เวลา 13:00 น.ออกเดินทางไปเที่ยวเกาะยอ สงขลา คุณป๋าจะพาไปไหว้พระและทำบุญค่ะ
ข้ามสะพานมาถึงเกาะยอแล้ว เราจะไปเขากุฏกันค่ะ
มีป้ายอยู่ตรงทางขึ้นเขา "สถานปฏิบัติธรรมสมเด็จเจ้าเกาะยอ(เขากุฏ)"
ขับขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงบนยอดเกาะยอ วิวสวยมากจนต้องหยุดรถถ่ายรูปเลยค่ะ
ขับรถขึ้นมาอีกนิดก็มาถึงลานจอดรถแล้วค่ะ
ด้านบนนี้สะอาดและร่มรื่นมาก
ภาพและแผนที่ท่องเที่ยวบนเกาะยอ
ศาลจ้าว ณ เกาะยอ
ไหว้พระ ก่อนเดินขึ้นไปด้านบน
เดินขึ้นมาจนถึงยอดสูงสุดของเกาะยอ มีเจดีย์โบราณประดิษฐานอยู่
ไหว้พระทำบุญที่ศาลาด้านข้างก่อนค่ะ
เจดีย์สีขาวทรงกลมหรือทรงระฆัง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร
องค์เจดีย์และสมเด็จเจ้าเกาะยอหรือสมเด็จเจ้าเขากุฏิเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวบ้านเกาะยอ
ด้านหน้าเจดีย์ มีคำกล่าวบูชา พระบรมธาตุเจดีย์ และสมเด็จเจ้าทุกพระองค์
องค์เจดีย์ประกอบด้วยส่วนฐานรองรับองค์ระฆัง 2 ชั้น ส่วนฐานและชั้นมีซุ้มจรนำทั้ง 4 ทิศ
ประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ด้าน
มีชื่อสลักติดอยู่บริเวณฐานของแต่ละองค์ ซึ่งหมายถึงสมเด็จทั้ง 4 องค์ที่ชาวเกาะยอเคารพศรัทธา
ทั้ง 4 องค์คือ สมเด็จเจ้าเกาะยอ สมเด็จเจ้าพะโคะ สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ และสมเด็จเจ้าจอมทอง
เดินวนรอบเจดีย์ไหว้พระจนครบทั้ง 4 ด้าน
ออกไปเดินเล่นที่ลานด้านหน้าเจดีย์ค่ะ
มองเห็นวิวทะเลสาบชัดเจน
มาตอนบ่ายแบบนี้อากาศจะร้อนหน่อยค่ะ
วิวทางขวาคือตัวเมืองสงขลา
วิวทางซ้ายคือตัวเมืองสิงหนคร
เดินลงมาด้านล่าง บริเวณนี้เป็นกุฏของพระสงฆ์
เดินลงทางลาดไปชมวิวได้ค่ะ
มองเห็นสถาบันทักษิณคดีศึกษา และสะพานติณสูลานนท์ชัดเจน
เดินชมด้านบนจนครบก็ได้เวลาลงจากเขาแล้วค่ะ
ลงจากเขาแล้วขับรถเลียบถนนริมทะเลสาบด้านใน
มาถึงวัดท้ายยอแล้วค่ะ วัดนี้อยู่ทางเหนือสุดของเกาะยอ ขับรถเข้าไปจอดด้านในวัดได้เลย
มองจากวัดจะเห็นสะพานติณสูลานนท์อยู่ไม่ไกล
ศาลาพระพรหม
วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2477 เป็นวัดโบราณ คนนิยมมาสักการะทวดช้าง
หินเป็นรูปหัวช้างขนาดใหญ่
ร่วมทำบุญสร้างศาลาหลังใหม่
เดินไปด้านหลังวัดเป็นเนินเขาเล็กๆ
มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆอยู่ในถ้ำ
ศาลาเล็กๆประดิษฐานรูปปั้นหลวงปู่ทวด
เข้าไปไหว้พระประธานในโบสถ์กันค่ะ
ตำราพระไตรปิฎก
ไหว้พระและทำบุญเสร็จก็ออกเดินทางต่อค่ะ
ขับรถไปตามถนนรอบเกาะยอทางฝั่งตะวันตก ผ่านหมู่บ้านชาวประมง
พอเห็นป้ายวัดท้ายยอก็เลี้ยวซ้ายไปตามทางได้เลยค่ะ
วัดท้ายยอ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะยอ
วัดเก่าแก่ มีประวัติว่าเป็นวัดแรกบนเกาะยอ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2311
โบราณสถานที่สำคัญของวัดมีหลายอย่าง ทีเห็นเด่นชัดหลังจากขับรถเข้ามาก็คือ
หมู่กุฏิไม้ เป็นกุฏิแบบเรือนไทยปั้นหยาหลายหลัง
หลังคาใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า
มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือ เสาเรือนกุฏิจะไม่ฝังลงในดินแต่จะตั้งอยู่บนตีนเสา
ซึ่งเป็นที่รองรับเสาอันเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านชาวไทยในภาคใต้เท่านั้น
ด้านในมีโบราณสถานและโบราณวัตถุอีกหลายอย่าง คือ บ่อน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ โรงเรือพระ สถูป หอระฆังที่สวยงาม และมีร่องรอยของท่าเรือโบราณ ซึ่งเคยเป็น ศูนย์กลางการคมนาคม ของชาวเกาะยอ
ด้านหลังของวัดท้ายยอเป็นที่ตั้งของ เขาเพหารหรือเขาวิหาร ซึ่งประดิษฐานเจดีย์ทรงลังกาที่งดงาม
เดินขึ้นเขากันค่ะ มีศาลาและที่นั่งพักระหว่างทางด้วย
เจดีย์วัดท้ายยอ อยู่บนยอดเขา
ประวัติของเจดีย์แห่งนี้
สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 บนยอดเขาพิหารแห่งนี้เดิมคงเป็นที่ตั้งของอุโบสถหลังเก่า
ต่อมาในราวกลางพุทธศตวรรษที่ 25 ได้ย้ายอุโบสถมาสร้างที่เชิงเขาด้านล่าง
และสร้างเจดีย์ครอบ " หลวงพ่อดำ " ซึ่งเป็นพระประธานของอุโบสถเดิมเอาไว้
ขึ้นไปเดินชมรอบๆเจดีย์ค่ะ
เจดีย์ทรงระฆัง ก่ออิฐถือปูน มีลวดลายปูนปั้นประดับอันเป็นฝีมือช่างท้องถิ่นภาคใต้
บนยอดเจดีย์มีลูกกลมสีเขียวด้วยค่ะ
กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเจดีย์บนยอดเขาพิหาร เป็นโบราณสถานของชาติเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2540 และได้บูรณะซ่อมแซมเจดีย์ พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์รอบองค์เจดีย์ในปี พ.ศ. 2544-2545
เดินชมและถ่ายรูปจนทั่วก็เดินลงเขาค่ะ
มองจากบนเขาลงมาจะเห็นอาคารเรือนไทยหลายหลังสวยงามมากค่ะ
ทุกหลังมุงหลังคาด้วยกระเบื้องแบบโบราณ
ด้านหน้าวัดมีศาลาชมวิวทะเลสาบ