TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2567/11/04

Riga "The Capital of Latvia-Paris of the North" (ริก้า เมืองหลวงประเทศลัตเวีย)

 วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2567

เวลา 18:00 น. ออกเดินทางจากเมืองแปร์นู ประเทศเอสโตเนีย เพื่อไปยังเมืองริก้า ประเทศลัตเวีย
คุณป๋าจองตั๋วของ บ. Lux Express เหมือนเดิม เพราะรถวิ่งตรงไม่จอดแวะระหว่างทาง
คนขับรถจะติดป้ายที่กระเป๋าเดินทางของทุกคนเพราะเป็นเส้นทางข้ามประเทศ

เดินทางลงใต้โดยใช้ถนนหมายเลข A1 motorway Riga-Estonian border (Tallinn highway) 
ระยะทางประมาณ 180 ก.ม.

เวลา 19:00 น. ก็เดินทางเข้าสู่ประเทศลัตเวีย ข้ามแม่น้ำ Salaca ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ

The Salaca river is in northern Latvia. It flows to the Gulf of Riga, 90 km.long.


Gauja River


เวลา 20:30 น. เข้าสู่เขตเมืองริก้า ทางซ้ายมือคือหอคอย Riga Radio and TV Tower

Daugava river

Railway Bridge

เวลา 20:40 น.เดินทางมาถึง Riga bus station ลากกระเป๋าข้ามถนนไปยังโรงแรมประมาณ 200 เมตร

Forums Hotel


เช็คอินแล้วขึ้นลิฟต์ไปห้องพัก พวกเราจะพักที่เมืองนี้ 2 คืน

ห้องเล็ก สะอาด มีแอร์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ
 เก็บของเสร็จก็ออกไปเดินเล่นรอบๆโรงแรม พอเริ่มมืดก็กลับห้องอาบน้ำพักผ่อนค่ะ

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2567
เวลา 6:00 น. ตื่นเช้าอากาศค่อนข้างเย็น ท้องฟ้ามีเมฆครึ้มๆ

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารชั้นใต้ดินของโรงแรม

อาหารหลากหลาย ขนมหวานอร่อยมาก


เวลา 8:00 น. ออกไปเดินเล่นในเมืองเก่า

เดินไปตามถนนด้านหน้าโรงแรมพอถึงสี่แยกก็เลี้ยวซ้าย

Audēju Street

พอถึงสี่แยกลานจอดรถ เดินขึ้นเหนือไปตามถนน 100 เมตร

ตรงมุมตึกมีบ้านไม้หลังเล็กๆสำหรับแมวจร ด้านข้างมีกล่องรับบริจาค

Cat's Hostel

ตอนเช้าไม่มีคน ตามถนนเงียบมากค่ะ

Reformation Church on Mārstaļu street

เดินย้อนกลับมาชมโบสถ์เซนต์จอห์น


St. John's Church on Skārņu street

ด้านหลังคือโบสถ์เซนต์ปีเตอร์

St. Peter's Church
It is a parish church of the Evangelical Lutheran Church of Latvia.

โบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่ออุทิศแด่เซนต์ปีเตอร์

ภัตตาคาร Petergailis ตั้งอยู่ระหว่างโบสถ์เซนต์จอห์นและโบสถ์เซนต์ปีเตอร์

Restaurant Petergailis
 It is located between St. John's and St. Peter's Churches on Skārņu Street since 1978.

A gilded rooster adorns the entrance to the Pētergailis restaurant.

เดินต่อไปตามถนน Skārņu Street ด้านข้างโบสถ์

Town Musicians of Bremen
It was created in 1990 by Bremen artist Christa Baumgärtel.
 It was gifted by Bremen because Riga is an old Hanseatic Town and partner city of Bremen.

บริเวณลานด้านข้างโบสถ์เซนต์ปีเตอร์มีรูปปั้นของสัตว์ 4 ตัว จากหนังสือนิทาน Grimms' Fairy Tales 
สร้างขึ้นในปี 1990 โดยศิลปินชาวเบรเมน รูปร่างและหน้าตาไม่เหมือนกับของจริงที่เยอรมนี

Statues of the donkey, the dog, the cat and the rooster who stand atop each other.
It is said that rubbing the noses of the animals is supposed to bring good luck.

St. John's Church (a high Gothic stepped gable, a span roof and a small tower)
It was first mentioned in written sources in 1297, the oldest Lutheran church of Riga.

  Opening times : Mon : closed, Tue-Sun : 10:00 - 17:00.
โบสถ์เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10-17 น. ทางเข้าเป็นประตูเล็กๆ อยู่ในซอย ตอนนี้ยังไม่เปิดค่ะ



Town Musicians of Bremen statue is one of the top tourist sights in Riga.

