วันนี้ออกเดินทางจากหาดใหญ่ตั้งแต่แปดโมงเช้า แวะไหว้พระแล้วก็ลุยกันเลยไปตามทางสายเอเชีย คนยังไม่เริ่มเล่นน้ำสงกรานต์กันเลย ขับรถสบายดี แต่ดูแล้วรถค่อนข้างมาก สงสัยออกท่องเที่ยวเหมือนกัน
ประมาณ เก้าโมงกว่าๆ ก็ถึงท่ามิหรำ เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาพับผ้า ลงจากเขาพับผ้าเลยนาโยงมาหน่อย จะมีทางเลี่ยงเมืองเลี้ยวซ้ายไปเลยจะเป็นทางลัดไป ห้วยยอดโดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองตรัง
ระหว่างทางไปห้วยยอดจะผ่าน ลำภูราซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเค้กมาก แล้วก็จะถึงห้วยยอด ส่วนถ้ำเลเขากอบจะอยู่เลยตัวเมืองห้วยยอดเล็กน้อย ถ้ามาจากห้วยยอดจะอยู่ซ้ายมือ ปากทางมีป้ายเขียนชัดเจน แยกไปอีกประมาณ แปดร้อยเมตรก็ถึง ที่บริเวณถ้ำเลเขากอบนี้คราคร่ำไปด้วยรถจำนวนมากมาย ดูแล้วเป็นคนต่างถิ่นทั้งนั้น
ทะเบียนรถจากกรุงเทพ ก็มีหลายคัน รถบัสก็จอดกันเต็ม2ข้างทาง พวกเรารีบหาที่จอดรถ แล้วก็ลงไปเก็บภาพทันทีค่า (แดดร้อนมาก สัก40องศามั้ง)
ตอนมาถึงประมาณ สิบเอ็ดโมง ก็รีบไปจองเรือนำเที่ยว ซึ่งดูคิวแล้วคงอีกราวชั่วโมงกว่า ๆๆ แต่ยังงัยก็จะรอนะ เค้าบอกว่าถ้าไม่ใช่เทศกาลนะ แทบจะไม่มีคนเลย
ระหว่างคอยก็เดินเล่นอยู่แถวๆนั้น ก็ไม่ค่อยมีอะไรดูเท่าไหร่ มีดอกไม้ เรือนกล้วยไม้แลดูสวยงามพอใช้ มะปรางไปเดินวนเวียนหลายรอบเพราะมีน้ำพุเย็นๆสบาย
ถ่ายรูปกันซะหน่อย
มีลิงหางยาวบนเขาด้วย มันมารอกินขนมอยู่ที่พื้น แต่ก็กลัวคน มีอยู่ตัวหนึ่งมีลูกเกาะพุงด้วย
มะปรางบอกว่า " เหมือนมะปรางเลย!" เพราะมะปรางชอบเกาะแม่เหมือนลูกลิงงัย
พอกินเสร็จมันก็ยกหางลูกมันขึ้นมาเลียก้นใหญ่เลย น่ารักดี (มันก็รักลูกมัน เหมือนคนแหละ)
ชอบซุ้มดอกประดู่มากๆๆๆ สีสวยและหอมเย็นๆดีจ้ะ
ถ่ายรูปจนเหนื่อยก็ยังไม่ถึงคิว เลยไปกินข้าวเที่ยงก่อน เป็นร้านเพิงเล็กๆ แมลงวันบินว่อน กินข้างราดแกงหนึ่งอย่างสองจาน ส่วนคุณป๋ากินข้าวคากิเพิ่มไข่เพิ่มหมูผัดพริก ราคาแพงไปหน่อย ตั้ง 140 บาท แน่ะ
กินอิ่มแล้วก็ไปนั่งรอเรือ ประมาณ เที่ยงก็ได้ลงเรือ เป็นเรือไฟเบอร์กลาสมีคนพายหัวท้ายสองคน ราคาเหมาเที่ยวละ 200 บาทนั่งได้ประมาณ 4-6 คน
คนพายก็นำเรือออกไปกันเลย พายๆๆๆ น้ำดำมาก ไม่กล้าเอามือลงไปจุ่มเลย
แล้วก็ถึงทางเข้าถ้ำ.......ตื่นเต้นๆๆๆ
ต้องอ่อนน้อมสุดขีด .....ถ้ำมันเตี้ยมากค่ะ เด๋วหัวไปชนหินย้อย ล่ะ ได้เลือดแน่ๆเลย
พอพายเข้าไปได้หน่อยหนึ่งเรือก็จอดเทียบท่า คนเรือก็จะเป็นไกด์นำเที่ยว แต่ละห้อง
เช่นห้องคนธรรพ์
ห้องเจ้าสาว
.......เฉลย....หินตาอันล่าง(หินงอก) ส่วนหินยายอันบน(หินย้อยเชียว)
เหมือนลูกชิ้นชุบแป้งทอดมากกว่าเนอะ (หิวๆๆๆๆๆ)
พื้นจะเปียกๆแฉะๆพอควร แนะนำว่าควรสวมรองเท้าที่กระชับไม่ลื่น
หลังจากเดินจนเมื่อยนิดๆ(มะปรางยังร่าเริงมาก อากาศในถ้ำมันเย็นๆชื้นๆสบายดี) ก็จะเป็นช่วงไฮไลท์ และอันซีน คือตอนลอดเข้าไปในถ้ำ ซึ่งไม่มีที่ไหนในประเทศไทย เรือจะพายเข้าไปในโพรงเเคบๆเตี้ยๆระยะทางประมาณ 350 เมตร คนพายและผู้โดยสารจะไม่สามารถนั่งได้ ต้องนอนหงายกันหมด
ไก้ด์บอกให้ลองนอนดูก่อน.... ฝึกไว้.....เด๋วจะเข้าของจริงแล้ว
พอตรงจุดที่ต่ำที่สุดต้องจัดที่นั่งกันใหม่คือต้องนอนแถวเดียวกัน มะปรางอยู่ตรงกลาง คุณป๋าอยู่ซ้าย กับ เเม่ตุ๊กอยู่ขวา(เค้าบอกว่าด้านขวาหินจะย้อยลงมามากกว่า หุหุ รู้งี้ลดความอ้วนมาก่อนก็ดีนะ) คนเรือจะอยู่หัว-ท้ายเรือใช้มือดันหินด้านข้างให้เรือไปข้างหน้า เพราะพายไม่ได้มันแคบเท่าเรือพอดีจริงๆหินย้อยบนเพดานถ้ำจะย้อยลงมาบางทีเฉี่ยวพุงกระทิ เฉี่ยวหน้า หวาดเสียวแต่ไม่อันตราย เรียกเสียงกรี๊ดกราดตลอดทาง
นี่เป็นรูปเดียวที่ถ่ายได้นะจ๊ะ เพราะไม่กล้าขยับแขนเลย กลัวมากๆ แต่ก็สนุกนะ..... ไม่ลองไม่รู้จริงๆนะจะบอกให้
ตอนลอดถ้ำเห็นพุงคนข้างหลังด้วย เกือบไม่ผ่านแนะ ปะป๊าแอบแขม่วเอาไว้
ตอบลบรึปล่าว
อยากไปบ้างจัง ไว้รอให้ลูกโตก่อนแล้วเจอกันนะ
ตอบลบ