วันศุกร์ที่ 18 ก.พ.54 เป็นวันมาฆบูชา
พวกเราวางแผนว่าจะไปทำบุญและเวียนเทียนกัน ตอนเช้าขอไปทำงานก่อนแล้วกลับมานอนกลางวันสักตื่น
ประมาณ13:30น.ก็ออกเดินทางไป อ.สทิงพระ จุดหมายคือวัดพะโคะ(หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด)
ไปทางเกาะยอข้ามสะพานติณฯ(เคยเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย)
การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 407 ทางสะพานติณสูลานนท์ผ่านเกาะยอ แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4083 (สงขลา-ระโนด)หลักกิโลเมตรที่ 110 ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพะโคะ
ประมาณ 15:00น.ก็ถึงวัดแล้วด้านหน้าวัดมีรถบัสไม่มาก ต้องเดินขึ้นบันไดพญานาค พวกเราขี้เกียจเดินเลยขับรถอ้อมไปจอดด้านหลังวัดมีพระอุุโบสถเพิ่งสร้างเสร็จไม่นานสวยงามดี
ระหว่าง พ.ศ.๒๐๙๑-๒๑๑๑ พระยาดำธำรงกษัตริย์ได้นิมนต์พระมหาอโนมทัสสี พระณไสยมุยและพระธรรมกาวา ให้ไปเอากระบวนพระมหาธาตุเมืองลังกา และมาสร้างเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ สูงหนึ่งเส้นห้าวา
ข้างๆก็เป็นพระวิหารพระพุทธไสยาสน์
พระพุทธไสยาสน์ ชื่อว่าพระพุทธโคตรมะ
แดดร้อนมากๆๆ คุณป๋ากับแม่ตุ๊กนั่งไหว้อยู่ด้านล่างนี่แหละ
เล่ากันว่า วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะเดินอยู่มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลายจึงใคร่จะลองดี โจรสลัดจอดเรือและจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุดน้ำจืดหมดลงโจรสลัดเดือดร้อน สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลเกิดเป็นประกายโชติช่วง น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ขอขมา และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง
ตามความนิยมของชาวบ้านเรียกชื่อวัดตามชื่อพระโคตรมะ ชื่อวัดพระราชประดิษฐานเดิมไม่นิยมใช้เรียกกันครั้นต่อมาวัดพระโคตะมะ เรียกเพี้ยนเป็นวัดพะโคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น