รอบๆโบสถ์เป็นโรงแรมและร้านอาหาร

ทางขวามือคือ Former St. George's Church และ Museum of Decorative Arts and Design

เดินไปตามถนนด้านข้างโบสถ์เซนต์ปีเตอร์

ประตูทางเข้าโบสถ์เซนต์ปีเตอร์อยู่ทางทิศตะวันตก โบสถ์เปิดทุกวันเวลา 10-18 น.

St. Peter's Church is the highest church in Riga and one of the oldest and most notable sacred buildings of medieval monumental architecture in the Baltic States. The Church was built in 1209.

 The statue of the rooster on the top of the church weighs 158 kg 
and 140 grams of gold were used to gold plate the statue. 

โบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1209 หอระฆังสูง 123 เมตร จึงเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่และสูงที่สุดในกลุ่มบอลติก
บนยอดหอคอยมีรูปปั้นไก่ตัวผู้หนัก 158 กิโลกรัม ปิดด้วยทองหนัก 140 กรัม

The tower is 123.25 meters high, visitors are taken to the second gallery at the height of 72 meters.

Admission: church, exhibitions & tower 9 €

ค่าเข้าชมโบสถ์และขึ้นไปชมวิวบนหอคอยคนละ 9 ยูโร


Donkey statue อยู่ทางทิศใต้ของโบสถ์

เดินออกมายังถนน Kungu Street มีรูปปั้นกามเทพแผลงศรอยู่หน้าร้านจิวเวลลี่

Kaļķu street

เลี้ยวขวาไปยังถนนด้านหน้าศาลาว่าการเมือง

เดินเข้ามาจะพบกับจตุรัสกลางเมืองขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยอาคารสวยงามมาก

The House of the Black Heads
It was built in 1334 as part of the Riga Town Hall Square, originally known as the New House.

The building has been rebuilt several times since 1522.
It was destroyed by bombs in the Second World War but was fully rebuilt in 1999.

อาคารเก่าแก่สีแดงทางทิศใต้คือ House of the Black Heads สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1332

It was first used by various merchant and artisan societies, 
later by the merchants of the Great Guild and the Blackhead Brotherhood in the 17th century.

แรกเริ่มสร้างขึ้นเพื่อเป็นโกดังและที่พบปะชุมนุมสำหรับพ่อค้า และในศตวรรษที่ 17 ถูกขายให้กลุ่ม
Brotherhood of Black Heads ซึ่งเป็นสมาคมพ่อค้าชาวเยอรมัน ช่างฝีมือและชนชั้นสูงในริก้า

อาคารหลังนี้ได้รับการซ่อมแซมหลายครั้งตั้งแต่ปี 1522
 และครั้งสุดท้ายหลังจากถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการสร้างขึ้นใหม่จนเสร็จในปี 1999

Upper facade decorated with Astronomical clock, Sculptures of Neptune, Mercury, Unity and Peace

ผนังด้านหน้าอาคารส่วนบนประดับด้วยนาฬิกาดาราศาสตร์และรูปปั้นของเทพ 4 องค์

Portal of the House of Blackheads decorated with reliefs of St. Mary and St. Mauritius.

ประตูทางเข้าประดับด้วยรูปปั้นของเซนต์แมรี่และเซนต์มอริเชียส ด้านบนมีรูปปั้นสิงโตถือโล่ 2 ตัว
เซนต์มอริเชียสเป็นสัญลักษณ์ของสมาคม Brotherhood of Black Heads

Next to the Blackheads' House is the similarly renovated Swabian House, 
which was formerly a separate building but is now part of the Blackheads' House.

อาคารด้านข้างเคยเป็น Swabian House ปัจจุบันก็เป็นส่วนหนึ่งของ House of the Black Heads

Today the House of the Blackheads is an event center and museum. 

ปัจจุบันอาคารหลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ และเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยง งานประชุม

The replica of the Statue of Roland
The symbol of the Medieval Hanseatic cities, with the original located in St. Peter’s Church.

Roland was nephew of Charlemagne and a Frankish military leader.
He became the symbol of justice in Northern Germany. 

ตรงกลางจตุรัสมีรูปสลักหินแกรนิตของ Roland ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม

House of the Blackheads Open everyday : 10.00 - 17.00  Entrance fee adult 7.00€

พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10-17 น. ค่าเข้าชมคนละ 7 ยูโร

ทางทิศเหนือของจตุรัสคือ อาคารที่ว่าการเมืองริก้า

Riga City Hall (Rīgas dome)
It is the main administrative building of the Riga City Municipality.
It is two-storey building with a luxurious bell tower in the middle of the roof.

It was built in 1848-1850. It was completely destroyed by bombing during World War II. 
The building is a replica of the original, constructed in 2004 following the medieval pattern.

