TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2556/03/22

3.Sanrio Puroland -Odaiba Rainbow Bridge


วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2556 เวลา 9:00 น.

วันนี้เด็กนอนอืดมาก เมื่อวานเดินเยอะหมดแรง กว่าจะตื่นก็ประมาณ 9โมงเช้า
ดื่มนม ทานอาหารเช้า กินขนมนิดหน่อย ก็ออกเดินทางเลยค่ะ



เวลา 9:30น.เดินทางไป Sanrio Puroland ต้องไปขึ้นรถไฟสาย Keio line จาก ชินจูกุ
โดยเลือกรถที่จะไปเมือง Hashimoto แล้วขึ้นรถให้ถูกสาย




ควรเป็นรถด่วน(express) ซึ่งราคาเท่ากัน 340 เยน
จอดน้อยสถานีกว่า ถึงเร็วกว่า ออกทีหลังแต่ถึงก่อนค่ะ




ลงที่สถานี Tama center



เวลา10.45 น.เดินทางมาถึงสถานี ลงรถแล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที



Kitty Town-----แผนที่ก็เป็นคิตตี้แล้วค่ะ




สองข้างทางก็จะมีร้านขายของเล่น ตู้หนีบตุ๊กตา
มีร้าน Daiso ใหญ่มากๆ(เหมือนห้างโลตัสบ้านเราเลยค่ะ) แม่ตุ๊กเล็งไว้แล้ว ขอแวะตอนกลับค่ะ




ถึงแล้วค่ะ Sanrio Puroland
open 10:00-18:00




ซื้อตั๋วเข้าสวนสนุก เป็นบัตรเครื่องเล่นเข้าได้หมด(passport ticket)
 ผู้ใหญ่ราคา 4400 เยน เด็กราคา 3300 เยน 
สามารถprint คูปองลดราคาจากใน web มาช่วยลดได้ (คนละประมาณ 300 เยน)





ลงไปที่ ชั้น 1 Puro Village กันค่ะ



ถ่ายรูปกับ Little Twin Stars ที่ออกมาต้อนรับก่อนค่ะ




KIKI & LALA




เดินขึ้นไปชั้น 2  จะพบกับ Sanrio Character Boat Ride




รีบไปต่อคิวค่ะ คนยังไม่มาก
นั่งเรือเข้าไปในโลกตัวละครของ sanrio(เหมือน small world ใน disney landค่ะ)



ผ่านประตูเข้ามาก็พบกับนักแสดงตัวเล็กมากมาย 2 ข้างเลยค่ะ




จัดแสดงแยกเป็นห้องๆ มีประตูเปิด-ปิด อัตโนมัติ 
ตรงนี้จะดูน่ากลัวนิดนึงเพราะเรือจะขึ้นเนินสูงมาก แต่มันจะค่อยๆลงเบาๆ



Pompompurin,Kerokerokeroppi,Cinnamoroll,..... ...
 


คนที่ชื่นชอบ sanrio จะมีความสุขมากค่ะ เพราะเราจะได้พบกับทุก character 
 เพลงประกอบก็น่ารัก เป็นภาษาญี่ปุ่น มีเสียงตัวละครพูดคุย-หัวเราะกัน




ประตูบานต่อไปดูหวานมาก มีงานปาร์ตี้อยู่ค่ะ



Hello Kitty,My Melody,Kuromi,Marron Cream,TuxedoSam
 


เข้าถ้ำมืดๆค่ะ มีเพื่อนตัวเล็กนั่งกระเช้ามองเราอยู่


 รวมทั้งหมดใช้เวลา ประมาณ 15 นาที ก็ครบรอบค่ะ



อันนี้เป็นภาพประกอบและชื่อตัวการ์ตูนยอดนิยม จากเวปของ sanrio ค่ะ



เข้าไปชมการแสดงบนเวทีที่ Marchen Theater   พูดภาษาญี่ปุ่นซึ่งน่าจะสนุกดีถ้าฟังออก 
แต่มะปรางบอกว่า"ฟังไม่ออกก็สนุกได้" เพราะเค้าแสดงท่าทางน่ารักมากๆ






เป็นเรื่องราวของการตามหาสิ่งมีค่าที่หายไป และมิตรภาพระหว่างเพื่อน(ดูและเดาจากการแสดงนะคะ)



ความยาวประมาณ 40 นาที



ออกมาเก็บภาพกับ Kitty ค่ะ




ไม่ต้องต่อแถวเลยค่ะ(ไม่มีคน)สบาย...




