก่ที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
และมี "พระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย"
พระพักตร์
พระบาท
เข้าไปไหว้พระ ทำบุญที่ศาลาด้านข้างกันค่ะ
1. สมเด็จเจ้าเกาะยอ
2.สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่
3.สมเด็จเจ้าพระโคะ(หลวงปู่ทวด)
4.สมเด็จเจ้าจอมทอง
5.สมเด็จโต