วันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค.2555
ช่วงสายๆไปดูงานเซรามิคที่อินทราเอาท์เลต สำหรับลำปางนั้นงานเซรามิคถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของไทย
ผู้มาเยือนลำปางจึงไม่ควรพลาด
อินทราเอาท์เลตมีการก่อสร้างอย่างสวยงาม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมากๆ
มีมุมให้ถ่ายรูปมากมายจริงๆค่ะ
ดอกไม้ก็งดงาม สีสันสดใส(แม้อากาศตอนนี้ น่าจะร่วม 40 ํc)
มีที่ให้นั่งเล่น-พักผ่อน
ด้านในมีร้านกาแฟ-ขนม-ไอศครีม
เด็กน้อยนั่งเล่นอยู่กับช้าง(ไม้)
ที่นี่สินค้าคุณภาพดี ไม่แพง ราคาอาจจะสูงกว่าพวกที่ขายตามริมทางเล็กน้อยแต่บรรยากาศเย็นสบายกว่ากันมาก ถ้าร้านติดแอร์อื่นๆราคาจะสูงกว่าที่อินทราด้วยซ้ำ
ที่สำคัญและประทับใจมากคือ มีบริการส่งถึงบ้านด้วยค่ะ ค่าส่งก็ตามขนาดกล่อง(ไม่แพงเลย)
เลือกๆเสร็จ มาจ่ายเงิน เขียนที่อยู่ไว้แล้วของก็จะตามเรามาอีกไม่กี่วัน สบายมากๆไม่ต้องขนกลับค่ะ
และไม่ต้องกลัวของจะแตกนะคะ เค้าห่ออย่างดี(มืออาชีพมั่กๆ)
เราสามคนเลือกซื้อกันเต็มรถเข็นเลยค่ะ
เราสามคนเลือกซื้อกันเต็มรถเข็นเลยค่ะ
เลือกซื้อจนสะใจแล้วก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกกันต่อค่ะ
มะปรางขี่รถม้า(อีกแล้ว)
ชามตราไก่...ยักษ์
ปิรามิดกาน้ำ
bye-bye Indra outlet
ออกจากลำปางคุณป๋าก็ขับรวดเดียวถึงเชียงใหม่เลยค่ะ ถึงวัดเกตการามเวลาประมาณ 16:00 น.
ในเชียงใหม่รถเยอะมาก คุณป๋าไม่ชอบเลย ขับไปถึงวัดอย่างงงวยเพราะเครื่อง GPS มันทำงานสับสนมากมะปรางหมดแรง
"วัดเกตการาม" เดิม ชื่อวัดสระเกษ หรือวัดเกตุแก้ว
ที่ตั้ง 96 บ้านวัดเกต ถ.เจริญราษฎร์ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่
สร้างโดยพระเจ้าสามฝั่งแกน (พระราชบิดาของพระเจ้าติโลกราช)
วัดเกตการามเป็นวัดประจำปีจอ(ของคุณป๋า)
รายชื่อพระธาตุประจำ 12 ปี
พระธาตุวัดเกตการาม ถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณีสำหรับผู้ที่เกิดปีจอ ซึ่งพระธาตุประจำปีเกิดคือพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งตามพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า ประดิษฐานพระทันตธาตุที่พระอินทร์นำมาจากพระบรมธาตุที่โทณพราหมณ์ได้แอบซ่อนไว้ เมื่อครั้งมีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าให้แก่เจ้าเมืองต่างๆ
ด้วยเหตุที่พระธาตุเจดีย์องค์นี้มนุษย์ไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ดังนั้นนอกจากนมัสการด้วยการบูชารูปแล้ว ยังสามารถบูชาพระเจดีย์ที่วัดเกตการาม เชียงใหม่
ซึ่งมีชื่อพ้องกับพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์
มะปรางตื่นแล้ว..ขอทำบุญปีมะแมบ้างค่ะ
วัดเกตการามนี้จะมีลักษณะการตกแต่งในแบบของล้านนา ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นภายในบริเวณวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าที่ได้รับบริจาคมาจากชาวบ้านและที่ขุดพบในบริเวณวัดมาให้ชมกัน
ออกเดินทางไปที่พักกันค่ะ จะเห็นทางไป อ.สารภี มีการบวชต้นไม้ตลอด 2 ข้างทางเลย
มะปรางหิวมากเลย
ขอแวะ dinner ก่อนนะคะ
ที่พักคืนนี้ชื่อ"อัสสราเทวี รีสอร์ทแอนด์สปา"(พนักงานจะเรียกว่า อัสสราเดหวี) ทางเข้าสุดจะซับซ้อน สร้างมาประมาณ 2 ปีจึงไม่มีในเครื่อง GPS คุณป๋าบอกว่าไปอีกทียังไม่รู้จะไปถูกมั้ย ยิ่งกว่าค่ายกลดาวเหนือ!!
ไปถึงจนได้ร่วมสองทุ่ม check in แล้วไปที่ห้องเลยค่ะ ที่พักดีพอใช้ จุดเด่นคือเงียบสงบ(อยู่ในทุ่งนา)
ส่วนการบริการอื่นๆก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
เตียงใหญ่ดีค่ะ นอน 3 คนได้
ห้องพักใหญ่กว่าห้องแบบเดียวกันที่โรงแรมอื่น แสงไฟในห้องสว่างดี
น้ำดื่มให้แบบจุใจ4ขวด และมีฟรี WIFI
ห้องน้ำสะอาด-ใหม่ มีอ่างอาบน้ำด้วย
วันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2555
แม่ตุ๊กตื่นแต่เช้า มาเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
อากาศไม่หนาว อุณหภูมิประมาณ 22 ํc
มะปรางยังหลับสนิท
มองจากระเบียงหลังห้อง จะเห็นสระว่ายน้ำค่ะ
บรรยากาศตอนเช้า(ยังไม่มีใครตื่นเลยค่ะ)
บรรยากาศรีสอร์ทดูแห้งๆขาดสีสันของดอกไม้ไปหน่อยค่ะ ไม่ค่อยมีมุมให้ถ่ายภาพ
จุดด้อยของที่นี่และเป็นจุดสลบเลยคืออาหารเช้า
เพราะอาหารน้อยมาก(ให้เลือกมา 1 อย่าง มีข้าวต้มกับ ABF)
อาหารเด็ก8ขวบก็คิดราคาเท่ากับผู้ใหญ่(มื้อละ200บาท) ที่จริงราคาอย่างนี้ ทำเป็นบุฟเฟ่ต์ก็ได้นะคะ
ทานอาหารเช้าแล้วก็เตรียมตัวไปงานพืชสวนโลกกันค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น