ศาลาว่าการเมืองสร้างขึ้นในปี 1848-1850 ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 
และในปี 2004 ได้สร้างขึ้นใหม่ในแบบเดิม ตรงกลางเป็นหอนาฬิกา ปัจจุบันเป็นที่ทำการรัฐบาล


เดินออกจากจตุรัส เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Tirgonu street

บนถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าและโรงแรม


เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Kramu street

ตรงสุดถนนมองเห็นยอดโดมของมหาวิหารแห่งริก้า

เดินเข้ามาประมาณ 30 เมตร  ทางขวามือคือ Rozena Street เป็นถนนที่แคบที่สุดของเมืองเก่าริก้า
ส่วนแคบที่สุด 2.1 เมตร สามารถเหยียดแขนแตะผนังได้สองด้าน ถนนไปสิ้นสุดที่ Dome Square

Rozena Street is the narrowest street in the Old Town, with 2.1 meters width in the narrowest. 

It begins at the intersection with Dome Square and ends at the intersection with Krāmu Street . 

There is only one building on the street, which housed the wine cellars for about 300 years.
Today, they have been restored and the restaurant "Rozengrāls" is decorated in a medieval style.

สมัยก่อนบนถนนนี้มีอาคารเพียงหลังเดียวซึ่งเป็นสถานที่เก็บไวน์มายาวนานถึง 300 ปี
ปัจจุบันอาคารหลังนี้ได้เปลี่ยนเป็นร้านอาหารที่ตกแต่งแบบยุคกลาง

เดินออกมาที่ถนน Kramu street ทางขวามือคือพิพิธภัณฑ์ Museum of the barricades of 1991

เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน Jauniela


Jauniela (New Street)
 It is a pedestrian street framed by an array of pastel-colored buildings on cobblestone paths.

ถนนคนเดินเส้นเล็กๆ สองฝั่งเป็นอาคารสีพาสเทล

เดินต่อไปจนสุดถนนจะพบกับอาคารด้านข้างของมหาวิหารแห่งริก้า มีสนามเด็กเล่นอยู่ที่ลานด้านล่าง

Bronze statue of Armadillo and Labyrinth playground

Bronze statue of rooster on top the carousel and and a maze of wooden walls 

Bronze statue of dragon

Bronze statue of unicorn

Bronze statue of owl

Riga Cathedral (The Cathedral Church of Saint Mary)
It is the Evangelical Lutheran cathedral in Riga, the seat of the Archbishop of Riga.

มหาวิหารแห่งริก้า เป็นโบสถ์โปรแตสแตนท์ ลูเธอรัน สร้างขึ้นในปี 1211 โดยบิช็อปอัลเบิร์ต

The church was built  in 1211 by Livonian Bishop Albert of Riga.

It is the largest and one of the oldest sacred buildings of the medieval period in the Baltic region. 

The cathedral is combining Romanesque, early Gothic, Baroque and Art Nouveau features.

มหาวิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดจากยุคกลางในกลุ่มประเทศบอลติก
มีการตกแต่งผสมผสานแบบโรมาแนสก์,โกธิค, บาโรค และอาร์ตนูโว ยอดเสาบนหอคอยมีรูปไก่สีทอง

Opening hour : Monday to Saturday 10:00-17:00 Sunday 14:00-17:00
Admission fee - 5 EUR.

The cathedral is one of the most recognizable landmarks in Latvia. It is known for its weathercock.

จุดจอดรถนำเที่ยวย่านเมืองเก่า ราคาคนละ 10 ยูโร

Route  map in the heart of Riga - the Old City

Riga bus tour : cost of one trip - 10.00 EUR

Dome Square เป็นจตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองริก้า มหาวิหารตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจตุรัส

Dome Square is the largest square in the Old Town, surrounded by several architectural monuments: Riga Dome Cathedral and Riga's first Eclecticism-style building  "Riga Bourse House" 

Art Museum Riga Bourse พิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่ทางทิศเหนือของจตุรัส



เดินออกจากจตุรัสไปตามถนน Pils street จนถึงสี่แยก มีประติมากรรมรูปผู้หญิงอยู่ตรงหัวมุมตึก
Meitene statue

เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน Mazā Miesnieku iela (Little Butcher Street)

ด้านหน้าคือยอดหอคอยของโบสถ์ St. Jacob’s Catholic Cathedral 

เลี้ยวขวาที่สี่แยกจะพบกับอาคารเก่าสามหลังเรียงติดกัน "Three Brothers"

Three Brothers is a building complex consisting of three houses. 

Three Brothers เป็นบ้าน 3 หลังที่สร้างติดกัน ถือว่าเป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองริก้า 

The Three Brothers are the oldest medieval dwelling houses in Riga. 
The legend said that they had been built by three men of one family.

อาคารนี้ตั้งอยู่บนถนน Mazo Pils street

The building at 17 Maza Pils Street is the oldest (Oldest brother).
It was built around 1490. It is decorated with Gothic niches and a stepped pediment.