Kitty Robot



The Time Machine of Dreams
ทุกคนจะได้การ์ดคิตตี้ คนละ 1 ตัว เอาไว้เล่นเกมได้คนละ 1 ครั้งต่อเกม เก็บไว้ให้ดีค่ะ



เอาการ์ดของเราไปวางที่แผงเกม แล้วก็เล่นได้เลยค่ะ
เกมแรก ยิงปืนเลเซอร์



เกมที่ 2 แต่งตัวคิตตี้ โดยการบังคับผ่านพวงมาลัย



พอจบเกม ก็จะได้ริบบิ้น มีทอง,เงิน,ทองแดง




โมเดลตั้งโชว์ ไว้ยั่วยวนให้เด็กอยากซื้อ



ขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ เป็นห้องปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ เห็นคิตตี้แขนหัก..น่าสงสารจัง



เกมที่ 3 ปั๊มให้คิตตี้ฟื้นชีวิต
เด็กๆชอบมาก มะปรางเอาการ์ดแม่ไปเล่นอีก..สนุกๆๆ





เกมที่ 4 ปล่อยจรวดคิตตี้ วิ่งแล้วกระทืบเท้าแรงๆ จนจรวดถูกปล่อย





แล้วก็มีตู้เกมอีกหลายตู้ให้เด็กเล่นได้ตามสบายเลยค่ะ



เล่นเกมครบทุกด่านแล้ว ก็ลงไปข้างล่างค่ะ



เกมและเครื่องเล่นมีอยู่เล็กน้อย ไม่ผาดโผน เหมาะกับเด็ก ไม่เกิน 12 ปีค่ะ(ควรเป็นเด็กผู้หญิงด้วย)



Parade เริ่มแสดงเวลา 12:00 บริเวณ ลานรอบๆ The Wisdom Tree




สวยงามและอลังการดีค่ะ ผู้แสดงเป็นร้อยคน หมุนไปรอบๆ wisdom tree ให้ผู้ชมเห็นทุกมุม



ใช้เวลาประมาณ 30 นาที



จบลงอย่างงดงาม น่าประทับใจ



ทานอาหารเที่ยงแบบง่ายๆ ยากิโซบะ,ไก่ทอด จัดไว้เป็นกล่องๆละ 400 เยน




ทานเสร็จก็ไปต่อกันที่ Kitty's House




เปิดประตูเข้าไป..เหมือนบ้านตุ๊กตาเลยค่ะ สวยหวานมากๆๆๆ



ถ่ายรูปได้ทุกมุม





คนไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งที่ถ่ายรูปกันเลยค่ะ






ห้องนอนในฝันของเด็กผู้หญิง



ขอลองนอนในอ่างหน่อยค่ะ






น่ารักดีนะคะ





โซฟาพระราชา




เดินชมจนทั่วก็เข้าไปต่อคิวถ่ายรูปกับ Hello Kitty (ตัวแม่)ในสตูดิโอค่ะ




คิตตี้จะถามชื่อเด็กและพูดคุยด้วย...เป็นภาษาญี่ปุ่น มะปรางได้แต่ยิ้มเพราะฟังไม่ออกเลยค่ะ



ออกมาเดินดูของฝากค่ะ




ตรง Entertainment Hall มีการแสดงบนเวทีของพวกคาแรคเตอร์ ดูน่าสนุกมาก(ภาษาญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ)






อันนี้คือตารางเครื่องเล่นและการแสดงที่มีทั้งหมด พวกเราดูได้ไม่ครบค่ะแต่ถ้าอยู่จนเย็นน่าจะครบหมด
เห็นพวกคุณแม่(ญี่ปุ่น) เขาเอาอาหาร-เสื่อมาปูนั่งเล่นกันที่ลาน รอลูกๆเล่น คงอยู่จนปิดแน่ๆเลยค่ะ


 
ประมาณ 14:00 น. มะปรางเริ่มเหนื่อย คุณป๋าก็ชวนกลับ แวะร้าน Daiso ซื้อของฝากค่ะ




กลับด้วยรถไฟ express เหมือนเดิมลงที่ Shinjuku station เอาของมาเก็บที่โรงแรม




พักผ่อนกันสักหน่อย เด็กขอเล่นเกม....พักสมอง???




