2.สวนน้ำ-สวนสัตว์สงขลา

วันเสาร์ที่ 15 ต.ค.54 เวลาประมาณ 10:00น.

ขับรถออกจากสทิงพระแวะกินอาหารเช้าแล้ว คุณป๋าก็พาเรา 2 แม่ลูกมาถึงสวนสัตว์สงขลา

ขับตรงเข้าไปซื้อตั๋วที่ทางเข้าเลยค่ะ เป็นตั๋วเข้าสวนสัตว์รวมสวนน้ำด้วย ผู้ใหญ่ 70 บ. เด็ก 20 บ.

ถูกมากเลยเนอะ

รีบมาดูโชว์รอบเช้าก่อนค่ะ

รอบ 10:00น. มีการแสดง survival of wild life...งงมันคืออะไรนะ??

ยังไม่เคยดูมาก่อนเพิ่งมาใหม่เลยนะเนี่ย

วันนี้วันเสาร์มีคนมาดูเยอะเหมือนกัน เข้าไปด้านใน จะเห็นเค้าปล่อยหมูป่าออกมาวิ่งเล่นที่สนามด้านหน้า

แล้วก็มีการบรรยายชีวิตของหมูป่าว่ากิน-อยู่อย่างไร นิสัยเป็นอย่างไร

ดูอยู่ประมาณ 10 นาทีเค้าก็เรียกหมูป่ากลับเข้าด้านใน

ต่อไปเป็นนกพีลีแกน บินออกมาทีละตัว

ลงมาเกาะ-เล่นน้ำที่สระเล็กๆด้านหน้า มีปลาอยู่ในสระด้วย นกมันก็มารุมจิกกินปลา(ตายแล้วค่ะ)

ผู้บรรยายก็บอกวิถีชีวิตของนกชนิดนี้ไปเรื่อย แล้วก็เรียกมันกลับเข้าด้านใน

ตัวต่อไปนกอินทรี

มาเดินๆวนๆ 1 รอบ(เหมือนเดินโชว์) มีอยู่ตัวเดียวเอง ดูมันเหงาๆ

ต้องตัวนี้ค่ะเด็กๆชอบกันมาก"ตัวนาก" ตัวเล็กๆปราดเปรียวน่ารัก

มีภารกิจออกมาช่วยกันเก็บกระป๋องที่อยู่ในน้ำเอาเข้าไปเก็บในบ้านด้านใน

เจ้าตัวนี้ขยันมากเก็บกระป๋องเต็มมือ(เล็กๆ)เลย

ตัวต่อไปมาแบบเซอร์ไพรส์มากๆ... "หมีขอ"... ไต่มาตรงราวเชือกบนหัวเลย เด็กๆกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่

หมีสีดำตัวใหญ่ ดูนุ่มนิ่มน่ากอด

ตัวใหญ่แต่ไต่เชือกเร็วเชียวค่ะ

จะสังเกตุเห็นว่ามันมีหางใหญ่ๆคอยเกี่ยวเชือกเวลาเดิน ทำให้ไม่หล่น

ตัวต่อไปนกเงือก บินมาเกาะที่หัวเสา มาจิกกินอาหารที่เตรียมไว้

ตลอดเวลาจะมีเสียงคนบรรยายประกอบการดู เหมือนมาเที่ยว ซาฟารีเลยค่ะ

ตัวสุดท้าย" เหยี่ยว" รวมแล้วตลอดการแสดงก็ประมาณ 50 นาที สนุกดีค่ะเด็กชอบมาก

ยังมีโชว์อีก 2 ชุด แต่มะปรางดูบ่อยแล้ว เดินไปสวนน้ำกันดีกว่าค่ะ

“สวนน้ำสวนสัตว์สงขลา” มาจากแนวความคิดของ นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์

ที่ต้องการให้สวนสัตว์เป็นสถานที่พักผ่อน เรียนรู้สำหรับคนทุกเพศทุกวัย จึงเกิดแนวความคิด

ริเริ่มที่จะสร้างสวนน้ำขึ้นในสวนสัตว์ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วที่สวนสัตว์นครราชสีมาเป็นที่แรก

และได้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงต้องการต่อยอดความสำเร็จลงมาในพื้นที่ภาคใต้