บ้านหลังแรกเป็นของพี่ชายคนโต สร้างในปี 1490 ถือว่าเก่าแก่ที่สุด
อาคารสีขาวตกแต่งสไตล์โกธิค หลังคาเป็นหน้าจั่วแบบขั้นบันได

The building at 19 Maza Pils Street (Middle brother)
He is the richest one of the three, built in 1646. There is an inscription "Soli deo gloria" 
(Glory to God alone) above the entrance, the facade features the style of Dutch Mannerism.

บ้านหลังที่สองเป็นของพี่ชายคนรองที่มีฐานะดีที่สุด สร้างในปี 1646
อาคารสีเหลืองตกแต่งหรูหราสไตล์ดัทช์ มีข้อความจารึกบนประตูทางเข้า 

The building at 21 Maza Pils Street (Youngest brother)
It was built in the second half of the 17th century. It is the narrowest and the smallest building.
 The facade has a mask, which protected its inhabitants from evil spirits.

บ้านหลังที่สามเป็นของน้องชายคนเล็ก สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 17
อาคารสีเขียวมีขนาดแคบและเล็กที่สุด บนประตูทางเข้ามีรูปหน้ากากป้องกันสิ่งชั่วร้าย

The architectural ensemble "Three brothers" is the location of State Inspection for Heritage Protection and Latvian Museum of Architecture.

เดินเลี้ยวขวาไปที่ถนน Klostera street

 St Jacob's Cathedral
The church building was dedicated in 1225. It was dedicated to Saint James the Greater.

มหาวิหารเซนต์จาคอบ(เซนต์เจมส์) เป็นอาสนวิหารนิกายโรมันคาทอลิกแห่งริก้า 
สร้างขึ้นในปี 1225 เพื่ออุทิศให้กับนักบุญเจมส์ผู้ยิ่งใหญ่ 

Main portal

วิหารเปิดให้เข้าชมฟรี มีเวลากำหนดเป็นช่วงๆ

พวกเราจะเดินต่อไปยังด้านหน้าโบสถ์สีเหลืองหลังนี้กันค่ะ

เลี้ยวซ้ายเดินต่อไปตามถนน Klostera street

Klostera Street is home to the Catholic Cathedral of Saint James (Klostera Street 2) 
and the Catholic Church and Monastery of Saint Mary Magdalene (Klostera Street 4) 

ตรงหัวมุมถนน มองเห็นยอดหอคอยของวิหารเซนต์เจมส์และโบสถ์เซนต์แมรี่แม็กดาเลน

St. Mary Magdalene's Church is a Roman Catholic church 

The Church of St Mary Magdalene was first built as a wooden monastery chapel around 1260.
The current building dates back to 1746 with Baroque style.

โบสถ์เซนต์แมรีแม็กดาเลนเป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก แต่เดิมเป็นโบสถ์ไม้สร้างขึ้นในปี 1260

Opening times : Daily: 06.30 - 20.00 , Entrance is free

โบสถ์เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันเวลา 06.30 - 20.00 น.

ด้านในตกแต่งสวยงาม แท่นบูชาเป็นไม้ ผนังรอบๆประดับด้วยภาพวาด ในโบสถ์เงียบสงบมากๆ

The church is named for Jesus' companion, Mary Magdalene.

The church was visited by Pope Francis on 21 Sep 2018.

Pope Francis เสด็จมาเยือนที่โบสถ์นี้เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2018

อาคารฝั่งตรงข้ามโบสถ์ทาสีแดงตัดกับสีเหลืองของโบสถ์เลยค่ะ


เดินต่อไปตามถนน Klostera street

 Klostera street is 180 meters long and paved with cobblestones.

The street end at the intersection with Arsenāla Street (at Pils Square and Mazās Pils Street).

เดินออกมาจนถึงสุดถนน จะพบกับโบสถ์สีขาว หลังคายอดแหลมสีฟ้า
 Church of Our Lady of Sorrow

The white-and-blue Church was the first newly built stone Catholic church in Riga.
 It was built in 1785 and rebuilt in 1860 with the neo-Romanesque style.

โบสถ์ Our Lady of Sorrow เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1785
และสร้างใหม่ในปี 1860 ในแบบนีโอ-โรมาแนสก์ หลังคายอดแหลมสีฟ้าสวยโดดเด่น

ด้านข้างโบสถ์คือหนึ่งในหอคอยของปราสาทริก้า

Riga Castle has a three-storey enclosed by four-sided building with towers in the corners.   
The Lead Tower is in the southeast and the Tower of the Holy Spirit is in the northwest.

