tukemd: ไหว้พระวัดสมานรัตนาราม-วัดหงษ์ทอง ฉะเชิงเทรา

TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ

2556/05/18

ไหว้พระวัดสมานรัตนาราม-วัดหงษ์ทอง ฉะเชิงเทรา

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2556 เวลา 08:00 น.

ออกเดินทางไป กทม.ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย จุดหมายหลักคือไปสอบแข่งขันคณิตศาสตร์
ครั้งนี้เดินทางไปพร้อมกับเพื่อนสนิทของมะปราง

ประมาณ 10:30 น.ก็เดินทางมาถึงดอนเมืองโดยสวัสดิภาพมีคนขับรถมาคอยรับไปเที่ยวก่อนค่ะ วันนี้เราจะไปฉะเชิงเทรากัน

ฉะเชิงเทรา หรือ เมืองแปดริ้ว ไม่ได้มีเพียงวัดหลวงพ่อโสธร และ ตลาดเก่า 100 ปี เท่านั้น

แต่ยังมีอีกหนึ่งอำเภอที่น่าสนใจ อำเภอบางคล้า

เวลา 12:00 น.เดินทางมาถึง วัดสมานรัตนาราม(Saman Rattanaram Temple)

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจและโดดเด่นที่สุดในย่านนี้

แวะทานอาหารที่ร้านค้าสวัสดิการของวัดก่อนค่ะ

ร้านสะอาดมาก ต้องถอดรองเท้าด้วยนะคะ ไปซื้ออาหารแล้วเอาเงินมาหยอดในตู้บริจาคเองเลย

ร้านตั้งอยู่รอบๆบึงเหมือนเป็นเรือนแพ บรรยากาศสบาย แต่วันนี้อากาศร้อนมาก

ทานอาหารเสร็จก็มาไหว้พระกันก่อนค่ะ....มะปรางแอบกระซิบขอพรจากหนูด้วย

พระพิฆเนศเบบี้

เดินต่อไปด้านใน จะพบกับ "พระราหู" องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ข้างๆกันมีรูปปั้น "พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ"

เดินเวียนใต้ช้างเอราวัณ

เวียนซ้าย 1 รอบ เอาสิ่งร้ายออก

เวียนขวา 3 รอบ เอาสิ่งดีเข้า

ทำบุญ ปิดทอง

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในศาลา

พระพุทธเจ้าปางแรกเกิด

ไหว้พระและเทพเจ้าตามวันเกิด

บูชาพระราหูด้วยของดำ 9 อย่าง

ป้ายบอก "ตำแหน่งการไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง" ที่อยู่ภายในวัด

มีร้านขายของฝาก ของกิน มากมายหลายร้อยร้าน สามารถเลือกซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย

@@@ องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข @@@ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทรงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และสามารถประสิทธิ์ประสาทพรแก่ผู้ที่มากราบสักการะให้สำเร็จผล

ในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ซึ่งมีผู้เข้ากราบสักการะแล้วสมหวังมากมายจนเป็นที่เลื่องลือ

ลักษณะของพระพิฆเนศวร รูปกายเป็นมนุษย์อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย มีเศียรเป็นช้าง

มีงาข้างเดียว (ถูกขวาน ปรศุรามหักเสียงา) สีกายสีแดง (บางแห่งว่าผิวเหลือง นุ่งห่มแดง)

มีสี่กร พระหัตถ์หน้าขวาถืองาช้าง พระหัตถ์ซ้ายถือขันน้ำมนต์ เป็นกระโหลกศีรษะมนุษย์

พระหัตถ์หลังขวาถือ ตรี พระหัตถ์ซ้ายถือบาศ (บ่วง) พาหนะคือ หนู

พระพิฆเนศวรเป็นโอรสของพระอิศวรและพระอุมาเทวี ทุกคนเคารพนับถือท่านในฐานะท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุกศาสตร์สรรพสิ่งหรือเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง
เมื่อพิจารณาความหมายในทางสัญญะ
-รูปกายที่อ้วนพี มีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์
-เศียรที่เป็นช้าง มีความหมาย หมายถึงผู้มีปัญญามาก
-ตาที่เล็ก หมายถึง สามารถมองแยกแยะสิ่งถูกผิด
-หูและจมูกที่ใหญ่ หมายถึง มีสัมผัสพิจารณาที่ดีเลิศ

วันนี้คนหนาแน่นมาก(ที่สุด) เพราะมีพิธีบวงสรวงสร้างวัตถุมงคล

พวกเรามาถึงตอนเริ่มพิธีพอดีค่ะ เลยได้ร่วมงานจนจบ

ขอพรพระพิฆเนศ เดินเวียนทักษิณาบูชาองค์พระพิฆเนศ 32 ปาง

ปาง 1-4

ปาง 5-8

ปาง 9-12

ปาง 13-16

ปาง 17-20

ปาง 21-24

ปาง 25-28

ปาง 29-32

เข้าไปขอพรและเสี่ยงทาย ที่ภายใต้ฐานองค์พระฯ

อธิษฐาน ขอพร แล้วยกช้างเหล็กด้วยนิ้วก้อยซ้าย ถ้ายกขึ้น พรที่ขอจะประสบผลดังปรารถนา

