TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2556/01/01

3.นั่งเรือไปเที่ยวพม่าที่เกาะสอง(victoria point)


วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม 2555 เวลา 08:00 น.

เช็คเอ้าท์จากที่พักเอากระเป๋าใส่ท้ายรถเดินทางต่อ วันนี้เราจะไปต่างประเทศกันค่ะ



ขับรถไปเส้น ระนอง-ปากน้ำ จนถึงท่าเรืออันดามันคลับ




พวกเรามาถึงแต่เช้า เข้าไปหาที่จอดรถด้านในเลยค่ะ




ที่ท่าเรือนี้มีด่าน ตม.เราทำเรื่องผ่านแดนไปพม่าที่นี่ได้เลยค่ะ




ยื่นเอกสาร..คนไทยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ไม่ต้องยื่นหนังสือเดินทาง(passport)นะคะ



ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว คนละ 100 บ.(เป็นของไทย 30 บ. ของพม่า 70 บ.เก็บรวมจากที่นี่เลยค่ะ)
แล้วก็รอมายืนรอจ่ายเงินกับ จนท.อำเภอเมืองระนอง..มาสายมากๆคงเพราะเป็นวันหยุด



ยืนรอๆนานเป็น ชม.เลยค่ะ เพราะจะมีกรุ๊ป VIP มาแทรกคิวหลายสิบคน
เวลา ประมาณ 9:30 น.ก็ทำเอกสารเสร็จ ไปรอลงเรือที่ท่าได้เลยค่ะ



วันนี้อากาศดี ไม่ค่อยมีแดด(มีเมฆฝน) เดินเล่นที่ท่าเรือก่อนค่ะ
พวกเราต้องรอเรือเที่ยวถัดไป เพราะเที่ยวนี้เต็มแล้ว




ใกล้ๆกันมีท่าเรือ VKR ประภาคารสีส้ม มีเรือพาไปคาสิโนที่เกาะคู่




ห้องรอลงเรือ




ได้เวลาลงเรือแล้วค่ะ เป็นเรือCatamaran   
ซึ่งมีบริการเที่ยวไปตั้งแต่ 08.30 น. – 23.30 น. และเที่ยวกลับตั้งแต่เวลา 07.45 น. – 23.30 น



ช่วงเทศกาล มีนั่งท่องเที่ยวเยอะ เรือจะออกทุก 15-30 นาที ไม่ต้องคอยนานค่ะ



ภายในเรือมีที่นั่งเป็นสัดส่วนพร้อมเสื้อชูชีพ ห้องปรับอากาศ นั่งสบาย ปลอดภัยดีค่ะ
แต่ลำที่เราโดยสาร แอร์เสีย!!! ต้องเปิดประตู ได้บรรยากาศทะเลเต็มๆเลยค่ะ



ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที ก็มาถึงเกาะสน เป็นที่ตั้งของ Andamanclub



พวกเราต้องขึ้นเรือไปผ่านด่าน ตม.เพื่อประทับตราเข้าเมืองที่อาคารด้านในก่อนค่ะ 
เข้าห้องน้ำ-ล้างหน้าให้เรียบร้อยก็เดินออกมาที่ท่าเรืออีกครั้ง




แม่ตุ๊กจองทัวร์ไปเที่ยวเกาะสองกับ บ.อันดามันคลับ(คนละประมาณ 650 บ.)
มี จนท.ของคลับ 2 คนพาเที่ยว ติดสติกเกอร์ที่หน้าอก รับน้ำดื่มและแซนด์วิชคนละชุด



นั่งรอเรือมารับสักพัก..เวลา 10:30 น. เรือก็มาเทียบท่า
 เป็นเรือปรับอากาศแอร์เย็นมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที(คุณป๋านั่งหลับ)



มาถึงเกาะสอง(Victoria Point) แล้วค่ะ 




The Republic of the Union of Myanmar
"Town of Kawthuang"




ตรงนี้เป็นปลายล่างสุดของแผ่นดินประเทศพม่าฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง 
 ชาวพม่าเกิดความรู้สึกชาตินิยม จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น“คิงบายินนอง พ้อยท์”
(King Bahyintnaung Point)




คุณป๋าชี้ให้ดูป้ายตรงท่าเรือ--การต้อนรับที่อบอุ่น(ร้อนมาก) และดูแลนักท่องเที่ยว--




นี่คือพาหนะที่จะพาเราท่องเที่ยวในวันนี้..รถสองแถว open-air




นั่งเบียดๆกันไป คันละ 15-20 คน จับราวให้แน่นๆนะคะ รถซิ่งมาก!!!