16:00 น. ออกเดินทางไป Odaiba โดยการนั่งรถไฟสาย  Yamanote line จาก Yoyogi station
ไปลง  Shimbashi station แล้วนั่งรถไฟสาย Yurikamone ไปลง สถานี Odaiba-kaihinkoen



 NEW TRANSIT YURIKAMONE



 นั่งชมวิวสองข้างทาง มองลงไปข้างล่างแล้วเสียวมากค่ะ สูงประมาณตึก 4 ชั้น







ข้าม Rainbow Bridge



พอถึง Odaiba-kaihinkoen station ก็ลงได้เลยค่ะ




ไปเดินเล่นที่ park ไม่ค่อยมีคน อากาศเย็นสบายมาก มีลมทะเลพัดกลิ่นโชยเลยค่ะ






ยังเห็นซากุระอยู่ประปราย




ทางขวามือเรียกว่า Odaiba-kaihin Park เดินเล่นชมวิวทะเลได้ค่ะ






Rainbow Bridge





เดินเรื่อยๆไปถึง Tokyo decks ดูสะพาน



มีทางลงไปเดินเล่นริมทะเลได้ค่ะ






DECKS Tokyo Beach=shopping- eating






อากาศดี เดินเก็บภาพไปตลอดทางเลยค่ะ




มุมนั่งเล่น วิวสวยๆ




ควันหลงวันวาเลนไทน์




ช่วยกันกดปุ่มให้ไฟติด




หน้าหนาวเริ่มมืดเร็วมาก




เดินเรื่อยๆเลยมาหน่อยก็เป็นอีกห้างชื่อ AQUA CITY






ติดกันเป็นห้างชื่อ JOYPOLIS SEGA =Japan's largest indoor amusement park(>20 attractions)




ถึงแล้วค่ะ....อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ...ของญี่ปุ่น




เริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ ถ้ามืดกว่านี้ก็คงสวยไปอีกแบบ




มุมนี้ดูเป็นสัญลักษณ์ของ Odaiba เลยค่ะ






ตามห้างเปิดไฟประดับสวยงาม







กดปุ่มเปิดไฟได้ค่ะ




18:30 น.มืดแล้วค่ะ เริ่มหิวข้าว เข้าไปใน Aqua city กันค่ะ มีร้านอาหารเยอะมาก เลือกกันอยู่นาน
สุดท้ายได้ร้านนี้ค่ะ(มะปรางอยากทานข้าว) ร้านนี้วิวสวยด้วยค่ะ เลือกนั่งริมหน้าต่างชมวิว



ร้านกว้างมาก..ไม่มีคนเลย



 นั่งรออาหารนานมากๆๆ..ร่วม ชม.
ต้องดูวิวแก้หิวไปพลางๆ



มาแล้วค่ะ น่าทานดีนะคะ




อาหารอร่อยดีค่ะ มะปรางทานหมดจาน..เธอบอกว่ามื้อนี้อร่อยที่สุด(คงจะหิวจัด)




ร้านนี้เค้าขายของเล่นด้วย ให้เอาแผ่นรองแก้วกลับมาเป็นที่ระลึกค่ะ



Rainbow Bridge เวลากลางคืน เปิดไฟสว่างไสว




ทานอาหารเสร็จ คุณป๋าพาไปเดินต่อที่ Diver city และ Palette town 



แต่เด็กเดินไปได้ครึ่งทางก็ไม่ไหวแล้ว อากาศหนาวเย็นมาก(ยิ่งดึกยิ่งหนาว) ก้าวขาเดินไม่ออก 
ลมทะเลก็แรง คุณป๋าเลยชวนกลับดีกว่า 
มาถึงโรงแรมสองทุ่มกว่า วันนี้เข้านอนเร็วเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น