ปราสาทริก้า เป็นอาคารสามชั้นล้อมรอบทั้งสี่ด้าน มีหอคอยอยู่ตรงหัวมุม
หอคอยอันนี้คือ Lead Tower ส่วนอันที่อยู่ตรงข้ามริมแม่น้ำคือ Tower of the Holy Spirit

Pils laukums is a square in front of Riga Castle 

จตุรัสด้านหน้าพระราชวัง ตรงกลางเป็นสวนสาธารณะ มีเสาธงเรียงเป็นแนว


The Children’s Monument
The Memorial to the thousands of Latvian children that were deported to Siberia 
during the Soviet occupation between 1941 and 1949.

ประติมากรรมรูปเด็กผู้หญิง สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเด็กหลายพันคนที่โดนเนรเทศไปยังไซบีเรีย
ในช่วงการยึดครองของโซเวียตระหว่างปี 1941 ถึง 1949 

Riga Castle was founded in 1330. The castle's unique blend of architectural styles, 
from medieval fortifications to Baroque and Art Deco elements, reflects its diverse past.

One of the most iconic features of Riga Castle is the Three Star Tower.
It was added in the 1930, symbolizes the unity of Latvia's historical regions: 
Vidzeme, Latgale, and Courland. 

Riga Castle has been the residence of the President of Latvia since 1922 
when the institution of the President of Latvia was founded.

The Tower of the Holy Ghost hold the Flag of Latvia and the Standard of the President.

ปราสาทริก้าสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1330 ในอดีตเคยเป็นป้อมปราการ ตัวปราสาทมีการซ่อมแซมหลายครั้ง

ลักษณะที่โดดเด่นของปราสาทนี้คือหอคอยสูง ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1933 ด้านบนมีรูปดาวสีทองสามดวง
 เป็นสัญลักษณ์สามภูมิภาคของประเทศลัตเวีย

เดินขึ้นมาชมวิวบนสะพาน Vanšu Bridge

 Vanšu Bridge is a cable-stayed bridge that crosses the Daugava river.
It was built during the Soviet period and opened to public use on 21 July 1981, 595 m length.

ปราสาทริก้าหันหน้าออกสู่แม่น้ำ

ปัจจุบันที่นี่เป็นบ้านพักของประธานาธิบดีแห่งลัตเวียตั้งแต่ปี 1922 ด้านบนหอคอยมีธงชาติประดับอยู่

แม่น้ำ Daugava อยู่ทางฝั่งตะวันตกของปราสาท

ด้านล่างมีทางเดินริมแม่น้ำ ทางทิศใต้คือสะพาน Stone Bridge

สะพาน Vanšu Bridge เป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำ Daugava มีความยาว 595 เมตร

ตรงเชิงสะพานคือธนาคาร Swedbank

อาคารรูปสามเหลี่ยมตรงเชิงสะพาน Stone bridge คือหอสมุดแห่งชาติ

National Library of Latvia

The Daugava river is rising in the Valdai Hills of Russia that flows through Belarus and Latvia 
into the Gulf of Riga of the Baltic Sea. It is 1,020 km in length, of which 352 km are in Latvia.

เดินลงจากสะพานเข้าสู่ถนน Torņa Street อาคารสีเหลืองนี้คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ "Arsenāls"

Arsenāls is the exhibition hall of the Latvian National Museum of Art.

Jacob's Square

ทางทิศตะวันออกของจตุรัสเป็นโรงแรมและร้านอาหาร

Torņa Street เป็นถนนด้านนอกกำแพงเมืองเก่า พวกเราจะอ้อมไปชมประตูเมืองเก่าก่อนค่ะ

Trokšņu Street (Noise Street)
 It is one of the narrowest streets in Old Riga. The width of the street is 2.5-2.85 meters.

ถนน Trokšņu Street อยู่ถัดมาจากถนน Torņa Street เป็นหนึ่งในถนนที่แคบที่สุดของเมืองเก่าริก้า

เดินตามถนนมาประมาณ 100 เมตรจนถึงสี่แยกที่ตัดกับถนน Aldaru street

Art Gallery "Slazds" : Latvian modern art gallery and shop

The Swedish Gate (Zviedru vārti)
It was erected 1698 as a part of the Riga Wall to provide access to barracks outside the city wall.

ประตูสวีเดนสร้างขึ้นในปี 1698 เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่าริก้า
มีความสำคัญในการค้าขายและยังเป็นทางผ่านไปยังค่ายทหารนอกกำแพงเมือง

It was serving as both fortification wall and as an important border for trade purposes.
 It is the only remaining gates from the former eight.

ประตูนี้เป็นเพียงประตูเดียวของกำแพงเมืองที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน

Rāmera tornis
The fragment of the city's defensive wall was built in the first half of the 13th century
 as a quadrangular defensive wall tower. 

จากประตูเมือง เดินต่อไปตามถนน Trokšņu Street  จะพบกับซากกำแพงเมืองเก่าจากศตวรรษที่ 13

Trokšņu Street formed the inner side of the city's defensive wall in the 16th century. 

