14 เมษายน 2554(8:30น.)
สงกรานต์ปีนี้พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวไหนเพราะคุณป๋าอยู่เวร

ประวัติของอำเภอนี้เดิมเป็นตำบลหนึ่งของอ.ระโนด จ.สงขลาที่มาของชื่อ "กระแสสินธุ์" ได้นำเอา พยัญชนะตัวต้นของชื่อทั้ง 3 ตำบล ในเขตการปกครอง ได้แก่ ก (มาจาก ต.เกาะใหญ่) ร (มาจาก ต.โรง) ส (มาจาก ต.เชิงแส) แล้วนำมาประกอบกันถือปรัชญาแห่งความสามัคคีธรรม หรือเป็นมงคลนามสืบไป รวมกันเข้าแล้วมีความหมายรวมว่า กระแสน้ำ เมืองที่สมบูรณ์ด้วยน้ำโดยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ
ระหว่างทางแวะวัดไหว้หลวงปู่ทวดก่อนค่ะ
"หลวงพ่อเดิมคู่บ้าน ดอกบัวบานทั่วถิ่น ธารารินทั่วเมือง สมเด็จเจ้าลือเลื่อง เมืองสะตอพันธ์ดี"
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 408 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4196 ตรงไปตามถนนไร้รถ-ไร้ผู้คน ประมาณ 7 กม.เข้าอ.กระแสสินธุ์

จุดหมายแรกของเราคือ"วัดเอกเชิงแส"อยู่ที่ต.เชิงแส เดิมชื่อวัดเอก

ช่วงนี้มีงานทำบุญ-หล่อเทียนพรรษา เลยมีคนคึกคักพอสมควร
ขึ้นไปไหว้พระกันดีกว่าค่ะ

นมัสการ "องค์หลวงพ่อเดิม" ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ อุโบสถวัดเชิงแสเหนือ (วัดเอก)

" องค์หลวงพ่อเดิม" องค์เดิมนั้น เป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กทำด้วยหินปะการัง แต่ได้หล่อปูนครอบพระพุทธรูปองค์เดิมไว้ นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก


มะปรางขอเหรียญไปโยนทำบุญเสี่ยงทายลงในบาตร


ได้เวลาออกเดินทางต่อแล้วค่ะ
เค้าบอกว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว อ.กระแสสินธุ์น้ำท่วมหนักมาก

เด็กหิวจัด....

ทานอาหารเสร็จ ก็ไปขับรถเล่นรอบ "เกาะใหญ่" พวกเราขับวนทางขวา
พบวัดแรกคือวัดทุ่งบัว อยู่บนเนินเขาเลยไม่ได้แวะค่ะ


แวะเข้าไปไหว้พระ-ทำบุญกันก่อนค่ะ

วัดที่อยู่บนเกาะใหญ่มักจะอยู่ริมทะเล เพราะเกาะไม่ใหญ่มากเนื้อที่ตรงกลางก็เป็นภูเขา
ถ้ามานั่งเล่นตอนเย็นๆน่าจะสบายดี

ออกจากประตูวัดขับรถไปที่ริมทะเล เพื่อไปที่ "บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์" กันค่ะ

ถึงแล้วค่ะ.... เป็นศาลาเล็กๆ เก่าๆ เหมือนไม่ค่อยมีคนมาดูแล

ภายในมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆและบ่อน้ำ 1 บ่อ

บ่อน้ำกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกไม่มาก


เล่ากันว่าผู้สร้างบ่อน้ำนี้คือ พระรูปหนึ่งชื่อ พระสินนารายณ์ และฆราวาสชื่อ ขุนวิชัยพรหมศาสน์ ซึ่งเดินทางจากประเทศอินเดียสู่กรุงศรีอยุธยา บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีน้ำสะอาดใสตลอดปี

ขับรถวนรอบเกาะกันต่อค่ะ ภูมิประเทศก็มีทั้งทางลาด สันเขา และเลียบฝั่งทะเล


มีศาลานั่งเล่นริมทะเล แต่ก็มีคนมานั่งทานอาหารเต็มหมดแล้ว

ยังเห็นร่องรอยของพายุพัดต้นไม้หัก มีร้านอาหารด้วย แต่ก็เต็มหมดแล้ว


ออกจาก อ.กระแสสินธุ์ไปที่ อ.สทิงพระ แวะ"วัดเจดีย์งาม"


ไปเดินเล่นรอบๆวัดกันค่ะ

ไหว้พระเสร็จก็ทำบุญค่ะ

เดิมสันนิษฐานว่าเป็นแบบศรีวิชัยอย่างพระบรมธาตุไชยา

มีสิ่งก่อสร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงษ์ ขนาดใหญ่โต


วัดเจดีย์งาม (เป็นวัดโบราณยิ่งกว่าวัดเอก) เจดีย์พระมหาธาตุเป็นเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐปะการังทั้งองค์ เรียงอิฐ ฐานเจดีย์มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง ๘.๒๐ เมตร ยาว ๑๒.๒๐ เมตร สูง ๒๐ เมตร

วัดนี้มีกลุ่มเจดีย์แบบลังกา ซึ่งสร้างด้วยหินปะการัง พระเจดีย์สร้างนั้นก็เป็นปริศนาธรรม คือ มีพระเจดีย์องค์ใหญ่สวยงามยิ่ง

และแวดล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็ก ๘ องค์ ซึ่งหมายถึงมรรค ๘ อันเป็นหัวใจของธรรมในพระพุทธศาสนา

ส่วนทางทิศตะวันออกของเจดีย์พระมหาธาตุเป็นวิหารพระโพธิสัตว์ ฐานวิหารเดิมก่อด้วยอิฐเผาและอิฐปะการัง ขนาดกว้าง ๗.๘๐ เมตร ยาว ๑๔.๒๐ เมตร


วัดสุดท้ายที่เราแวะในวันนี้คือ"วัดนางเหล้า" ที่ตั้ง : เลขที่ 90 บ้านนางเหล้า ถนนเขาแดง-ระโนด หมู่ที่ 3 ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมหักพัง สงสัยว่าจะพังตอนที่มีพายุเข้าสงขลา(หาดใหญ่น้ำท่วม)เมื่อปลายปีที่แล้ว

วัดนี้มีเนื้อที่ 18 ไร่ 1 งาน 56 ตารางวา สร้างประมาณ พ.ศ.2225 มีอุบาสิกาชื่อ นางลาวมีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินและสร้างวัด แต่เดิมชื่อ "วัดนางลาว" ต่อมาชาวบ้านเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็น "วัดนางเหล้า"


ภายในศาลาทั้ง4ด้านมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรียงกันเป็นแนวสวยงามมาก

รูปปั้นพระพุทธเจ้าปางต่างๆเป็นร้อยเลย


สังเกตุให้ดีจะเห็นว่าลักษณะไม่เหมือนกันเลยซักองค์
