TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2553/11/05

3.ปราสาทสัจธรรม



เวลาประมาณ 14.30 น
ก็ยกเลิกการไปหอพนัสบดี เพราะเสียเวลาไปที่ก่อทรายโลกนานอยู่ กำหนดPOI ใหม่เป็นปราสาทสัจจธรรม นาเกลือ ชลบุรี
ขับไปเรื่อยๆ รถเยอะมากมีรถบรรทุกคันใหญ่ๆเยอะแยะไปหมดหวาดเสียวดี ขับไปตามถนนมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7 ) ขับไปซักชั่วโมงนึง GPS บอกให้แยกลงที่แหลมฉบัง แต่คุณป๋าซ่าบอกว่ายังอีกไกลยังไม่ถึงพัทยาเลย ก็ขับตรงไปพัทยา คราวนี้มาถึงพัทยาจริงแต่ลงที่พัทยากลาง ต้องไปกลับรถขับย้อนขึ้นมานาเกลือ รถก็ติดมาก เลยเสียเวลาไปร่วมชั่วโมง ขับเข้าซอยเล็กซอยน้อยตามที่ GPS บอก จึงมาถึง ปราสาทสัจจธรรม
ประมาณ 16.00 น
คุณป๋าไปจอดรถ แม่ตุ๊กก็วิ่งไปถามค่าเข้าชม คนละ 500 บาท เด็ก 250 บาท รวม 3 คน 1250 บ. แพงมากเลยนะ แต่คุณป๋าบอกว่าถูกกว่าดูหนัง 4 D ที่สิงคโปร์เสียอีก แล้วเราก็ไม่เคยมาก็เลยเข้าไปดูกัน
จากด้านหน้าต้องเข้าไปข้างในอีกประมาณ 500 ม. เดินเองก็เหนื่อยเอาการ ที่นี่จึงมีบริการรถม้ารับ-ส่ง ฟรี

มาถึงด้านในแล้ว ถ่ายรูปกับม้าหน่อยจ้า

ตรงนี้เป็นระเบียงชมวิว จะเห็นปราสาทสัจธรรม อยู่ข้างล่าง ริมทะเล งดงามมากๆ

ซูมๆ ดูใกล้ๆ

ชมวิวจนสบายใจแล้วเราต้องเดินลงบันไดไปข้างล่าง อีกประมาณ 60 ขั้น เหนื่อยนิดๆ

ไปรับหมวกกันกระแทก มาคนละใบ แล้วก็ไปเดินชมวิวด้านในก่อน ตรงนี้เป็นท่าเรือ ไว้บริการขับชมปราสาทริมทะเล (คิดราคาเพิ่มอีกเป็นพันค่ะ)
จะเห็นว่ามีการก่อสร้างอยู่ เค้าจึงแนะนำให้ใส่หมวกไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

แต่ใส่นานๆก็ร้อนหัวแล้วหนักด้วย พวกเราเลยแอบถอดเป็นพักๆ

รอบๆด้านนอกมีนั่งร้านเต็มไปหมด มีช่างปีนๆป่ายๆกันหลายคน

บางมุมก็มีผ้ายางปิดไว้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

เพิ่งมีการนำรูปแกะสลักมาตั้ง ในบางมุม

ปราสาทสัจธรรม มีทางขึ้น 4 ด้าน(4 ทิศ) แต่วันนี้เค้าให้ขึ้นทางด้านข้าง เพราะด้านอื่นมีการก่อสร้าง

เดินเข้าไปข้างในด้านที่อยู่ริมทะเล มีตั่งให้นั่งเล่นด้วย

นั่งเล่นสักพักมองวิว ดูผนัง-เพดาน ที่แกะสลักอย่างปราณีต ลมเย็นสบาย น่านอนมากๆ

หายเมื่อยก็เดินถ่ายรูปกันต่อ (พยายามไม่เดินไปในส่วนที่กำลังก่อสร้าง) พื้นปราสาทเป็นไม้แผ่นใหญ่มากๆ

ตามผนังทุกตารางนิ้วเป็นการแกะสลักไม้(ด้วยมือ)อย่างละเอียด เทพแต่องค์ก็ใหญ่โตมาก

ตรงรอยต่อไม้ก็แกะได้ต่อเนื่องเป็นรูปเดียวกัน

ริมระเบียงก็มีรูปแกะสลักแบบลอยตัว

มะปรางขอเดินเล่นริมระเบียงแต่แม่ตุ๊กกลัวหล่นล่ะ สูงเหมือนกัน

มีรถเครนมายกๆอยู่อีกมุม



เข้ามาเดินใน มุมนี้สวยงาม เพราะเปิดไฟสีเหลืองๆ

เพดานสวยมาก

ซูมใกล้ๆแล้วจะเห็นรูปแกะสลักเล็กๆเป็นร้อยๆรูปเลย

ไฟส่องหน้าแรงมาก

ตรงมุมมืดๆบรรยากาศดูวังเวง

มะปรางช่วยแม่ตุ๊กนับดูว่ามีเด็กทั้งหมดกี่คนเอ่ย

เดินได้ร่วมๆ ชม.ก็เริ่มเมื่อยขา เลยออกมาด้านนอกดีกว่า สรุปว่าโดยรวมๆก็สวยงามและดูอลังการดี แต่ไม่ค่อยซาบซึ้งเท่าไหร่ ถ่ายรูปก็ไม่ค่อยสวยมากเพราะมีนั่งร้านบังเป็นหย่อมๆ ไม่เป็นไรถือว่าอุดหนุนคนไทยก็แล้วกัน

มะปรางขอตีฆ้องหน่อยนะ

มุมตรงนี้สวย เพราะเห็นรูปพระพรหม 4 หน้า ชัดและสวยมาก

มุมนี้ไม่มีการก่อสร้าง

สมควรแก่เวลา พวกเราก็เดินออกมา เพื่อจะกลับกัน

ผ่านร้ายขายของที่ระลึก มีร้านกาแฟเล็กอยู่ริมบึง นั่งเล่นหน่อย

เส้นทางกลับต้องเดินข้ามสะพานเล็กๆ มะปรางขอดูปลาแป๊บนึง

คืนหมวกเสร็จก็เดินขึ้นบันไดมาด้านบน มะปรางขอถ่ายรูป...ตลกดี

แม่ตุ๊กขอแจมมั่ง ขาดแต่คุณป๋า ....หมดแรง ไม่ยอมมาถ่ายรูป

มีรถม้ามารับ พาเรากลับไปที่ลานจอดรถด้านหน้า

มะปรางบอกว่าพอกลับหาดใหญ่อยากไปขี่ม้าจังเลย..........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น