หลวงพ่อประทานพร พระปางลีลา แบบพระประธานภายในพุทธมณฑล

และพระพิฆเนศปางปาฏิหาริย์ ๑๐๘ กร

พระพิฆเนศปางยืนปาฏิหาริย์ ๑๐๘ กร ขอสิ่งใดสำเร็จรวดเร็วทันใจดังปาฏิหาริย์

เดินออกมาที่ลานกว้างริมแม่น้ำ

จะเห็นวิวของแม่น้ำบางประกง

มีแพดอกบัว(ขนาดใหญ่มาก) ยื่นไปในแม่น้ำ

พญานาคขนาดใหญ่ เขียว-แดง

พ่อปู่ฤาษี (พ่อแก่) บรมครูของเหล่าศิลปินทุกแขนง ให้โชคลาภ เงินทอง

องค์พระโพธิสัตว์

แบบแปลนการก่อสร้าง รพ.วัดสมานรัตนาราม

ฮก ลก ซิ่ว

พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานบุตรแห่งโชคลาภและประทานการงาน เงินทอง

องค์ปฐมต้นแบบองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ตรงฐานเจ้าแม่กวนอิม มีรูปปั้นเทพเจ้า เดินชมรอบๆได้เลยค่ะ

มะปรางมีเขา??

เข้าไปสักการะ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านในได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watsaman.org/

เวลา 14:00 น. ออกเดินทางต่อมายัง.....วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)

ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด ๑ กิโลเมตร

เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ

สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ปีพ.ศ. 2449 ได้ทรงพระราชทานนามวัดว่า " วัดจีนประชาสโมสร "

ส่วนชื่อภาษาจีนของวัด " เล่งฮกยี่ " มีผู้เรียกวัดนี้ ว่า มังกรวาสนา หรือ มังกรแห่งโชค

- ฮก แปลว่า วาสนา โชคลาภ ความมั่งมีศรีสุข
- เล้ง หรือ เล่ง หมายถึง มังกร

พระประธาน 3 องค์

รูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ(ไฉ่เซ่งเอี้ย) ที่อยู่ด้านขวาขององค์พระประธาน

ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ ทำจากกระดาษอยู่ที่ประตูทางเข้า

ทางวัดจะมีป้ายระบุจุดไหว้พระไว้หลายสิบจุดเลยค่ะ

อากาศภายในจะอับทึบไปหน่อยเพราะร้อนและมีควันธูปอบอวล..เด็กไม่ค่อยมีความสุข

พวกเรา เดินไหว้พระและเก็บภาพไปรอบๆ

ไหว้พระขอพรแต่ไม่ได้จุดธูป

มีจุดให้ไหว้สักการะมากมาย

เจ้าแม่กวนอิมรากไม้ 100 ปี

นมัสการขอพรแล้วลูบเกล็ดมังกรด้วยค่ะ

มะปรางหมดแรง เมาควันธูปจะเป็นลม เลยออกมานั่งพักด้านนอก

เวลา 14:30 น.เดินทางออกจากเมืองแปดริ้ว ผ่านวัดโสธราราม

เวลา 15:30 น.เดินทางมาถึงวัดหงษ์ทอง ตั้งอยู่ที่ ต.สองคลอง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา

ตามประวัติวัดนี้ได้เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2533

ทางด้านหน้าจะพบกับ "ศูนย์พัฒนาจิต ศาลาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศรนิลอนุสรณ์”

มีขนาดกว้าง 18วา ยาว 30วา ตั้งอยู่ในทะเล

ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ในทะเลนะคะ

ทางเดินไป “พระธาตุคงคามหาเจดีย์” เราจะพบกับทางเดินหัวพญานาคที่ทอดยาวไปในทะเล

ปัจจัยทั้งหมดในการก่อสร้างได้มาจากการบริจาคด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

ร่วมสร้างถวายเป็นพระราชกุศล เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในปีกาญจนภิเษก ฉลองศิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี

ระหว่างทางเดินเมื่อมองลงไปข้างล่าง...

วันนี้น้ำลดเราจะพบกับกลุ่มสิ่งมีชีวิต เช่น ปลาตีน ปูแสม อยู่มากมาย

จากข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมีบันทึกไว้ว่า ท่านพระครูปรีชา ประภากร เข้ามารับตำแหน่ง เจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี 2534 ท่านพบว่าที่ดินของวัดถูกน้ำทะเลกัดเซาะ จาก ๒๑ ไร่เศษ เหลือเพียง ๘ ไร่ จึงเร่งบูรณะพัฒนาวัดทั้งด้านสถานที่ และระเบียบวินัย เริ่มจากการทำเขื่อนยุติปัญหาน้ำเซาะที่ดิน ซึ่งในระยะแรกท่านต้องลงแรงทำด้วยตัวเองด้วย ปรับปรุงเส้นทางการเดินทางเข้าหมู่บ้านและวัด หลังจากนั้นท่านได้ก่อสร้างถาวรวัตถุของวัดในอาณาบริเวณเดิมซึ่งที่ดินถูกกัดเซาะลงทะเลไป
สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้จึงเสมือนปลูกสร้างอยู่ในทะเล แต่ตั้งอยู่ในโฉนดที่ดินของวัดทั้งสิ้น.