วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2554
ปีใหม่นี้คุณป๋าชวนไปเที่ยวเชียงใหม่ตั้งแต่รู้ว่าจะมีการจัดพืชสวนโลก เมื่อประมาณเดือน พฤษภาคม 2554
คุณป๋าจองตั๋วเครื่องบิน หาดใหญ่-เชียงใหม่ ของ airasia ล่วงหน้านานมากกกก....
แต่ก็ได้ราคาถูกพอควรแม้จะเป็นช่วง super peak
เครื่องบินออกเวลา 13.30 ออกช้าไปเล็กน้อย(พอรับได้) ผู้โดยสารเต็มลำค่ะ
แต่ก็ได้ราคาถูกพอควรแม้จะเป็นช่วง super peak
เครื่องบินออกเวลา 13.30 ออกช้าไปเล็กน้อย(พอรับได้) ผู้โดยสารเต็มลำค่ะ
ไปถึง เชียงใหม่ประมาณ 15 :30 น. ก็ไปเอาสัมภาระและไปรับรถกับ northwheel ซึ่งราคาถูกมาก-บริการดี
รถเก่าหน่อย รอยรอบรถ แต่ก็ขับได้ดี (เวลาคืนรถก็ไม่มีปัญหา) ขอแนะนำว่าบริษัทนี้เป็นมือโปรดีทีเดียว
รับรถแล้วก็ขับไปลำปางกันค่ะ ประมาณ 100 กว่า กม. โดยขับเข้าเส้น 1144 แล้วเลี้ยวเข้าเส้น 11
ถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง(ที่เพื่อนๆขู่เอาไว้ว่าคดเคี้ยวนักหนาต้องขับขึ้นเขาด้วยค่อนข้างขับยาก)
รถก็ไม่มากแถมขับรถกันไม่ค่อยเร็วเท่าใดนัก(เส้นสายใต้ขับกันเร็วมากๆค่ะ)
เข้าเขตเมืองลำปางถึงศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ทางขวามือ มะปรางก็เริ่มหิวข้าวแล้ว
ตอนนี้ประมาณ 17:00 น. คุณป๋าเลยแวะเข้าไปข้างในหน่อย
ทานอาหารเย็นกันที่นี่ค่ะ ร่มรื่นมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวแล้ว ร้านก็เริ่มปิดค่ะ
ทานอาหารเสร็จก็ไปเดินเล่นในศูนย์กันค่ะแต่ไม่เห็นช้างนะคะ เพราะที่นี่มีการแสดงรอบสุดท้าย เวลา15:30น.
รถบัสนำเที่ยวในศูนย์(Elephant tour)
อากาศที่นี่ค่อนข้างร้อน(หน้าหนาวนะคะเนี่ย..) เด็กขอวิ่งเล่นรอบๆสวน
ก่อนออกเดินทางต่อ มะปรางขอกินไอติม..ดับร้อน
คุณป๋าขับรถต่อไปยังอำเภอเมืองลำปาง ไปตาม GPS ซอกซอนตามซอยมากพอควรกว่าจะมาถึงที่พักคืนนี้ "เอื้องคำรีสอร์ท" ที่นี่เงียบสงัดมาก(สมใจคุณป๋า)
พนักงานบริการดีมากๆ(A+) ห้องพักกว้าง สะอาดและใหม่ อุปกรณ์ที่จำเป็นก็มีให้ครบค่ะ
พอเก็บของเสร็จ พนง.ก็แนะนำว่าน่าจะออกไปเที่ยว(โน่น..นี่..นั่น..)
แต่คุณป๋าสนใจนั่งรถม้าชมเมืองยามค่ำ ราคา 200 บาทเท่านั้น
ที่นี่เป็นรถม้าแห่งเดียวในเมืองไทย(original)นั่งได้ประมาณ 5 คน
พนง.เรียกรถม้ามารับพวกเราที่รีสอร์ทเลยค่ะ ไม่ต้องไปต่อคิว
สงสารม้าเหมือนกันนะคะ วิ่งกันไกลและหลายรอบ( นี่มันอนุรักษ์ หรือว่า ทรมานสัตว์กันแน่น้า???)
