เดือน กุมภาพันธ์ นี้พวกเราไม่มีทริปไปเที่ยวไกลๆเลย เพราะมะปรางต้องสอบเยอะมาก ดังนั้นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ก็อยู่บ้านตลอด โดยมีคู่หูคือ scooby-doo(หมายักษ์-ตอนนี้ตัวมันหนักและใหญ่กว่ามะปรางสัก 2 เท่าแล้วล่ะ) ผุ้แสนจะใจดี นั่งเฝ้ามะปรางทั้งวัน ส่วนเจ้า stitch กำลังผลัดขนหน้าร้อน ขนร่วงมากๆแช่น้ำกันทั้งวันเหมือนกัน
12 ก.พ.2555
วันนี้วันอาทิตย์คุณป๋าพามะปรางไป สงขลาอแควเรียม(ไม่ได้ไปมาเป็นปีแล้ว...คิดถึง)
ไปดูให้อาหารปลากันค่ะ น้ำใสมากๆ วันนี้ไม่ค่อยมีคน เพราะฝนตกหนักเหมือนกัน แต่ก็เย็นสบายดี
เต่าทะเลก็มาด้วย
ทุกๆคนชอบลุ๊คใหม่ของเต่าทะเลกันนะ...แบบว่าแนวดี
ทุกตัวจะดูวุ่นวายกับการกินอาหารเหลือเกิน
จะเห็นว่ามีเต่าทะเล มาอีกตัวแล้ว
ตัวใหญ่มากๆ บังนักประดาซะมิดเลย
วันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ.55
คุณป๋าพาไปบนเขาคอหงส์ ขับไปตามทางจนถึงยอดเขา เพื่อมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้ากันค่ะ
ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2554 เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของหาดใหญ่
พร้อมฉลองเปิดตัวเคเบิ้ลคาร์ด้วย 7 คู่รัก ร่วม “วิวาห์เหาะ” บันทึกประวัติศาสตร์หนึ่งเดียวในโลก
หาที่จอดรถ แล้วก็เดินไปตามทาง แวะไหว้พระก่อนค่ะ
เก็บภาพหมู่นิดนึง
ตอนกลางคืนน่าจะสวยค่ะ มีโคมไฟสวยๆเรียงกันหลายอัน
บรรยากาศโดยรวมสวย และสะอาดมากค่ะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดขายใหม่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ด้วยงบประมาณที่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ทุ่มลงไปกว่า 170 ล้านบาท
โครงการกระเช้าลอยฟ้า ยังไม่เสร็จนะคะ นี่เพิ่งเปิดแค่เฟส 1 ก่อน
สามารถซื้อบัตรได้ที่ สถานีพระพุทธมงคลมหาราช และสถานีท้าวมหาพรหม
เปิดให้บริการ เวลา 9.00 - 20.00 น. โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ประชาสัมพันธ์เทศบาลนครหาดใหญ่ โทร 0-7420-0068
อัตราค่าบริการ : เด็ก 50 บาท , ผู้ใหญ่ 100 บาท , ชาวต่างชาติ 200 บาท
เป็นอัตราไป-กลับ นะคะ เก็บตั๋วแล้วก็นั่งกระเช้ากลับมาที่เดิม เหมือนนั่ง 2 รอบค่ะ
ซื้อตั๋วไป 250 บ.(3คน) แล้วก็มายืนรอคิว มีคนยืนต่อกันยาวเชียว วันนี้วัันหยุดเลยมีนักท่องเที่ยวมากหน่อย
กระเช้าชุดนี้มีคุณภาพและมาตรฐานเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมการทำงานจากบริษัท Doppelmayer จากประเทศออสเตรีย ซึ่งมีชื่อเสียงและความชำนาญในด้านเทคโนโลยีเคเบิ้ลระดับโลก
ยืนรอสัก 10 นาที ก็มี เจ้าหน้าที่มาเรียกให้ขึ้นกระเช้าก่อน เพราะคนส่วนมาก มากลุ่มใหญ่ จะรอไปพร้อมๆกัน
กระเช้าลอยฟ้า มีระยะทางเริ่มต้นจาก สถานีพระพุทธมงคลมหาราช ไปจนถึงสถานีท้าวมหาพรหม
สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ครั้งละ 8 คน รองรับน้ำหนักได้ 640 กิโลกรัม
ไปกันค่ะ กระเช้าเดินเรียบมากไม่กระแทก นุ่มนวล ลมแรงก็ไม่แกว่ง
จะถึงแล้วค่ะ สถานีอยู่ข้างหน้าแล้ว ปกติถ้าขับรถก็ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเพราะอยู่คนละยอดเขากัน ถนนก็แคบๆ แม่ตุ๊กว่านั่งกระเช้าก็สบายดีนะ
ถึงแล้ว สถานีท้าวมหาพรหม
มีร้านซูวีเนียร์ เข้าไปเดินเล่นดูของกันก่อนก็ได้ค่ะ
แล้วก็ออกไปไหว้ท้าวมหาพรหมกันต่อค่ะ
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ให้กราบไหว้ค่ะ
ช้างสีทองพวกนี้คือของคนที่คนนำมาแก้บน
มะปรางชอบวิ่งเล่นรอบๆบนนี้ค่ะ เธอบอกว่าอากาศโปร่งสบายดี
เดินเล่นสักพักคุณป๋าก็บอกว่าเรากลับกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะก่อน
เอาตั๋วอันเดิมมาขึ้นกระเช้ากลับได้เลย
มีเพื่อนแม่ตุ๊กเค้าพาญาติจากกรุงเทพฯมาเที่ยวบนเขา พอส่งญาติขึ้นกระเช้าที่สถานีแรก
แล้วตัวเองก็รีบซิ่งรถข้ามเขามารับญาติที่สถานี 2 ...กลับไปบ่นให้แม่ตุ๊กฟังว่าทำไมมันลำบากจังฟ่ะ....
