ไหว้พระเมืองนนท์-แวะเที่ยวเกาะเกร็ด

1 พฤษภาคม 2554 (8:30น.)

เช็คเอ้าท์ ออกจากที่พัก ฝนตกหนักมาตั้งแต่เช้าเลย ได้แต่ภาวนาให้ฝนหยุดตกเร็วๆ

วันนี้"พี่ตู่" (พี่ชายของแม่ตุ๊ก)จะมารับไปเที่ยวที่เมืองนนท์

พี่ตู่พาไปเที่ยววัดก่อนเพราะฝนยังไม่หยุดตก วัดแรกของวันนี้"วัดเล่งเน่ยยี่2"

มีชื่อเต็มว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์" ตั้งอยู่ ต.โสนน้อย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พวกเราไม่ได้ออกไปเดินเล่นรอบๆวัดเพราะฝนยังตก ก็เลยเดินไปที่ข้างในวัดชั้นล่างก่อน

จะพบองค์เจ้าแม่กวนอิมอยู่กลางอาคาร

มีคนมาไหว้พระ-ทำบุญกันหลายคนเหมือนกัน..ถ้าสายๆคนคงเยอะกว่านี้

มะปรางขอเงินไปทำบุญ 100บ.

อธิษฐานแล้วลอยดวงประทีป 3 ดวง บูชาองค์แม่กวนอิม

โยนเหรียญลงลูกนิมิต มีอยู่หลายลูกเหมือนกัน

ตรงนี้เหมือนเป็นมุมสวนหย่อมในร่มเลยค่ะ ดูแปลกตาดี น่ารัก....

ชั้น 2 เป็นที่พักของคณะสงฆ์...ห้ามเข้า

ชั้น 3 เป็นสถานที่นมัสการ"เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือพันตา" ดูเสมือนท่านได้ใช้พระเนตรพันดวงสอดส่องทุกข์สุขของเหล่าสรรพสัตว์ทั่วสากลโลก มีความวิจิตรพิสดารมาก

ลักษณะสถาปัตยกรรมวัดบรมราชาฯสร้างแบบศิลปะจีนล้วนๆ เป็นพุทธศิลป์ในราชวงศ์หมิงชิง

การจัดวางวิหารถือตามแบบวัดหลวง โดยมีวิหารจตุโลกบาลเป็นวิหารแรกพระอุโบสถอยู่กลาง ด้านหลังพระอุโบสถมีวิหารบูรพาจารย์ ส่วนวิหารอื่นๆ อยู่ประกอบสมดุลซ้ายขวา

ขึ้นบันไดไปชั้นบนสุด(ชั้น4) ก็จะพบกับ" วิหารหมื่นพุทธ" มีพระพุทธรูปเต็มผนังทุกด้านเลยค่ะเชื่อว่าผู้ที่บำเพ็ญภาวนาจะได้ไปเกิดในดินแดนสุขาวดีที่เต็มไปด้วยความสุข

อาคารหลังใหญ่สุดที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง คือ พระอุโบสถ

เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ คือ พระอมิตาภพุทธเจ้า พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) และ พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าในอดีต)

เดินชมจนครบทุกชั้นก็ไปเที่ยวที่อื่นกันต่อดีกว่าค่ะ

อุทยานกาญจนาภิเษก ตั้งอยู่ซ.เฉลิมพระเกียรติ 13 ถัดจากวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ กรมธนารักษ์เป็นผู้จัดสร้างขึ้นด้วยงบประมาณ 900 ล้านบาท เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในวโรกาสทรงครองสิริราช สมบัติครบ 50 ปี และเพื่อเป็นที่พักผ่อนของประชาชน และเป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้น้ำ ไม้ชายน้ำ พืชสวน และสัตว์น้ำชนิดต่างๆ

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30-18.30 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม

ส่วนของเขตสังฆาวาสก็ยังมี หมู่กุฏิทรงไทย จำนวน 16 หลังด้วยกัน ซึ่งสร้างและจัดแผนผังอย่างมีระเบียบ เป็นเรือนไทยภาคกลางทรงมะนิลาใต้ถุนสูง มีความสวยงามบ่งบอกถึงความเป็นศิลปะไทยๆ

อาคารที่เป็นจุดเด่น คือ "วิมานสราญนวมินทร์" เป็นพลับพลาโถงเครื่องยอดแหลม

ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาลดชั้นยอดแหลมทรงมณฑป

ประดับฉัตรสามชั้นสัญลักษณ์แสดงเครื่องยศของประเภทอาคารชั้นสูง

ดูสวยงามจนเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนนท์เลยค่ะ

ส่วนตรงนี้คือ "อุทยานวังมัจฉา" ปลาเยอะมาก มีคนมานั่งอาหารปลาถังละ 50 ฿ ค่ะ ขนมปังก็มีขาย

วันนี้มะปรางไม่ให้อาหารปลาแล้ว เดินเล่นริมน้ำดูวิวสวยๆ...อยากมีคอนโดริมน้ำบ้างล่ะ

