TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2554/08/31

2.ไหว้พระที่อ่างทอง วัดม่วง


วันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค.54
คุณป๋าจองรถตู้พร้อมคนขับไว้ ให้มารับพาไปไหว้พระที่อ่างทองค่ะ
ออกเดินทางประมาณ 8:30 น. มะปรางแฮปปี้มาก รถกว้าง ใหญ่ ใหม่ สบาย เดินไปทั่วทั้งคันเลย

ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก็มาถึงตัวเมืองอ่างทอง มีวงเวียน"อ่างทอง"ด้วยล่ะ


จุดหมายแรกของวันนี้อยู่ที่วัดม่วง ต้องออกไปนอกเมืองหน่อย
แม่ตุ๊กเห็นภาพพระพุทธรูปใหญ่กลางทุ่งนาจาก อสท.แล้วอยากมามาก...คุณป๋าเลยจัดให้ค่ะ


วัดม่วง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ต.หัวตะพาน อยู่ห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ ๘ กม. ไปตามเส้นทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ (ทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๕) กม.ที่ ๒๙ เข้าไป ๑ กม. วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ

ภายในวัดมีสถานที่สำคัญเช่น พระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกลีบบัวสีชมพู ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก


รายล้อมพระอุโบสถด้วยพระพุทธรูปปางต่างๆ, รูปปั้นพระสงฆ์มากมาย


เข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถกันค่ะ

ในนี้มีพระสงฆ์มานั่งให้เราทำสังฆทานได้ตลอดเวลา สะดวก รวดเร็วดี ได้น้ำมนตร์แล้วชื่นใจค่ะ


จิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวต่างๆนั่งดูจนเพลินเลยค่ะ

ที่วัดนี้มีคนมาทำบุญกันเนื่องแน่นโดยเฉพาะวันหยุด...คงเป็นเพราะใกล้กรุงเทพล่ะ


ไปเดินเล่นรอบๆวัดกันดีกว่าค่ะ

บริเวณวัดมีรูปปั้นต่างๆมากมาย เช่นเจ้าแม่กวนอิม,เซียนหลายองค์


แดนเทพเจ้าจีน


แดนพระฤาษี


ศาลาเจ้าแม่กวนอิม มีคนนิยมมาไหว้ขอพรกัน


แดนเทพเจ้าไทย


แดนยักษ์


มีรูปปั้นแสดงเหตุการณ์ ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามไทย-พม่า

รูปปั้นเรื่องรามเกียรติ์ มีป้ายบอกชื่อตัวละครด้วย มะปรางชอบมากยืนอ่านเรื่องราวอย่างมีความสุข


รูปปั้นเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน,พระอภัยมณี


รูปปั้นเรื่องพระเวสสันดร




เดินกันจนเมื่อย อากาศร้อนมาก

เดินมาเรื่อยๆก็จะพบกับองค์พระใหญ่(ใหญ่มากๆๆๆค่ะ)


หลวงพ่อใหญ่
หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ เป็นผู้วางศิลาฤกษ์ ด้วยตัวของท่านเอง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2534 และต่อมา วันที่ 2 พฤษภาคม 2534 ได้ทำพิธีตอกลงเข็มเสาเอก หลวงพ่อเกษมเป็นประธานดำเนินการก่อสร้าง ร่วมกับลูกศิษย์และ ประชาชนผู้มีใจบุญทั้งหลาย เข้ามาร่วมกันก่อสร้างองค์พระ หลวงพ่อเกษมได้ตั้งนามองค์พระเอาไว้ว่า "พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ"

ปกติต้องต่อคิวเพื่อมาแตะปลายนิ้วแล้วอธิษฐาน เพราะคนเยอะมาก วันนี้เราโชคดีไม่ต้องรอค่ะ


การก่อสร้างองค์พระ ได้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 มีระยะเวลาการก่อสร้างรวมประมาณ 16 ปี และวัดหน้าตักองค์พระได้ 63.05 เมตร ความสูงจากฐานองค์พระ ถึงยอดเกศา วัดได้ 95 เมตร ใช้เงินประมาณ 104,261,089.65 บาท

มีการตกแต่งสวนหย่อมรอบๆ น่ารักมาก สะอาดด้วย


หลวงพ่อเกษมตั้งใจสร้างองค์พระนี้ เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9

ห้องน้ำสวยงามและสะอาดมากค่ะ นั่งเล่นพักผ่อนได้เลย


หลวงพ่อเกษม ท่านได้สร้างแดนนรก ตามพระไตรปิฎก ที่ระบุถึงเรื่อง การสร้างบุญกุศล ก็ได้รับบุญนั้น
และการสร้างแต่บาป ก็ต้องได้รับบาปตามสนองนั้น
แดนนี้เด็กๆจะกลัวกันมาก มะปรางบอกว่าเราเดินผ่านกันเร็วๆดีกว่า...สยองอ่ะ


ช่างปั้นรูปหุ่น เป็นรูปคนที่มีร่างกายสูงใหญ่ เสื้อผ้าไม่มีนุ่งห่ม มีทั้งเพศชาย เพศหญิง เรียกว่า เปรต นอกจากนั้น ยังมีรูปปั้น ทั้งเพศชาย เพศหญิง ตกอยู่ในกระทะทองแดง ถูกทรมาน ปีนต้นไม้มีหน่ม (เรียกว่าต้นงิ้ว) รูปปั้นร่างกายเป็นคน มีหน้าตาเป็นรูปสัตว์ต่างๆ มีการถูกเฆี่ยนตี และทรมานทารุณ

วิหารแก้ว
ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ติดกระจกแก้วภายในและภายนอกทั้งหลัง ได้ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2540 ขนาดกว้าง 16 เมตร ยาว 50 เมตร สิ้นงบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณ 25,497,789.00 บาท

ชั้นบน ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื้อเงินแท้ องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
สร้างขึ้นเพื่อเป็นเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่ครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี


เดินเข้ามาแล้วตาลายมากเลยค่ะเพราะเป็นกระจกเงาสะท้อน 6 ด้าน


ภายในวิหารแก้ว หลวงพ่อเกษมได้เทหล่อทองเหลือง สร้างรูปเหมือน พระเกจิอาจารย์ดังๆ ทั่วประเทศ จำนวน 50 องค์ ประดิษฐานรอบในวิหารแก้ว




วันนี้คนเยอะมากเลยถ่ายรูปมาไม่ค่อยสวย ถ้าเห็นรูปตามหนังสือจะสวยมาก
ยิ่งเวลาเปิดไฟจะมีแสงเหลืองๆงดงามเหมือนทอง




ดูรายละเอียดต่างๆของวัดม่วงค่ะที่ http://www.watmuang.com/
ทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น