 The remains of the Rāmer Tower were discovered in 1913.
the Rāmer Tower and a fragment of the defensive wall were restored in 1985-1987.

The restored city wall shows that it was originally only 3.5 m high. 
Over time, it was raised to a height of 13 m and reinforced with arcades.

หอคอย Rāmer Tower ได้รับการขุดค้นพบในปี 1913 และในปี 1985-1987 มีการซ่อมแซมหอคอย-
กำแพงเมืองเก่า เริ่มแรกกำแพงสูงเพียง 3.5 เมตร แต่พอเวลาผ่านไปก็ต่อเติมจนสูงถึง 13 เมตร

ทางทิศเหนือของถนนเป็นแนวกำแพงยาวประมาณ 300 เมตร ตรงกลางมีประติมากรรมที่ทำจากบรอนซ์

Ghost monuments (Geister denkmal)
The Ghost bronze sculpture by Ieva Rubeze. It was unveiled in 2015.

The art object is a kind of monument to the "sculpture unexposed" 
and the traditional ghost technique - hiding under the cloth".

ประติมากรรมรูปผีภายใต้ผ้าคลุมสีดำ จัดแสดงตั้งแต่ปี 2015

The statue appears as it is emerging from a wall with its face shrouded in a cloak.

เดินต่อไปจนสุดแนวกำแพงแล้วเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นไปยังถนน Torņa Street

The red-roofed buildings along Torņa Street is known as Jacob’s Barracks

Cannon is located outside the defensive walls.

ลานกว้างด้านนอกกำแพงเมืองเป็นที่ตั้งของปืนใหญ่

Cannon, red walls of restored section of Riga Old City Walls and Ramera Tower on Torņa Street

The Jacob Barracks were built along the Torņa street.

เดินออกมาจนสุดถนน Trokšņu Street แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Smilšu Street

 Powder Tower and Latvian War Museum 
The Powder Tower is one of medieval Riga's fortification wall towers.
It was built in 1330, originally called the Sand Tower. 

อาคารสีแดงด้านหลังและหอคอย คือพิพิธภัณฑ์สงคราม (Latvian War Museum)


The height of the tower is 25.6 metres, diameter is 14.3 metres and wall thickness is 3 metres.

 It was named the Powder Tower due to gunpowder stored there.
 Its present appearance was set in 1650.  The War Museum was established in it in 1919.

Powder Tower เป็นหนึ่งในหอคอยของป้อมปราปราการเมืองเก่า สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1330
หอคอยปัจจุบันสร้างในปี 1650 สูง 25.6 เมตร กว้าง 14.3 เมตร ตั้งชื่อนี้เพราะด้านในเป็นที่เก็บดินปืน

ตรงข้ามกับหอคอยคืออาคารหลังสุดท้ายบนถนน Torņa street เป็นอาคารสีเหลืองมีภาพวาดที่ผนัง
Coats Of Arms Of Latvian Municipalities Mural 

The municipal coats of arms is painted on facade of the Jacob's barracks building at Torņa iela 4.
It is aspecial gift for centenary of Latvia from all local governments.

 This painting symbolizes the unity of municipalities and the people of Latvia 
as it commemorates the historic event which is engraved in memory. 

ภาพวาดตราสัญลักษณ์ประจำเมืองต่างๆของประเทศลัตเวีย
 สร้างเสร็จในปี 2018 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งประเทศ

เก็บภาพรอบๆเสร็จก็เดินลงใต้ไปตามถนน Meistaru street (Master Street) ประมาณ 100 เมตร

Cat House
The building was built in 1909 with the style of a medieval castle and twin turrets. 

It was owned by a wealthy Latvian trader who was not being admitted to the Great Guild.

The most distinctive feature is the wrought-copper cats with arched backs and raised tails perched
 on the corner turrets of a building.

Cat House สร้างขึ้นในปี 1909 เจ้าของอาคารคือพ่อค้าผู้ร่ำรวยชาวลัตเวีย
ตัวอาคารสร้างในสไตล์ปราสาทยุคกลางมีหลังคาทรงแหลมสองอันอยู่ตรงมุม

จุดเด่นที่สุดของอาคารนี้คือรูปแมวสีดำสองตัวเกาะอยู่บนหลังคา

Tails of the cat figures were turned to the Great Guild building thus expressing the owner's attitude towards the offending organization of traders.

มีตำนานเล่าว่าเจ้าของอาคารให้สร้างรูปแมวหันหางไปทางอาคาร Great Guild เพราะมีเรื่องขัดแย้งกัน

Cat House was completed with colours of Art Nuveau palette, bringing colourfulness to the city.

อาคารหลังนี้สร้างและตกแต่งสไตล์อาร์ตนูโว สีเหลืองสดใส และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองริก้า

The two black cats become a symbol of the city of Riga, due to the popularity of the legend.
It is possibly due to most Latvians’ love of cats and we can see many cats on the streets of Riga.