แต่อย่าคิดมากค่ะไหนๆมาถึงลำปางแล้วจัดไป...ขอนั่งซัก 1รอบ
มีรถม้าวิ่งตามกันมาเป็นแถวเลยค่ะ(นักท่องเที่ยวทั้งนั้น) ถ่ายรูปข้างทางไม่ค่อยได้..มันสั่นไปหมด
ระหว่างทางคุณป๋ากลัวม้าจะเหนื่อย...(ข้ออ้าง)พวกเราก็เลยหยุดแวะข้างทางถ่ายรูปไปหลายครั้ง
คุณป๋าชอบมากบอกว่ามาลำปางได้นั่งรถม้าก็คุ้มแล้ว
ในสวนสาธารณะ "เขลางค์นคร" มีการประดับไฟสว่างไสว
แวะมาเดินเล่นที่หอนาฬิกา มีการจัดงานเค้าท์ดาวน์ที่นี่ค่ะ
ครบ 1 รอบแล้วก็กลับกันค่ะ ขากลับมะปรางขอนั่งด้านหน้าเลย... ลมมันเย็น
กลับถึงที่พักประมาณ สองทุ่มเศษๆเท่านั้น มะปรางอ่านหนังสือต่ออีกนิด กินขนม อาบน้ำ เข้านอน
มะปรางขอเล่นเกมนิดนึง คุณป๋ากะว่าจะหลับฝันดีตลอดคืนแล้ว แต่พอตอน 24:00 น. ช่วงเคาท์ดาวน์เสร็จในเมืองจุดประทัดดังลั่นสะเทือนไปหมด จนสะดุ้งตื่นเลย(ที่ไหนๆก็ต้องจุดกันเนอะ)
วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2555
แม่ตุ๊กตื่นแต่เช้า 06:30น.ออกมาเดินเล่นสูดอากาศของปีใหม่
อุณหภูมิเช้านี้ 20 ํc อากาศสบายค่ะไม่หนาวเลย
บ้านไม้เก่าๆข้างรีสอร์ท(ถ้าเห็นตอนกลางคืนจะน่ากลัวมั้ยเนี่ย?)
ตื่นแล้วมาเก็บรูปภาพที่ระเบียงห้องนอนกันค่ะ
เราพักห้องริมสุด..เงียบดี
ออกมาเดินเล่นด้านหน้ารีสอร์ทค่ะ ถนนด้านหน้าเงียบไม่มีรถเลย ชื่อ"ถนนสายวัฒนธรรม"
ตรงข้ามรีสอร์ทมีวัดเก่าอยู่ค่ะ"วัดประตูป่อง" เดินเข้าไปแล้วมันเงียบมากเลยรีบออกมาดีกว่า
ด้านในรีสอร์ทร่มรื่นมากค่ะ
รอบๆอาคารที่พักก็เต็มไปด้วยต้นไม้
ต้นหญ้าเขียว ตัวตึกก็เขียวสดใส
ที่ตึกด้านหน้าหลังนี้ชั้นสองก็มีที่พักนะคะ
ส่วนชั้นล่างเป็นที่ทานอาหาร
ที่พักของเราอยู่ชั้นสอง(มีอยู่ 10ห้องเองค่ะ)
ด้านหน้ารีสอร์ท
พาหนะในการเดินทางทริปนี้
ได้พบกับคุณพี่ผู้หญิง-ผู้ชาย เจ้าของรีสอร์ทด้วยค่ะ ใจดีและน่ารักมาก แนะนำสถานที่เี่ที่ยวต่างๆ
เอาของขวัญมาให้มะปรางด้วยค่ะ(พี่บอกว่าอยากได้ลูกผู้หญิงล่ะ)
มุมน้ำชา-กาแฟ บริการตัวเองได้เลยค่ะ
อาหารเช้า คนละ 100 บ.
ทานอาหารเช้าอาบน้ำเสร็จก็ check-out จ่ายไปทั้งหมด 1250 บาท
(ค่าที่พัก 980+ค่าหมอนเพิ่ม50+น้ำส้มมินิทเมด20+ค่าอาหารเช้า200บาท)
วางแผนไหว้พระเมืองลำปางกันค่ะ
(ค่าที่พัก 980+ค่าหมอนเพิ่ม50+น้ำส้มมินิทเมด20+ค่าอาหารเช้า200บาท)
วางแผนไหว้พระเมืองลำปางกันค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น