จึงมีการสร้างสวนน้ำในสวนสัตว์เป็นที่แรกของภาคใต้ ด้วยวงเงินการก่อสร้างถึง 75 ล้านบาท โดยได้รับเงินงบประมาณสนับสนุนจากโครงการไทยเข้มแข็ง 64 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอเพื่อลงทุนร่วม

“สวนน้ำสวนสัตว์สงขลา” มีกำหนดที่จะเปิดให้ได้ใช้บริการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554

แต่ก็ยังไม่เปิดเสียที

นี่คือโครงการที่มีการกำหนดรูปแบบมา ดูอลังการมากๆเลยเนอะ

ตอนนี้ยังมีการทดสอบระบบอยู่ ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ

พวกเราจะพาเข้าไปบุกเบิกกันก่อนนะคะ ลุยค่ะ

ทางสวนสัตว์สงขลาได้กำหนดวันเวลาเปิดปิดไว้ให้ตรงกับเวลาเปิดปิดของสวนสัตว์ สงขลา คือ ตั้งแต่เวลา 8. 30น.- 17.00 น. แต่อาจจะขยายเวลาปิดสวนน้ำไปได้จนถึง 19.00 น. ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้บริการ และความต้องการของผู้ใช้บริการ

เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ก็จะพบกับ......สระน้ำค่ะ

สระด้านหน้าจะเป็นสระเด็กตื้นๆเล็กๆ มีน้ำพุตรงกลาง เหมาะกับเด็กดีค่ะ นอนแช่น้ำกันหลายคน

อากาศร้อนมาก กลับบ้านผิวเปลี่ยนสีแน่นอน....

เด็กคนนี้อยากลงมากๆๆๆๆ เตรียมถกกางเกงสุดขีด แต่คุณป๋าเซย์โน....

แม่ตุ๊กเลยพาไปนั่งแช่น้ำที่มุมอื่นเป็นสระยาวๆ-ลึก ไม่มีคนค่ะ

ลักษณะจะเป็นสายน้ำคดเคี้ยวไปมา

มีสะพานให้เดินข้ามเป็นช่วงๆ

เส้นทางจะเป็นลักษณะเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ

สวนน้ำนี้อยู่บริเวณจุดชมวิวเดิมที่มีพื้นที่กว่า 9 ไร่ บนภูเขาสูงภายในสวนสัตว์สงขลา

ลักษณะของน้ำหมุนวนที่เลี้ยวลดไปมาตามพื้นที่ท่ามกลางธรรมชาติ

แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ สวนหย่อม

ตอนเย็นๆมาเดินเล่นน่าจะสบายกว่านี้ค่ะ

ด้านหลังบนยอดเขาคือ "สไลเดอร์รางคู่" สูงประมาณ 7 เมตร(ตอนนี้ยังไม่เสร็จค่ะ)

เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ แบบร้อนจัด

เดินมาจนถึงสระว่ายน้ำ ตรงหน้าผา

ลักษณะเหมือน infinity pool

จากมุมนี้เราจะพบกับทัศนียภาพโดยรอบของเมืองสงขลา สะพานติณสูลานนท์, เกาะยอ, เกาะหนู, เกาะแมว โดยสามารถมองเห็นพื้นที่ทอดยาวต่อเนื่องเป็นพื้นเดียวกับทะเลสาบสงขลา..สวยงามมาก

เดินวนกลับมาด้านหน้ากันค่ะ

มะปรางอยากวิ่งเล่นบนสะพานแขวน

เธอชอบอยู่สูงๆ ตื่นเต้นดีนะ

ด้านล่างมีน้ำตกเป็นแนวยาวเลยค่ะ

เราสามคนกับฟ้าใสๆ

อีกรูปก่อนกลับบ้านค่ะ

คุณป๋าให้สัญญากับมะปรางว่า วันหลังจะขับรถจากหาดใหญ่พามาว่ายน้ำตอนเย็นๆ

แล้วก็ค้างในสวนสัตว์สักคืน

ร้อนจนเหมือนจะเป็นไข้เลยค่ะ

12:00น.เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ปล.เมื่อวันที่ 23 ต.ค.54 รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มาเป็นประธานเปิดสวนน้ำ-สวนสัตว์สงขลา
อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ คนมาใช้บริการอย่างแน่นขนัด