เดินลงใต้มาตามถนน Meistaru street จนถึงจตุรัส Līvu Square ด้านข้างคืออาคาร Great Guild
Decorative Sculpture The Head of the Liiv (ประติมากรรมรูปหน้าคนตั้งอยู่ในสวน)

Līvu Square is located between Zirgu, Meistaru and Kaļķu streets. 
The Great Guild and the Small Guild were built on this square.

The Small Guild was erected between 1864-1866 with Neo-Gothic style.
The Great Guild building was built in 1941.

Small Guild อาคารสีขาวสไตล์นีโอโกธิคสร้างขึ้นในปี 1864-1866 
Great Guild สร้างขึ้นภายหลังในปี 1941 ตั้งอยู่ทางเหนือของ Small Guild

The square was built on this site in 1950, which was called the Philharmonic Square.

จตุรัสนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1951 ตอนแรกมีชื่อว่า Philharmonic Square และเปลี่ยนมาเป็น Līvu Square

 The Livu Square is surrounded by beautiful buildings. There are a lot of restaurants, cafe and pubs.

รอบๆจตุรัสเต็มไปด้วยอาคารสีสวย ซึ่งเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ และผับ

There are remained some sections of the Old City Walls within the restaurants.

ด้านหน้าอาคารมีการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้าน

ด้านในบางอาคารยังมีซากของกำแพงเมืองเก่าหลงเหลืออยู่

 There are many flowerbeds with various flowers on the Livu Square. 

ทางทิศตะวันออกของจตุรัสคือโรงละครรัสเซีย Mikhail Chekhov

Mikhail Chekhov Riga Russian Theatre
It was founded in 1883, making it the oldest Russian-language drama theatre outside Russia.

โรงละครนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1883 เป็นโรงละครภาษารัสเซียที่เก่าแก่ที่สุดที่อยู่นอกประเทศรัสเซีย

ตรงกลางจตุรัสเป็นแปลงปลูกดอกไม้หลากสีสัน ล้อมรอบด้วยที่นั่งทานอาหารแบบเอ้าท์ดออร์

เดินออกจากจตุรัสไปตามถนน Kaļķu  street

Bergu terases restaurant

Kaļķu Street is one of the most important streets in the Old Town of Riga.
 It is covered with cobblestone and asphalt, the street is 583 m long.

เดินตรงไปจนสุดถนน Kaļķu Street 

Laima Clock and Freedom Monument

นาฬิกา Laima ตั้งอยู่ด้านหน้าอนุสาวรีย์อิสรภาพ เป็นสัญลักษณ์และจุดนัดของชาวเมือง

Laima Clock was established in 1924 and initially was called the Big Clock.
It bore the name "Laima" in 1936, after Riga's renowned chocolate factory in Latvia.

The new style clock designed by Arvis Sproģis was unveiled on December 29, 2017. 

It stands as an iconic public timepiece.
The clock was intended to help citizens manage their time better and avoid tardiness for work. 

นาฬิกา Laima สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1924 ตอนแรกเรียกว่า Big Clock
ต่อมาในปี 1936 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Laima ตามชื่อโรงงานช็อคโกแลตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

The Freedom Monument
 It was unveiled on November 18, 1935.
It is honouring soldiers killed during the Latvian War of Independence (1918–1920). 

Bronze model of The Freedom Monument

The Freedom Monument is a symbol of the freedom, independence, and sovereignty of Latvia.

The monument of granite, travertine and copper is 42.7 meters high. 
 The motto For Fatherland and Freedom is inscribed at the base of the monument.

อนุสาวรีย์อิสรภาพสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารที่เสียชีวิตระหว่างสงครามประกาศอิสรภาพลัตเวีย
เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเสรีภาพ เอกราช และอธิปไตยของประเทศลัตเวีย 
อนุสาวรีย์เปิดตัวในปี 1935 สร้างจากหินแกรนิต หินอ่อนทราเวอร์ทีน และทองแดง มีความสูง 42 เมตร 

At the top of the monument is the 9 meters symbol of freedom – a young woman holding three stars above her head, which symbolize the three historic provinces of Latvia, and national unity.

The two-man honor guard stands at the base of the monument, symbolizing Latvia’s sovereignty.

ด้านบนยอดเสาเป็นรูปปั้นผู้หญิงยืนถือดาวสามดวงไว้เหนือหัว
ด้านล่างมีทหารยามสองคนยืนเวร

The monument is made up of 56 sculptures, divided into 13 sculptural groups on four levels,
 which depict Latvian history and culture.