บ้านเมืองเก่าๆไม่แออัด ถนนขึ้นเขาตลอด เสียงบีบแตรรถดังสนั่น



"อนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง"  



พระพม่าสร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับระลึกถึงคุณงามความดีของ"พระเจ้าบุเรงนอง"
หรือที่คนไทยเรียกว่า ผู้ชนะสิบทิศ



มีชื่อภาษาพม่าว่า “King Ba ying naung” 
เป็นที่สักการะ บูชาของนักท่องเที่ยวและชาวพม่าเพื่อความเป็นสิริมงคล



จากจุดนี้สามารถชมวิวโดยรอบทะเลอันดามันได้เป็นมุมกว้าง




ประวัติของพระเจ้าบุเรงนอง..เป็นภาษาพม่า..อ่านไม่ออกค่ะ



อีกด้านเป็นภาษาอังกฤษค่ะ




เดินชมวิวรอบๆอนุสาวรีย์



อากาศร้อนมากๆๆ จะเป็นลมแล้วค่ะ



ได้เวลาไปต่อแล้วค่ะ 
ปล.ที่นี่จะมีผู้หญิงเดินเก็บเงินค่าถ่ายรูป คิดเป็นกล้องๆละ 20 บ.ค่ะ
คิดว่าเป็นค่าบำรุง ดูแลสถานที่




ขึ้นสองแถวซิ่งขึ้นเขากันต่อ แม่ตุ๊กบอกให้คุณป๋าจับแน่นๆกลัวตกรถค่ะ




วัดปิดอร์เอ



ต้องถอดรองเท้าที่หน้าประตูวัดแล้วเอาวางไว้ในตะกร้า 
จะมีคนเฝ้ารองเท้าให้ค่ะ พอออกมาค่อยเอาเงินใส่ขันให้คนเฝ้า..กี่บาทก็ได้




สักการะ"พระสมปรารถนา"ก่อนนะคะ..ทุกคนที่มาที่นี่มักขอพรกันค่ะ
การกราบไหว้บูชาที่พม่าใช้ดอกไม้ร้อยเสียบก้านไม้ยาวแทนธูปเทียน ไหว้เสร็จก็นำไปเสียบในแจกัน




ภายนอกเจดีย์มีรูปปั้นเป็นเรื่องราวพระเจ้าสิบชาติ















จัดแสดงเป็นห้องๆค่ะ เดินดูแล้วเพลินดีค่ะ




อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าสดใส



วัดปิดอร์เอหรือเจดีย์ปิดอร์เอ แปลว่า เจดีย์แห่งความสงบ จำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองในย่างกุ้ง 
ตั้งอยู่บนเขา คนไทยเรียกว่า “วัดจีน”




เจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีทองอร่าม สูงประมาณ 70 ฟุต



 ภายในเจดีย์บรรจุพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 
 สักการะพระมหามุนีจำลองจากมัณฑเลย์ซึ่งเป็นองค์พระพุทธเจ้าตามแบบของพม่า



พระพุทธรูปประจำวันเกิด ตั้งอยู่ประจำทิศต่างๆ





ตู้ทำบุญ..มีคำอวยพรเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ



ด้านนอกมีต้นโพธิ์อายุประมาณ 100 ปีที่นำมาจากประเทศศรีลังกา



พื้นปูด้วยกระเบื้องแต่ไม่ร้อนเท้าแม้อากาศจะร้อนมาก..เดินชมวิวรอบๆเจดีย์ได้สบายค่ะ





จากมุมนี้จะมองเห็นตัวเมืองและทะเลชัดมาก..วิวสวยค่ะ



เก็บภาพครอบครัวก่อนกลับ



รถสองแถวพาพวกเราซิ่งลงจากภูเขา...เพื่อมาช็อปปิ้งค่ะ



เข้าไปเดินในตลาดพม่ากันค่ะ
 คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้มีทั้งชาวพม่า,มุสลิม,มอญ และ จีน



ชาวพม่าบนเกาะนี้ยังคงรักษาอารยธรรมที่นิยมมากว่าหลายร้อยปี โดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านการแต่งกาย คือ ผู้ชายนุ่งโสร่ง และผู้หญิงนุ่งผ้าถุง (ยาวกรอมเท้า)โดยใช้วิธีขมวดเหน็บเอาไว้โดยไม่ต้องรัดเข็มขัด




ไกด์ของเราค่ะ (ชาวพม่าแต่พูดไทยเก่ง) เป็นพนักงานของอันดามันคลับ
พาพวกเราเดินซื้อ-ชมของ ทุกซอกมุมของตลาดเลยค่ะ




ร้านทองในพม่า ติดลูกกรงแน่นหนามากๆ




ชาวพม่าที่นี่ส่วนใหญ่หาเลี้ยงชีพด้วยการประมง และค้าขายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยว





เวลาเดินต้องระวังโดนมอเตอร์ไซค์ชนนะคะ..



จุดนัดพบของกรุ๊ปทัวร์..ร้านกาแฟที่หัวมุมถนน..




นั่งรอเรือมารับกลับค่ะ



ไกด์บอกว่าถ้าเรือยังไม่มาเทียบท่า ห้ามนักท่องเที่ยวออกไปรอที่ท่าเรือ..
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าเพราะอะไร?? หรือเพื่อความปลอดภัย??



ประมาณ 13:00 น. เรือก็มารับกลับไปที่อันดามันคลับ(เกาะสน)
แอร์เย็นนั่งสบายมาก คุณป๋าขอนอนกลางวันสักตื่น




เวลา 13:30 น.ก็มาถึงเกาะสนแล้วค่ะ ที่นี่ฟ้ามืด เมฆฝนดำมาเลย
รอรถมารับไปอันดามันคลับค่ะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น