ไปเดินดูที่ริมชานชลาค่ะ ลมเย็นสบายมากๆ
ระหว่างทางจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามเห็นเมืองหาดใหญ่และทะเลสาบสงขลาชัดๆ
พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำแล้ว
ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ กำลังจะจัดทำโครงการกระเช้าลอยฟ้าระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการภายในปีหน้า เริ่มจากสถานีสนามเด็กเล่น ไปสถานีเจ้าแม่กวนอิม (พระโพธิสัตว์กวนอิม) ไปถึงสถานีพระพุทธมงคลมหาราช
มาดูห้องน้ำกันค่ะ ยังใหม่อยู่ สะอาดพอสมควร
เดินถ่ายรูปรอบๆสถานี
มีร้านกาแฟ 1 ร้าน ให้นั่งเล่น ดื่มกาแฟและชมวิวได้ค่ะ
บนยอดเขานี้เป็นที่พักผ่อนยอดนิยมของคนหาดใหญ่แห่งหนึ่งเลยค่ะ
เย็นๆจะมีคนมาปูเสื่อนั่งปิกนิกกัน
มองไปไกลๆจะเห็นทะเลสาบสงขลา
ออกไปเดินเล่นด้านนอกกันค่ะ
แวะเคาะระฆัง
พระพุทธมงคลมหาราช..มะปรางเรียกว่าองค์พระใหญ่เพราะมองเห็นเด่นชัดจากห้องนอนของบ้านเรา
วิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
อากาศเริ่มเย็นนิดๆ คนไปรอดูพระอาทิตย์ตกกันแล้วค่ะ
นี่คือรถลากสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้นำรถมา จะเป็นแพ็คเกจ ขึ้นกระเช้า-เข้าไอซ์โดม(ประมาณ 300บ)
ไปหอดูดาวกันต่อค่ะ (ศูนย์วิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์นครหาดใหญ่)
เข้าไปซื้อบัตรก่อน คนละ 20 บ.(ถูกมากๆ)
เข้าไปดูนิทรรศการก่อนค่ะ
เดินดู-อ่านไปเรื่อยๆ มะปรางชอบมากๆ อากาศเย็นสบาย ไม่มีคนเลยค่ะ
เธอบอกว่ามาทิ้งไว้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ
เจ้าหน้าที่มาเรียกให้เข้าไปดูภาพยนตร์กันก่อนค่ะ
เป็นสารคดีทางดาราศาสตร์ ของสวทช.
ดูจบก็ขึ้นไปชั้นบนไปดูดาวกันค่ะ
ตอนนี้ประมาณทุ่มนึงแล้ว จนท.บอกว่าเริ่มดูพระจันทร์ และดูดาวได้ แล้วก็มีการสอนการใช้กล้องก่อนดูจริง
เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้ดูดาวกับกล้องขนาดใหญ่เห็นหลุมบนดวงจันทร์ชัดมากๆ
ชีวิตประจำวันยามเย็นกับเจ้า stitch มันชอบเล่นสไลเดอร์ แย่งกันเล่น 1 คนกะ 1 ตัว
แล้วก็ชอบนั่งชิงช้ามาก เวลามีใครมานั่ง มันจะขอมานั่งด้วยทุกที จะได้มีคนแกว่งให้
ส่วน scooby ก็มีหน้าที่เฝ้าพี่มะปรางอยู่ข้างๆ ที่จริงเธอก็อยากเล่นชิงช้านะ แต่ตัวใหญ่เกินไปนั่งไม่พอ