พี่ตู่บอกว่าห้องละหลายล้าน..คงได้แต่ฝันนะ

วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ซ.เฉลิมพระเกียรติ 15 เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ร. 3 ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2390 เพื่อถวายพระอัยกา พระอัยกีและสมเด็จพระราชชนนี มาสร้างแล้วเสร็จในสมัยร. 4 ภายในเขตพระอารามมีความสงบ สะอาด ร่มรื่น ศิลปะสถาปัตยกรรมอนุรักษ์รูปแบบเดิมไว้ แม้สิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็มีความกลมกลืนกับสถาปัตย์เดิม วัดนี้ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นประจำปีพ.ศ. 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยาม

พระเจดีย์ อยู่ทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงกลมหรือทรงระฆัง มักเรียกกันว่า ทรงลังกา

เนื่องจากได้รับแบบอย่างมาจากลังกา พร้อมกับการเผยแพร่เข้ามาของพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์

มีฐานแปดเหลี่ยมสองชั้นสูง 45 เมตร ภายในบรรจุพระบรมธาตุ

เที่ยงแล้วไปเกาะเกร็ดกันดีกว่าเริ่มหิวแล้ว...

เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกร็ดน้อย” ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ

เราสามารถนั่งเรือข้ามฟากไป ราคาคนละ 2 บาท มีบริการเรือตั้งแต่ 5.00-21.30 น.

“เกาะเกร็ด” ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมมากเพราะใกล้กรุงเทพ
วันหยุดจะมีคนมาเที่ยวกันหนาแน่น รอต่อคิวลงเรือกัน

สัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดคือ"เจดีย์เอียง"

วันนี้คนเยอะมากๆ(เป็นวันแรงงานด้วย) บรรทุกกันจนเต็มเรือเลยล่ะโคลงเคลงไปมา

เดิมวัดนี้เป็นวัดเก่าชื่อวัดปากอ่าว ในสมัยร.5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัด และโปรดให้สร้างพระเจดีย์รามัญ บรรจุพระบรมสาลีริกธาตุและพระราชทานนามว่า" วัดปรมัยยิกาวาส"


นั่งเรือแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ...ทีนี่เค้าก็มีบริการล่องเรือชมรอบเกาะในราคาตั้งแต่ 60 –3,500 บาท ขึ้นอยู่กับระยะการเดินทางและขนาดของเรือ


ขึ้นจากเรือเดินไปนิดนึงก็จะพบ พระเจดีย์แบบมอญ เจดีย์ทรงรามัญที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เมืองหงสาวดี

มีชื่อว่า"พระมหารามัญเจดีย์"

เกือบทุกคนที่มาต้องซื้อน้ำดื่มใส่โอ่งดินเผา(เล็กๆ)หิ้วกันทั้งนั้นค่ะ

ไปเดินเล่นกันดีกว่า

แฟนของพี่ตู่ก็มาเปิดร้านขายของบนเกาะเกร็ดด้วยค่ะ ขายป้าย กิ๊ฟช็อป

แวะทานอาหารเที่ยงกันก่อนหิวมากๆแทบไม่มีแรงเดินกันแล้ว

ทานอาหารเสร็จก็ไปชม"พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา"

มีหลายราคาตั้งแต่หลักสิบ-หลายพัน

แม่ตุ๊กชอบร้านนี้เป็น"กรอบรูปทราย"คล้ายๆนาฬิกาทราย..ไม่เคยเห็นมานานแล้ว

อยากได้แต่...กลัวแตกตอนแบกขึ้นเครื่อง

อาหารและขนมไทยโบราณมากมาย ขายตามทาง

เครื่องใช้-กระเบื้องต่างๆ ราคาก็ไม่แพงนัก

แวะเข้าไปไหว้พระที่..วัดไผ่ล้อม..

ลักษณะของประติมากรรมก็ยังเป็นแบบพม่า-มอญ

วันนี้มีคนเข้ามาไหว้-ทำบุญกันหนาแน่น

ที่ศาลาริมน้ำมีการแสดง-ดนตรีไทย

เดินมาประมาณ 1 ชม.เริ่มเมื่อย-เหนื่อยและร้อนมากๆ ไปดูแผนที่ของเกาะเกร็ด..

ยังอีกไกลมากกว่าจะรอบเกาะ เดินไม่ไหวแล้ว

เดี๋ยวแวะไหว้พระอีกวัดเสร็จแล้วกลับกันดีกว่า

เติมพลังให้เด็กแล้วนั่งพักก่อน

เข้าไปไหว้พระ..มะปรางขอพรอะไรน้า????

วัดเสาธงทอง เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่ง

เป็นกลุ่มพระเจดีย์ 3 องค์ ล้อมรอบพระอุโบสถ

เดินย้อนกลับทางเดิมค่ะ

ไดโนเสาร์(ชักใยเหมือนหุ่นกระบอก)ฝีมือคนไทย...ใครมาเกาะเกร็ดต้องแวะมาดูค่ะ

ออกจากเกาะเกร็ดก็ให้พี่ชายมาส่งที่สนามบินเลยค่ะ... สนามบินดอนเมืองวันนี้เงียบเหงามาก

ขึ้นเครื่องกลับบ้านกันแล้ว ประมาณ 18:30น.โดยโอเรียนท์เหมือนเดิมตรงเวลา

ถึงหาดใหญ่แล้ว..มืดจังเลย กลับบ้านอาบน้ำนอนค่ะ...good night