วัดแก้วโกวาราม-น้ำตกร้อน-สระมรกต

วันเสาร์ที่ 16 ก.ค. 2554 เวลาประมาณ 10:30 น.

ออกจากฟาร์มปลาการ์ตูน อากาศดีมากๆ ไม่ร้อน ไม่มีฝน พวกเราเลยขับรถไปเที่ยวในเมืองกระบี่ก่อน

จุดหมายคือ "วัดแก้วโกรวาราม"ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองจังหวัดกระบี่

วัดนี้เป็นทั้งศูนย์กลางพุทธศาสนาและศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์จังหวัดกระบี่

มาตั้งแต่พุทธศักราช 2455 จนถึงปัจจุบัน

วัดแก้วโกรวารามได้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ

เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนม์มายุครบ 72 พรรษา

มีศาลาไทยประจำอยู่ทั้ง 4 มุมรอบพระอุโบสถ เป็นลักษณะทรงไทยประยุกต์ประดับลวดลายปูนปั้น

สวยงามสีขาวสะอาดตามาก

พระอุโบสถและศาลาราย ทั้งหมดสร้างบนลานทักษินมีบริเวณกว้างขวาง ไม่มีกำแพงแก้ว

ทางเดินขึ้นลงทั้งด้านหน้าและดานข้างสร้างประตูเปิดปิดได้

บันไดขึ้นพระอุโบสถเป็นบันไดนาค แบ่งออกเป็น 3 ช่วง เพราะค่อนข้างสูง

เดินมาจาก ถ.มหาราชในตลาด จะเห็นว่าระยะทางของบันไดยาวเหมือนกัน

ถ้าเดินขึ้น คงเหนื่อยพอสมควร แต่ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยและลมพัดเย็นสบาย

เดินรอบอุโบสถแล้วก็ไปชมภายในกันดีกว่าค่ะ

รอบๆอุโบสถ มีใบเสมาสีทองอยู่บนฐานสีขาวประดับอยู่ พื้นลานเป็นกระเบื้องค่อนข้างลื่น

เข้าไปไหว้พระกันค่ะ

พระประธานในอุโบสถวัดแก้วโกรวาราม

จิตรกรรมฝาผนังเหนือจากกรอบหน้าต่างขึ้นไปเป็นเทพพนมหันหน้าไปทางพระพุทธรูป

เบื้องขวาของพระพุทธรูปมีอาสนสำหรับสงฆ์ ภายในกว้างขวาง เย็นสบาย

จิตรกรรมฝาผนังวัดแก้วโกรวาราม ฝาผนังด้านในอุโบสถวัดแก้วโกรวารามมี ภาพจิตรกรรมฝาผนังรอบด้าน ประกอบไปด้วยภาพสำคัญ ๆ ดังนี้ พระแม่ธรณีบีบมวยผม, พระศาสดาประสูติ, พระโพธิสัตว์ประทับเสวยรมย์ อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ก่อนเสด็จลงมาเป็นพระพุทธเจ้า

เซี่ยวกาง เป็นทวารบาลที่นิยมใช้บนบานประตูพระอุโบสถหลายๆ แห่ง

ออกจากวัดเราก็ขับรถเล่นในเมืองกันค่ะ สัญญาณไฟแดงของที่นี่ ไม่เหมือนใครเลย

มนุษย์โบราณยืนถือไฟ...มองแล้วให้ความรู้สึกว่า ถ้าเค้าเมื่อยแล้วทิ้งไฟลงมาคงจะหัวแตกแน่ๆเ

"ปูดำ" ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า

เขาขนาบน้ำ...สัญลักษณ์ของเมืองกระบี่

แล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไปยัง อ.คลองท่อม กันต่อ

จากกระบี่ถึง อ.คลองท่อม เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช.
และตามป้ายบอกทางไปจะพบน้ำตกร้อน และสระมรกต

ถึงแล้ว ...น้ำตกร้อน ตั้งอยู่บริเวณบ้านบางคราม-บ้านบางเตียว
อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ ประมาณ 57 กม.

เสียค่าธรรมเนียมด้วย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ไม่แพงค่ะ(ต่างชาติอีกราคา)

หุหุ..ตรงนี้มีเรื่องตลกมาก ตอนแม่ตุ๊กไปยื่นตั๋วให้ จนท.(หน้าเข้มๆดูดุมาก)ตรวจ เค้าก็มองมาที่คุณป๋า
กับมะปรางแล้วก็ถามว่า"เป็นชาวต่างชาติหรือเปล่า?" (สงสัยหน้าตาดูไม่เหมือนคนไทย)

คุณป๋าก็บอกว่านี่คนไทยนะ เค้าก็ดูไม่ค่อยเชื่อเลย จวนจะหยิบบัตรให้ดูแล้วนะ..เฮ้อ...

แต่ในที่สุดเค้าก็ให้พวกเราเข้ามาได้ เพราะมีคนมาต่อคิวอีกหลายคน

ต้องเดินลงไปข้างล่างอีก 200 ม.

มะปรางชอบมาก เธอจะชอบเดินป่าสุดๆ บอกว่าเย็นสบายดี

ทางเดินเป็นขั้นบันไดปูน เดินสบาย แต่ต้องระวังลื่นเพราะมันเปียกฝน

ป่าไผ่เต็ม 2 ข้างทาง

เดินๆไปคุณป๋ากับแม่ตุ๊กก็เริ่มเหนื่อยต้องหยุดเป็นพักๆ

มาถึงลำธารร้อนแล้ว..ห้ามเล่นค่ะ เพราะมีควันขึ้นด้วยน่าจะร้อนมาก

น้ำไม่ใส เพราะฝนเพิ่งตกไปและมีกลิ่นเฉพาะ..น่าจะเป็นกลิ่นกำมะถันนะ

ในที่สุดก็มาถึงแล้ว

ปริมาณแร่ธาตุ ที่น้ำตกร้อน

บริเวณนี้น้ำจะไม่ร้อนมาก มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 ํc
เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุม สายน้ำไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่
บางช่วงมีควันกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนาทำให้เกิด ทัศนียภาพสวยงามแปลกตา
โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้าย ชั้นน้ำตกเล็ก ๆ สวยน่ารักดี

คนมากมายเหลือเกิน มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เล่นน้ำเล็กไปหน่อย มะปรางขอลงแช่หน่อยค่ะ

แม่ตุ๊กไม่ได้ลงไปด้วยเพราะไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน คุณป๋าก็คอยเก็บรูปไปรอบๆ

มะปรางบอกว่า อุ่นสบายมากและน้ำจืดไม่เหนียวตัว นั่งแช่อยู่พักใหญ่

คุณป๋าบอกให้ขึ้นได้แล้ว มีคนมาต่อคิวลงแช่อีกหลายสิบคน ต้องแบ่งๆให้คนอื่นบ้าง

ที่นี่มีห้องอาบน้ำด้วยค่ะ

ออกจากน้ำตกร้อน ขับรถเลยไปอีกหน่อย ก็จะพบกับ สระมรกต

พวกเราไม่ได้ไปค่ะ เพราะตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว

ที่จริงถ้าใครมีเวลาก็ควรแวะมาสักครั้งนะคะ เพราะที่นี่ก็เป็นที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของจ.กระบี่เลย

สระมรกต กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ
น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 ํc รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ
รวมทั้งนกที่หาดูได้ยากมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว)