จากจุดเริ่มต้นที่จองตั๋วโปรฯของแอร์เอเชีย หาดใหญ่กรุงเทพ ไปกลับ ในราคาประมาณ 3คน 3พันบาท
พวกเราวางแผนจะไปขับรถเที่ยว วังน้ำเขียวกัน เพราะช่วงหน้าร้อนที่วังน้ำเขียวคงไม่ร้อนมาก
เวลา 08:30 น.วันนี้ก็ได้เวลาเดินทาง ดูวุ่นๆนิดหน่อย เพราะเพิ่งเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่น (11มีนาคม54)และเช้านี้มีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนลงมาทำให้ฝนตก และ อากาศหนาวเย็นทั่วประเทศ
มีโปรแกรมคือนั่งเครื่องจาก หาดใหญ่ไปกรุงเทพฯก่อน เวลาประมาณ10:30น.ก็ถึงแล้วค่ะ
พอลงจากเครื่องบินอากาศก็เย็นเจี๊ยบแถมฝนตกปรอยๆลมก็แรง ต้องรีบวิ่งขึ้นรถบัสเพื่อเข้ามาในอาคารสนามบิน เอากระเป๋าเสร็จก็มารอรับรถที่จองไว้ มะปรางขอกินอาหารรองท้องหน่อยสายมากแล้ว
ครั้งนี้แม่ตุ๊กจอง jazz ไว้ แต่ทางmaster car อัพให้เป็น new altis ก็ดีเหมือนกันเนอะเพราะครั้งนี้พวกเราจะขับรถขึ้น-ลงเขากันมากมาย จัดของเข้ารถเสร็จก็ออกเดินทางไปวังน้ำเขียวกันเลย อากาศระหว่างเดินทางหนาวดี มีฝนสลับเป็นช่วงๆ
ตั้ง gps มายังฉะเชิงเทราก่อน ด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ แล้วใช้เส้นทาง ถนน 304 มุ่งสู่สี่แยกกบินทร์บุรี รวมประมาณ 180 กิโลเมตร จากแยกกบินทร์บุรีนี้ไปถึงวังน้ำเขียว อีก 60 กิโลเมตร เป็นเส้นทางขึ้นเขาสวยงาม
ขับรถมาเรื่อยๆเข้าเขต จ.ปราจีนบุรี พอถึง อุทยานแห่งชาติทับลาน ก็แวะเข้าไปหน่อยค่ะ มีฝนตกปรอยๆ
ตั้งอยู่ที่ตำบลบุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี การเดินทางจากทางหลวงหมายเลข 33 ถึงอำเภอกบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 304 ระยะทางประมาณ 32 กม.
ต้นลานเป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลปาล์มที่หายาก จะออกดอกเมื่อต้นมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
หลังออกดอกแล้วต้นลานนั้นจะตายไป
นอกจากดงลานแล้ว พื้นที่อุทยานฯ ยังปกคลุมด้วยป่าเต็งรังและป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและนกชนิดต่างๆ เดินเล่นชมวิวสักพักก็ออกเดินทางต่อค่ะ
จุดหมายของวันนี้คือวังน้ำเขียว โดยภูมิประเทศจะเป็นเนินเขาสลับกับที่ราบ ถนนก็จะคดเคี้ยวไปมาแต่ขับสบายเพราะวันนี้ไม่มีรถเลย วังน้ำเขียวอยู่อีกด้านของเทือกเขาใหญ่ อากาศเย็นจากประเทศจีนจะพัดมาช่วงปลายฝน ผ่านมาทางที่ราบอีสานกระทบกับเทือกเขาใหญ่ ทำให้บริเวณวังน้ำเขียวแห่งนี้เย็นตลอดทั้งปี
ที่พักของเราไปทางเขาแผงม้า ก็จะเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 3052 ไม่ต้องตรงไปทางตัวอำเภอ
เก็บของเข้าที่พัก"วิลล่าเขาแผงม้า" รอจนฝนซาๆ พวกเราก็ออกมาขับรถเล่นกันดีกว่า
วันนี้บ้านเมืองเงียบมากๆแทบไม่มีรถวิ่ง ไม่เห็นผู้คนเลย
ไม่เป็นไร.....มาแล้วก็เข้าไปเดินเล่นด้านในกันหน่อย
มุมนั่งเล่นของร้านกาแฟ มีบึงเล็กๆคั่นกลาง เห็นหงส์อยู่หลายตัว แต่ฝนกำลังตกเลยดูอยู่ห่างๆดีกว่า
อันนี้คือ"บ้านแกะ" ได้ยินเสียงแกะร้องดังมากสงสัยหิวกันแล้ว
แล้วก็มาแวะที่"บ้านไร่คุณนาย" อากาศเย็นๆแฉะๆ
เดินกันสบายไม่มีนักท่องเที่ยวเลยค่ะ มีแต่คนสวนปลูกต้นไม้
มีที่พักด้วยค่ะ เป็นบ้านหลังเล็กๆ เต็มไปด้วยดอกไม้
ออกเดินทางต่อมาที่" สวนหน้าวัวสุชาดา"
พื้นที่ของวิลเลจฟาร์ม มีอาณาบริเวณถึง 200 ไร่ ลักษณะของพื้นที่เป็นที่สูงบนเนินเขา อยู่ในเขตบ้านไผ่งาม
จุดหมายสุดท้ายของวันนี้คือ"วังน้ำเขียวฟาร์ม"
เปิดให้เข้าชมเวลา 8:30น-17:00น.
วังน้ำเขียวฟาร์ม เป็นฟาร์มเห็ดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน
ปลูกเห็ดมากมายหลากหลายพันธุ์ ทั้งเห็ดหอม เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดหลินจือ เห็ดหัวลิง
เป็นห้องติดแอร์เย็นๆ เหมาะกับพืชเมืองหนาว
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆจากเห็ดมากมาย
ทั้งเห็ดสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ด เช่นน้ำพริกเห็ด เห็ดดอง น้ำสลัดเห็ด
โลโก้ของ"mister mushroom"
ลมก็แรง แต่บรรยากาศรอบๆสบายมาก.... ไม่มีคนเลย
อาหารหมดเรียบทุกอย่าง
ดูเหมือนภาคเหนือเลย อาหารถูกมากจริงๆ
ตอบลบ