บริเวณฐานของอนุสาวรีย์ประดับด้วยรูปปั้น 56 รูป ล้อมรอบทั้งสี่ด้าน

Brīvības Laukums (Freedom Square)
รอบๆอนุสาวรีย์เป็นจตุรัสขนาดใหญ่ ห้ามรถผ่าน พวกเราเดินชมทั้งสี่ด้านและเก็บภาพเป็นที่ระลึก

เดินขึ้นเหนือไปตามถนน Brīvības Boulevard (Freedom Boulevard)

เข้าไปเดินเล่นในสวนสาธาณะ  Esplanade 

 fountain in the Esplanade park

ประติมากรรมรูปต้นไม้และบ้านนก

Tree with birdhouses in the Esplanade park

The tree is decorated with an array of painted birdhouses that vary in color,shape and size. 

บ้านนกหลากสี หลายขนาด ประดับอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้

 Cathedral and birdhouses tree

เดินออกจากสวนมาชมมหาวิหารออโธดอกซ์หลังใหญ่กันค่ะ

The Riga Nativity of Christ Cathedral
It was built in a Neo-Byzantine style between 1876 and 1883.

 It is the largest Orthodox cathedral in the Baltic provinces.

"มหาวิหารแห่งการประสูติของพระเยซู"  สร้างขึ้นในสไตล์นีโอไบแซนไทน์ ระหว่างปี 1876-1883 
 เป็นมหาวิหารออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในเขตบอลติก

เข้าชมมหาวิหารฟรี แต่ห้ามถ่ายรูปค่ะ
ด้านในตกแต่งหรูหราประดับด้วยภาพวาดสีทองขนาดใหญ่ เพดานและยอดโดมสวยงาม

The cathedral had survived from both World Wars.

เดินกลับทางเดิมตามถนน Brīvības Boulevard

เดินย้อนกลับมาถึง Freedom square

เข้าไปชมสวนและน้ำพุที่อยู่ด้านหน้าโรงละครโอเปร่า

Nymph fountain is in front of the Latvian National Opera house.
It is the luxurious and second oldest fountain in Riga, opened in 1887 by sculptor August Foltz.

The central figure of the fountain is a 3.5 m high nymph standing on a rock, which holds a conch in 
its outstretched hands and at the feet of which four children play with dolphins.

น้ำพุนี้จัดแสดงตั้งแต่ปี 1887 มีความหรูหราและเก่าแก่เป็นอันดับสองของเมืองริก้า
ตรงกลางเป็นรูปนางเงือกสูง 3.5 เมตร ยืนถือเปลือกหอยไว้บนหัวด้านล่างเป็นรูปเด็ก 4 คนเล่นกับโลมา

อาคารสีขาวด้านหน้าคือโรงละครโอเปร่าแห่งชาติ

Riga White House - Latvian National Opera and Ballet (LNOB)

It has been operating on Aspazijas Boulevard since 1923. 
Its eclectic building is an architecture and art monument of national significance.

โรงละครนี้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1923 มีจัดการแสดงตลอดทั้งปี

Timma Bridge
The footbridge provides crossing over canal of Riga

เดินลงใต้ไปตามถนน Aspazijas Boulevard ประมาณ 600 เมตร เพื่อไปตลาดกลางเมืองริก้าค่ะ

Riga Central Market 
It is the largest market and bazaar in Europe. It was built from 1924 to 1930.
The main structures are five pavilions constructed by reusing old German Zeppelin hangars
 and incorporating Neoclassicism and Art Deco styles.

ตลาดกลางริกาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อสร้างในปี 1924-1930 
โครงสร้างหลักเป็นอาคารหลังคาโค้งห้าหลัง เมื่อก่อนใช้เป็นโรงเก็บเรือเหาะของเยอรมัน 
อาคารสร้างในรูปแบบผสมผสานสไตล์นีโอคลาสสิกและอาร์ตเดโค

The market includes 5 pavilions each with its own category 
: vegetables, dairy, meat, fish and gastronomy products. 

อาคารทั้งห้าหลังขายสินค้าแยกแต่ละประเภทเช่น ผัก นม เนื้อ ปลาและอาหารปรุงสำเร็จ

ตลาดนี้ใหญ่มากๆ สินค้าก็หลากหลาย แต่ละอาคารเชื่อมต่อถึงกันเดินสบาย

Riga Central Market was added to the UNESCO World Heritage list in 1998.

Round the Clock Farmers’ Market
ซื้ออาหารข้างในเสร็จก็ออกมาเดินเล่นต่อที่ตลาดด้านนอก เป็นร้านขายผัก ผลไม้ จากชาวสวน
ผลไม้เบอรรี่ต่างๆถูกมากค่ะ ต้องซื้อกลับไปทานที่ห้อง

เวลา 12:30 น. เดินข้ามถนนกลับโรงแรม อยู่ห่างจากตลาดประมาณ 300 เมตร

แวะซื้อน้ำดื่มที่ร้านค้าหน้าโรงแรม